ขณะที่อีก 4 ชาติต้องเล่นเพลย์ออฟ คือ อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ไต้หวัน และกวม โดยจะมีการจับสลากประกบคู่เตะเหย้า-เยือน ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ จากนั้นจะแข่งขันนัดแรก 7 ก.ย. และนัดที่ 2 ในวันที่ 12 ต.ค. โดยทีมชนะ 2 ทีม จะผ่านเข้าไปเล่นรอบคัดเลือก "เอเซียน คัพ 2023" รอบ 3 ไปรวมกับ 22 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบไปก่อนหน้านี้ รวมเป็น 24 ทีม
สำหรับการแบ่งโถจับสลากในรอบแบ่งกลุ่ม รอบ 3 จะแบ่งทีมในโถต่างๆตามอันดับฟีฟ่าแรงกิ้ง
โดยโถ 1 ประกอบด้วย อุซเบกิสถาน, จอร์แดน, บาห์เรน, คีร์กีซสถาน, ปาเลสไตน์, อินเดีย
ทีมชาติไทย ที่อยู่อันดับ 106 ของโลก ถูกจัดอยู่โถ 2 ร่วมกับ ทาจิกิสถาน, ฟิลิปปินส์, เติร์กเมนิสถาน, เมียนมาร์ และ ฮ่องกง
โถ 3 เยเมน, คูเวต, อัฟกานิสถาน, มาเลเซีย, มัลดีฟส์, สิงคโปร์
ส่วนโถ 4 ได้แก่ เนปาล, บังคลาเทศ, มองโกเลีย และ ศรีลังกา
ทั้งนี้จะยึดจากแรงกิ้งที่ฟีฟ่าประกาศในวันที่ 18 มิถุนายน นี้ เท่านั้น ขณะที่วันแข่งขันจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ขณะที่ "เอเซียน คัพ 2023" รอบคัดเลือก รอบ 3 จะคัด 11 ทีมเข้าสู่รอบสุดท้าย ไปรวมกับ 13 ทีมที่ผ่านไปรออยู่แล้วจากผลงานฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ประกอบไปด้วย จีน (เจ้าภาพ), ซาอุดีอาระเบีย, ซีเรีย, ยูเออี, ออสเตรเลีย, โอมาน, อิหร่าน, อิรัก, กาต้าร์, เวียดนาม, ญี่ปุ่น, เลบานอน และ เกาหลีใต้ โดยในรอบสุดท้ายจะแข่งขันระหว่างวันที่ 16 มิ.ย.-16 ก.ค. 2566