ฟ้าวันใหม่ให้ปากคำปมล้มมวย-สำนึกผิดอ้อน เสี่ยโบ๊ท

ยังคงเป็นข่าวสืบเนื่องกรณี ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ นักมวยไทยวัย 19 ปี ถูกเค้นจนยอมสารภาพ รับสินบนให้ล้มมวย ล่าสุดเดินทางไปให้ปากคำ สำนังานมวย ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ตามกฏหมาย พ.ร.บ.มวย

เมื่อวันที่ 12 ต.ค.64 ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ เดินทางไปที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ กกท.ชั้น 7 เพื่อให้ปากคำ เจ้าหน้าที่สำนักงานมวย บันทึกเป็นหลักฐานและข้อมูลสำหรับดำเนินคดี ตามกฏหมาย กรณี มีการว่าจ้าง ให้ล้มมวยเกิดขึ้น

ฟ้าวันใหม่ ให้การยอมรับสารภาพมีการว่าจ้างให้ล้มมวยจริง ด้วยวงเงิน 500,000 บาท ในการชกมวยไทย นัดที่ผ่านมา โดยเรื่องทั้งหมดถูกส่งไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ภายใต้การดูแลของ สำนักงานมวย ทั้งนี้ฟ้าวันใหม่จะถูกสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามกฏหมาย พ.ร.บ.มวย หลังจากล่าสุดมีหลักฐานครบทั้งสลิปการโอนเงินและคำสารภาพจากเจ้าตัว ที่อ้างว่าถูกขู่บังคับให้ล้มมวย

ฟ้าวันใหม่ ให้การว่า ตนได้ขายสินค้าเป็นอาชีพเสริมตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา เป็นการขายน้ำพริกกากหมู ทางออนไลน์ เพื่อหารายได้เลี้ยงตัวเอง ช่วยเหลือครอบครัวที่มีแม่กับยายต้องดูแล

จนกระทั่ง มีผู้มาว่าจ้างให้ล้มมวย แรกเริ่มนั้นมาติดต่อขอซื้อน้ำพริก 2 ครั้ง ครั้งแรกซื้อ 5 กิโลกรัม ราคาประมาณ 2,400 บาท แต่โอนมาให้ 5,000 บาท โดยบอกว่า ชื่นชอบฝีมือการชกมวยของตน และถามเรื่องมวย ซ้อมยังไง เป็นอยู่อย่างไรบ้าง ฟ้าวันใหม่เล่าว่า

"ต่อมาเขาติดต่อมาซื้ออีกครั้งที่ 2 เขาบอกว่าไม่ต้องแพ็กส่งไปรษณีย์ แต่จะมารับของเองที่ค่าย (ที่ จังหวัดอุทัยธานี) จะได้ไม่เสียค่าส่ง ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าไม่ได้มีการพูดเรื่องล้มมวยอะไร โดยเขาบอกให้ขึ้นไปเอาเงินบนรถ ก่อนจะบอกว่าการชกกับ หลานย่าโม ว.วัฒนะ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 ต.ค.นั้น ตนสู้ไม่ได้หรอก เอาอย่างนี้ดีกว่า เดี๋ยวจ้าง 5 แสนบาท แล้วให้ล้มมวย ถ้าไม่เอาไม่เป็นไร แต่ห้ามบอกใคร ถ้าเกิดบอกใครจะมากระทืบ เพราะรู้ว่าบ้านอยู่ตรงนี้"

ฟ้าวันใหม่กล่าวอีกว่า "โดยเขายื่นข้อเสนอ 5 แสนบาท ถ้าล้มมวย ซึ่งความผิดของผมคือไปอยากได้เงินที่เขาจะให้ ยอมรับว่าผิดตรงนี้ โดยวันชกให้มาล่วงหน้าจำนวน 3 หมื่นบาทเป็นค่ามัดจำ พอขึ้นชกก็ทำตามที่เขาบอก ยอมรับว่าตอนนี้สำนึกผิดแล้ว อยากขอโทษ "เสี่ยโบ๊ท" (ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์) ผู้จัดที่ให้โอกาสผมกลับมาชกมวย ผมผิดไปแล้ว ผมมียายกับแม่ที่ผมต้องดูแลที่ทำเรื่องผิดสังคมไม่ยอมรับ.." ซึ่งเรื่องนี้ ทางสำนักงานมวยได้รับบันทึกไว้เป็นปากคำ ก่อนจะแยกย้ายกลับ

ก่อนหน้านี้ ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ รับสารภาพว่า ตนเอง ล้มมวยจากการชกกับ หลานย่าโม ม.วัฒนะ โดยการแพ้น็อกในยกที่ 4 ของการชกมวยไทย ศึกทรู โฟร์ยู ที่ จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564 ภายใต้การจัดของเพชรยินดี โปรโมชัน

หลังลงจากเวที "เสี่ยโบ๊ท" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์และหัวหน้าของฟ้าวันใหม่ โทร. มาสอบถามว่า ล้มมวยจริงหรือไม่ เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ล้ม แต่ต่อมาทีมงานเค้นสอบปากคำ และหาหลักฐานเชื่อมโยง ทำให้ฟ้าวันใหม่ยอมรับว่าล้มมวยจริง โดยมีเซียนมวยรายหนึ่งจ้างวานในราคา 500,000 บาท พร้อมอ้างว่าหากไม่ทำตามจะทำร้ายร่างกาย

จากนั้นได้มีการพา ฟ้าวันใหม่ ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานดำเนินคดีผู้จ้างวาน จนกลายเป็นข่าวใหญ่ในกระแสสังคมล่าสุด ถึงกรณีการว่าจ้างล้มมวย

ตามประวัติ ฟ้าวันใหม่ เป็นอดีตนักมวยใช้ชื่อชกว่า "ต่อทอง เทศบาลเขาบางแกรก" แต่เกิดหลงผิดไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเคยมีปัญหาการล้มมวย จนต้องเลิกมวยไปแล้วครั้งหนึ่ง จากนั้นไปเล่นพนันมวยที่เวทีรังสิต แล้วชักดาบไม่ยอมจ่ายจึงถูกเซียนมวยไล่รุมกระทืบ ก่อนเสี่ยโบ๊ทจะเข้าไปช่วยห้ามปราบ พร้อมให้โอกาส นำกลับมาชกมวยใหม่อีกครั้ง แต่เจ้าตัวไม่วายรับสินบนในการล้มมวยจนเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นอีกในครั้งนี้

ใน ปัจจุบันมี พรบ.กฏหมายมวย บัญญัติบทลงโทษผู้กระทำผิด ต้องถูกปรับเป็นเงิน 1 แสนบาท หรือ จำคุก 5 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับ แต่อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่มี พรบ.มวย พ.ศ.2542 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน กลับยังไม่มีการดำเนินคดีความผิดผู้ใด จนถึงขั้นติดคุก คงมีแต่เพียงรอลงอาญาเท่านั้น