ชิน แท ยง กุนซืออินโดนีเซีย กร้าวผมไม่กลัว ทีมชาติไทย!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ กีฬาไทย ชิน แท ยง กุนซืออินโดนีเซีย กร้าวผมไม่กลัว ทีมชาติไทย!
ชิน แท ยง กุนซือทีมชาติอินโดนีเซีย ยืนยันไม่กลัว ทีมชาติไทย ก่อนพนกัน ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศ 2 นัด
อดีตกุนซือทีมชาติเกาหลีใต้ พาทัพ อิเหนา ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ด้วยการหักด่านเจ้าภาพ สิงคโปร์ มาได้ โดยจะพบกับ ช้างศึก ในฐานะแชมป์มากสุด 5 สมัย ในรายการนี้
ชิน แท ยง แถลงข่าวก่อนเกมว่า "แน่นอน ผมต้องการเป็นแชมป์ แต่การจะได้ชูถ้วยไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะคุณต้องการให้เป็นแชมป์ การเป็นแชมป์จะมาจากการทำงานหนักของคุณ เมื่อคุณทำให้ดีที่สุดในทุกแมตช์"
"ในฐานะโค้ช ผมคว้าแชมป์มาแล้วมากกว่า 20 รายการ และจากประสบการณ์นั้น ผมต้องการที่จะปลูกฝังความคิดที่แข็งแกร่งให้กับนักเตะและพยายามที่จะก้าวไปเป็นแชมป์ให้ได้ ความคิดนั้นเป็นสิ่งที่ผมมักจะบอกนักเตะเสมอ"
อินโดนีเซีย มีสถิติที่ไม่ดีนักในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อ 5 ครั้งที่ผ่านมา แพ้ทุกครั้ง โดยครั้งล่าสุดก็เพิ่งพ่าย ช้างศึก ไปด้วยสกอร์รวม 3-2 เมื่อปี 2016
"ผมรู้ว่าเราล้มเหลวมา 5 ครั้ง แต่เราไม่รู้สึกถึงความกดดัน การเป็นแชมป์ต้องมาจากการทำงานหนักเท่านั้น และ เราต้องเชื่อมั่นในตัวเอง"
"บางคนคิดว่า ไทย แข็งแกร่งกว่าเรา แต่สำหรับผม ผมไม่กลัว" เทรนเนอร์วัย 51 ปี ปิดท้าย
สำหรับ ทีมชาติอินโดนีเซีย เตรียมพบกับ ทีมชาติไทย ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก วันที่ 29 ธันวาคมนี้ ต่อด้วยนัดที่ 2 วันที่ 1 มกราคม 2565
อดีตกุนซือทีมชาติเกาหลีใต้ พาทัพ อิเหนา ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ด้วยการหักด่านเจ้าภาพ สิงคโปร์ มาได้ โดยจะพบกับ ช้างศึก ในฐานะแชมป์มากสุด 5 สมัย ในรายการนี้
ชิน แท ยง แถลงข่าวก่อนเกมว่า "แน่นอน ผมต้องการเป็นแชมป์ แต่การจะได้ชูถ้วยไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะคุณต้องการให้เป็นแชมป์ การเป็นแชมป์จะมาจากการทำงานหนักของคุณ เมื่อคุณทำให้ดีที่สุดในทุกแมตช์"
"ในฐานะโค้ช ผมคว้าแชมป์มาแล้วมากกว่า 20 รายการ และจากประสบการณ์นั้น ผมต้องการที่จะปลูกฝังความคิดที่แข็งแกร่งให้กับนักเตะและพยายามที่จะก้าวไปเป็นแชมป์ให้ได้ ความคิดนั้นเป็นสิ่งที่ผมมักจะบอกนักเตะเสมอ"
อินโดนีเซีย มีสถิติที่ไม่ดีนักในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อ 5 ครั้งที่ผ่านมา แพ้ทุกครั้ง โดยครั้งล่าสุดก็เพิ่งพ่าย ช้างศึก ไปด้วยสกอร์รวม 3-2 เมื่อปี 2016
"ผมรู้ว่าเราล้มเหลวมา 5 ครั้ง แต่เราไม่รู้สึกถึงความกดดัน การเป็นแชมป์ต้องมาจากการทำงานหนักเท่านั้น และ เราต้องเชื่อมั่นในตัวเอง"
"บางคนคิดว่า ไทย แข็งแกร่งกว่าเรา แต่สำหรับผม ผมไม่กลัว" เทรนเนอร์วัย 51 ปี ปิดท้าย
สำหรับ ทีมชาติอินโดนีเซีย เตรียมพบกับ ทีมชาติไทย ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก วันที่ 29 ธันวาคมนี้ ต่อด้วยนัดที่ 2 วันที่ 1 มกราคม 2565
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น