แฟนโสมหวั่นซนลาทีมชาติหลังตกรอบ

ภายหลังการตกรอบดังกล่าวทำให้สื่อแดนโสมไปโฟกัสที่อนาคตของกุนซือ เยอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ โค้ชชาวเยอรมันที่โดนวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง เนื่องจากตอนรับตำแหน่งนั้น คลิ้นส์มันน์ร้างจากงานโค้ชแบบจริงๆ จังๆ มานาน ตั้งแต่ลางานคุมทีมชาติสหรัฐในปี 2016 โดยระหว่างนั้นมีไปคุมทีมแฮร์ธ่า เบอร์ลิน ช่วงสั้นๆ 10 สัปดาห์ อีกทั้งเมื่อเริ่มงานจริง ตำนานแข้งเมืองเบียร์ไม่ค่อยได้ใช้เวลาในเกาหลีใต้มากเท่าไรนัก หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งคำนวนว่าในช่วง 6 เดือนแรก เขาใช้เวลาที่เกาหลีใต้เพียง 67 วันเท่านั้น ต่างจากโค้ชต่างชาติคนอื่นๆ ที่ปักหลักอยู่ในเกาหลีเลย

อย่างไรก็ตาม หลังทีมตกรอบเอเชี่ยนคัพ คลิ้นส์มันน์ตอบว่า ยังไม่มีแผนอะไรทั้งสิ้นเกี่ยวกับอนาคต แผนที่มีคือวิเคราะห์ผลงานในทัวร์นาเมนต์นี้ และกลับไปคุยกับสหพันธ์ฟุตบอลเกาหลีใต้ถึงด้านบวกและด้านลบจากการแข่งขันรายการนี้ ทั้งนี้ สัญญาของคลิ้นส์มันน์จะสิ้นสุดหลังจบฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย

ซอ ฮยอง อุก กล่าวว่า คลิ้นส์มันน์ทำเหมือนเป็นลูกจ้างพาร์ทไทม์ ไม่ค่อยนั่งดูเกมของนักเตะเกาหลี และเดินทางไปๆ มาๆ ทั่วโลก ไม่คิดว่าเขาจริงใจกับการพัฒนาวงการฟุตบอลโสมขาวแต่อย่างใด แฟนบอลรู้สึกผิดหวังกับผลงานของทีมมาก จนอยากเห็นเขาลาออกจากตำแหน่ง แต่สิ่งที่เป็นกังวลที่สุดสำหรับแฟนๆ ไม่ใช่เรื่องโค้ช แต่เป็นอนาคตของซน ฮึง มิน กัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ของสโมสรท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เพราะห่วงว่าเขาจะอำลาทีมชาติหลังความผิดหวังมากกว่า

เนื่องด้วยหลังจบเกมพ่ายจอร์แดน ซนซึ่งยิงไป 3 ประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ ปรารภกับสื่อว่า อาจจะตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองในทีมชาติ ซึ่งนักวิจารณ์และแฟนๆ บางส่วนเชื่อว่าเขาส่งสัญญาณเป็นนัยๆ บอกสหพันธ์ฟุตบอลว่าไม่พอใจกับทิศทางของทีมในเวลานี้