ยอมรับผิด! บุรีรัมย์ชี้แจงติดกล้องวงจรปิดในห้องทีมเยือน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ กีฬาไทย ยอมรับผิด! บุรีรัมย์ชี้แจงติดกล้องวงจรปิดในห้องทีมเยือน
ปราสาทสายฟ้า ออกหนังสือแถลงการณ์ชี้แจงประเด็นกล้องวงจรปิดในห้องแต่งตัวทีมเยือน เผยติดไว้เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ไม่มีเจตนาให้มีการได้เปรียบ-เสียเปรียบ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงรีโว่ ไทยลีก 2022/23 ชี้แจงประเด็นดราม่าที่มีกล้องวงจรปิด ติดอยู่ในห้องแต่งตัวทีมเยือนภายในสนามช้าง อารีน่า หลังตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนบอล หลังเกมเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี 2-0 ในเกมลีก นัดที่ 17 เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา
เกมรีโว่ ไทยลีก 2022/23 นัดที่ 17 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ ชลบุรี เอฟซี มีเรื่องราวดราม่ามากมาย เริ่มตั้งแต่การที่ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ เฮดโค้ชฉลามชล ปฏิเสธการจับมือทักทายก่อนเกมกับ มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชปราสาทสายฟ้า
ขณะที่เกมการแข่งขันก็เป็นไปอย่างดุเดือด ตามมาด้วยประเด็นดราม่า VAR ในจังหวะที่ ศุภชัย ใจเด็ด ซ้ำลูกยิงของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา นำมาซึ่งประตูขึ้นนำของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งกลายเป็นที่ถกเถียงในหมู่แฟนบอลว่าตำแหน่งการยืนของศุภชัยนั้นก้ำกึ่งว่าจะล้ำหน้าหรือไม่?
อย่างไรก็ตามหลังจบเกม ดราม่ายังไม่จบง่าย ๆ เมื่อ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือฉลามชล ให้สัมภาษณ์แบบเผ็ดร้อนทั้งศักยภาพของ VAR ไทยลีกที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงเหตุผลการปฏิเสธจับมือกับ มาซาทาดะ อิชิอิ เพราะไม่คบด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ชลบุรี เอฟซี ผู้แพ้ในเกมนี้ ยังพบว่ามีอุปกรณ์คล้ายกล้องวงจรปิด (CCTV) ติดอยู่ในห้องแต่งตัวของทีมเยือนภายในสนามช้าง อารีน่า ซึ่งภายหลังพบว่าเป็นกล้องวงจรปิดจริง ทางฉลามชลจึงให้ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชใช้เทปกาวมาปิดทับ เพราะกลัวว่าจะถูกบันทึกภาพต่าง ๆ ในห้องแต่งตัว ซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของทีมเยือน โดย "โค้ชเตี้ย"มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 มกราคม 2566 สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ส่งหนังสือชี้แจงถึงบริษัท ไทยลีก เรียบร้อยแล้ว มีใจความดังนี้
"สนามช้าง อารีน่า ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการติดตั้งกล้องบันทึกภาพระบบวงจรปิดครอบคลุมทุกพื้นที่ของสนามและบริเวณนอกสนามแข่งขันรวมทั้งสิ้น 156 ตัว ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานระบบรักษาความปลอดภัย"
"เนื่องจากสนามช้างอารีน่าเป็นพื้นที่เปิดให้นักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไปเข้าชมเพื่อการทัศนศึกษาและร่วมกิจกรรมสเตเดียม ทัวร์ โดยเฉพาะห้องแต่งตัวนักกีฬาทีมเหย้าและทีมเยือนซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจและมีผู้เข้าชมมากที่สุดจึงจำเป็นต้องติดตั้งกล้องบันทึกภาพระบบวงจรปิดและมีการบันทึกภาพไว้ทุกวันเพื่อการรักษาความปลอดภัยเป็นสำคัญ"
"ภาพที่บันทึกไว้ไม่ได้นำมาใช้เป็นข้อมูลที่ทำให้เกิดการได้เปรียบในการแข่งขันแต่อย่างใด"
"สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขอยอมรับว่าได้กระทำผิดระเบียบการจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก และจะถอดกล้องบันทึกภาพระบบวงจรปิดออกจากห้องแต่งตัวนักกีฬาทีมเดียวกันในวันจัดการแข่งขันและปฏิบัติตามระเบียบการจัดการแข่งขันของบริษัทไทยลีกอย่างเคร่งครัด"
ทั้งนี้ ระเบียบว่าด้วยการจัดการแข่งขันไทยลีก 1 พ.ศ. 2565-66 ข้อ 21.7 ระบุว่า "ให้มีการติดตั้งวงจรปิด (CCTV) โดยรอบสถานที่จัดการแข่งขัน แต่ห้ามมิให้ติดตั้งกล้องในพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัวในห้องแต่งตัวนักกีฬาฟุตบอล เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน และในเขตเทคนิคเฉพาะส่วนที่เป็นที่นั่งนักกีฬาฟุตบอลสำรอง"
ขณะที่ระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท ข้อ 5.3.19 ระบุว่า "ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ มีโทษครั้งแรก : เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร, ครั้งที่ 2 : ปรับเงิน 10,000 บาท, ครั้งที่ 3 : ปรับเงินเพิ่มเป็นสองเท่า"
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงรีโว่ ไทยลีก 2022/23 ชี้แจงประเด็นดราม่าที่มีกล้องวงจรปิด ติดอยู่ในห้องแต่งตัวทีมเยือนภายในสนามช้าง อารีน่า หลังตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนบอล หลังเกมเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี 2-0 ในเกมลีก นัดที่ 17 เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา
เกมรีโว่ ไทยลีก 2022/23 นัดที่ 17 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ ชลบุรี เอฟซี มีเรื่องราวดราม่ามากมาย เริ่มตั้งแต่การที่ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ เฮดโค้ชฉลามชล ปฏิเสธการจับมือทักทายก่อนเกมกับ มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชปราสาทสายฟ้า
ขณะที่เกมการแข่งขันก็เป็นไปอย่างดุเดือด ตามมาด้วยประเด็นดราม่า VAR ในจังหวะที่ ศุภชัย ใจเด็ด ซ้ำลูกยิงของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา นำมาซึ่งประตูขึ้นนำของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งกลายเป็นที่ถกเถียงในหมู่แฟนบอลว่าตำแหน่งการยืนของศุภชัยนั้นก้ำกึ่งว่าจะล้ำหน้าหรือไม่?
อย่างไรก็ตามหลังจบเกม ดราม่ายังไม่จบง่าย ๆ เมื่อ "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ กุนซือฉลามชล ให้สัมภาษณ์แบบเผ็ดร้อนทั้งศักยภาพของ VAR ไทยลีกที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงเหตุผลการปฏิเสธจับมือกับ มาซาทาดะ อิชิอิ เพราะไม่คบด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ชลบุรี เอฟซี ผู้แพ้ในเกมนี้ ยังพบว่ามีอุปกรณ์คล้ายกล้องวงจรปิด (CCTV) ติดอยู่ในห้องแต่งตัวของทีมเยือนภายในสนามช้าง อารีน่า ซึ่งภายหลังพบว่าเป็นกล้องวงจรปิดจริง ทางฉลามชลจึงให้ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชใช้เทปกาวมาปิดทับ เพราะกลัวว่าจะถูกบันทึกภาพต่าง ๆ ในห้องแต่งตัว ซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของทีมเยือน โดย "โค้ชเตี้ย"มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 มกราคม 2566 สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ส่งหนังสือชี้แจงถึงบริษัท ไทยลีก เรียบร้อยแล้ว มีใจความดังนี้
"สนามช้าง อารีน่า ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการติดตั้งกล้องบันทึกภาพระบบวงจรปิดครอบคลุมทุกพื้นที่ของสนามและบริเวณนอกสนามแข่งขันรวมทั้งสิ้น 156 ตัว ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานระบบรักษาความปลอดภัย"
"เนื่องจากสนามช้างอารีน่าเป็นพื้นที่เปิดให้นักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไปเข้าชมเพื่อการทัศนศึกษาและร่วมกิจกรรมสเตเดียม ทัวร์ โดยเฉพาะห้องแต่งตัวนักกีฬาทีมเหย้าและทีมเยือนซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจและมีผู้เข้าชมมากที่สุดจึงจำเป็นต้องติดตั้งกล้องบันทึกภาพระบบวงจรปิดและมีการบันทึกภาพไว้ทุกวันเพื่อการรักษาความปลอดภัยเป็นสำคัญ"
"ภาพที่บันทึกไว้ไม่ได้นำมาใช้เป็นข้อมูลที่ทำให้เกิดการได้เปรียบในการแข่งขันแต่อย่างใด"
"สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขอยอมรับว่าได้กระทำผิดระเบียบการจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก และจะถอดกล้องบันทึกภาพระบบวงจรปิดออกจากห้องแต่งตัวนักกีฬาทีมเดียวกันในวันจัดการแข่งขันและปฏิบัติตามระเบียบการจัดการแข่งขันของบริษัทไทยลีกอย่างเคร่งครัด"
ทั้งนี้ ระเบียบว่าด้วยการจัดการแข่งขันไทยลีก 1 พ.ศ. 2565-66 ข้อ 21.7 ระบุว่า "ให้มีการติดตั้งวงจรปิด (CCTV) โดยรอบสถานที่จัดการแข่งขัน แต่ห้ามมิให้ติดตั้งกล้องในพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัวในห้องแต่งตัวนักกีฬาฟุตบอล เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน และในเขตเทคนิคเฉพาะส่วนที่เป็นที่นั่งนักกีฬาฟุตบอลสำรอง"
ขณะที่ระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท ข้อ 5.3.19 ระบุว่า "ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ มีโทษครั้งแรก : เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร, ครั้งที่ 2 : ปรับเงิน 10,000 บาท, ครั้งที่ 3 : ปรับเงินเพิ่มเป็นสองเท่า"
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น