หลังจากขึ้นมาคุมทีมนิวคาสเซิลได้พักใหญ่แล้ว
แซม อัลลาร์ไดซ์ ยอมรับว่าการก้าวเข้ามาเป็นผู้จัดการทีม "สาลิกาดง" มันช่างเต็มไปด้วยความกดดันมหาศาล โดยเฉพาะหลังเกมที่ "สาลิกาดง" ออกไปพ่ายหมดฟอร์มให้กับดาร์บี้ 0-1 ประตู เมื่อสัปดาห์ก่อน แฟนบอล "ทูน อาร์มี่" พากันโห่ด้วยความไม่สบอารมณ์ ไม่พอใจทั้งผลการเล่น ฟอร์มของนักเตะ และสไตล์การเล่นที่ขาดสีสัน ไม่บันเทิงเริงใจเอาเสียเลย
"มันเป็นความกดดันครั้งยิ่งใหญ่สำหรับทีมและกับตัวผมเองด้วย" บิ๊กแซม ยอมรับ
แน่นอน อัลลาร์ไดซ์ได้รับเครดิตอย่างมากในสมัยคุมทีมโบลตั้น แต่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงกับนิวคาสเซิล เพราะที่นี่ฟุตบอลคือส่วนหนึ่งของลมหายใจของแฟนบอลนิวคาสเซิลกันเลยทีเดียว
"ที่โบลตั้นผมมั่นใจได้เลยว่าไม่มีทางที่จะถูกปลดจากตำแหน่งได้ง่ายๆ แต่กับนิวคาสเซิล ที่นี่คือสโมสรที่ใหญ่กว่า ผมได้สัญญาระยะยาว ได้รับงบประมาณสนับสนุนในการซื้อนักเตะมาร่วมทีม แต่ทุกคนก็อยากเห็นความสำเร็จของทีมโดยเร็วที่สุด"
"บิ๊กแซม" รู้ดีว่า
ที่ผ่านมานิวคาสเซิลมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมคนแล้วคนเล่า และบางคนถูกถอดจากตำแหน่งในระยะเวลาอันสั้นอีกต่างหาก และเขาหวังว่าความคิดเช่นนี้จะเปลี่ยนไปเสียที
"ผมเป็นคนที่ชอบแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ และตอนนี้ผมเองก็ได้รับโอกาสนั้นแล้ว ผมมีผู้เล่นที่ดีกว่าสมัยที่คุมทีมโบลตั้น และต้องการให้ทีมมีผลงานที่ดีขึ้นเช่นกัน แต่มันไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะได้มาโดยง่าย"
อัลลาร์ไดซ์รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับไมเคิล โอเว่น
ดาวยิงที่ดีที่สุดในประเทศอังกฤษ แต่ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับ "เบบี้โกล์" จะเป็นปัญหาใหญ่ และไม่สามารถทำให้ทีมเดินหน้าได้ตามแผนที่วางเอาไว้
"มันเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเราก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ได้ยังไง ผมก็คิดว่าเมื่อเรามีกองหน้าอย่างไมเคิลอะไรมันก็จะน่าไปได้ดีกว่านี้"
แซม อัลลาร์ไดซ์ จะทำอะไรได้นอกจากฮึดสู้ และหวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางเสียที
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว