ไม่ใช่แค่เฉพาะบุนเดสลีกา (ที่จบไปแล้ว) หรือพรีเมียร์ลีก ที่กำลังจะรูดม่านปิดฉากตามไป แต่ฟุตบอลในภูมิภาคยุโรปกำลังจะจบลงทั้งหมด ซึ่งในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ก็ยังมีบางสิ่งบางอย่างให้บางทีมได้ค้นหากันอยู่...
พรีเมียร์ลีกนัดส่งท้ายอาร์เซนอล (อันดับ 4, 69
แต้ม) v สโต๊ค (อันดับ 11, 45 แต้ม)อาร์เซนอล ได้อันดับ
4 แล้วก็จริง แต่สโต๊ค ก็ยังมีความหวังที่จะไต่อันดับขึ้นไปอยู่สูงกว่าครึ่งบนของตาราง ถ้าลูกทีมของ โทนี่ พูลลิส บุกไปคว้าชัยชนะที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ได้ (และยังได้ความภูมิใจที่สามารถล้มกันเนอร์สได้ทั้งเหย้า-เยือนด้วย)แอสตัน วิลล่า (อันดับ
6, 59 แต้ม) v นิวคาสเซิล (อันดับ 18, 34 แต้ม)นิวคาสเซิล จะตกชั้นทันทีถ้าแพ้ที่ วิลล่า ปาร์ค ส่วนแอสตัน วิลล่า ต้องการอันดับ
5 โดยเวลานี้ตามหลัง เอฟเวอร์ตัน แต้มเดียวและมีประตูได้เสียที่ดีกว่าแบล็คเบิร์น (อันดับ
14, 40 แต้ม) v เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน (อันดับ 20, 31 แต้ม)เวสต์ บรอม ตกชั้นไปแล้ว แต่แบล็คเบิร์น ยังหวังจะไต่ขึ้นไปอีกอย่างน้อย
2 อันดับ ถ้าเอาชนะได้ในเกมสุดท้ายที่ อีวู้ด ปาร์คฟูแล่ม (อันดับ
7, 53 แต้ม) v เอฟเวอร์ตัน (อันดับ 5, 60 แต้ม)เอฟเวอร์ตัน จะการันตีอันดับ
5 ทันทีหากเอาชนะฟูแล่ม ได้ในเกมนี้ ส่วน เจ้าสัวน้อย ไม่มีลุ้นอะไรอีกเพราะยังไงก็ทำแต้มไล่วิลล่า ไม่ทันฮัลล์ (อันดับ
17, 35 แต้ม) v แมนฯ ยูไนเต็ด (อันดับ 1, 87 แต้ม)แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นแชมป์ไปแล้วและอาจจะพักผู้เล่นเพราะยังมีเกมสำคัญที่สุดในการชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก กับบาร์เซโลน่า รออยู่ ส่วนฮัลล์ ต้องการชนะเพื่อหนีตายหรืออย่างแย่ก็ขอเสมอแล้วแช่งให้นิวคาสเซิล กับมิดเดิลสโบรช์ ไม่ชนะ
ลิเวอร์พูล (อันดับ
2, 83 แต้ม) v สเปอร์ส (อันดับ 8, 51 แต้ม)ไม่มีลุ้นอะไรสำหรับ หงส์แดง ส่วนสเปอร์ส นอกจากจะเป็นการกลับมาเยือนรังเก่า (?) ของ ร็อบบี้ คีน ก็ยังมีลุ้นทำอันดับขึ้นไปอีกถ้าชนะในเกมนี้
แมนฯ ซิตี้ (อันดับ
10, 47 แต้ม) v โบลตัน (อันดับ 13, 41 แต้ม)ซิตี้ ไม่มีลุ้นอะไรแล้วนอกจากลุ้นชนะเพื่อไต่ไปอยู่อันดับ
9 ส่วนโบลตัน ก็ไม่มีลุ้นอะไรนอกจากไต่อันดับเหนือ วีแกน ที่มีแต้มมากกว่าแต้มเดียวซันเดอร์แลนด์ (อันดับ
16, 36 แต้ม) v เชลซี (อันดับ 3, 80 แต้ม)ซันเดอร์แลนด์ ยังไม่ปลอดภัยเต็มร้อยและต้องการชัยชนะในเกมนี้เพื่อที่จะการันตีการอยู่รอด ส่วนเชลซี ไม่มีหวังอะไรเพราะยังไงก็ได้ที่
3เวสต์แฮม (อันดับ
9, 48 แต้ม) v มิดเดิลสโบรช์ (อันดับ 19, 32 แต้ม)สำหรับแฮมเมอร์ส ไม่มีอะไรให้ค้นหา แต่สำหรับโบโร่ เกมนี้พวกเขาต้องการปาฏิหารย์เท่านั้นจึงจะรอดตกชั้น เพราะต้องชนะเวสต์แฮม
4 ลูกขึ้นไป และแช่งให้ฮัลล์ แพ้แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยวีแกน (อันดับ
12, 42 แต้ม) v พอร์ทสมัธ (อันดับ 15, 38 แต้ม)คู่นี้ ชิลล์ๆ เพราะไม่มีลุ้นอะไรอีกแล้ว
?
สแปนิช ลาลีกา (1
นัด)
แชมป์
แชมเปี้ยนส์ ลีก
: เรอัล มาดริด (78 แต้ม)ยังมีให้ลุ้นอีก
:เซบีย่า กับแอตเลติโก มาดริด ยังต้องขับเคี่ยวกันอีกเพื่อที่จะลุ้นชิงตั๋วไปแชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบแบ่งกลุ่มโดยตอนนี้ทีมแดนใต้มีแต้มเหนือกว่า
3 แต้มด้วยกัน และต้องไปวัดกันในเกมหน้าว่าใครจะได้เข้ารอบแบ่งกลุ่มทันที เพราะอันดับ 1-3 เท่านั้นที่จะเข้ารอบแบ่งกลุ่มโดย อัตโนมัติ ส่วนอันดับ 4 ต้องไปเล่นรอบคัดเลือก ซึ่งนอกจากสองทีมนี้ บียาร์เรอัล ก็มีลุ้นชิงอันดับ 4 กับแอตเลติโก มาดริด ด้วยเช่นกันส่วนโควต้าอื่นๆ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า กับ มาลาก้า ยังต้องชิงพื้นที่ยูโรป้า ลีก ขณะที่นูมานเซียกับ เรเครอาติโบ อูเอลบา ตกชั้นไปแล้ว เหลืออีกหนึ่งที่ที่ต้องลุ้นกันตัวโก่งสำหรับ โอซาซูน่า (
40 แต้ม), สปอร์ติ้ง กิฆอน (40), เรอัล เบติส (41), เคตาเฟ่ (41) และ เรอัล บายาโดลิด ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นกัลโช่ เซเรีย อา (2
นัด)
แชมป์
แชมเปี้ยนส์ ลีก
: เอซี มิลาน (71 แต้ม)ยังมีให้ลุ้นอีก
:ยูเวนตุส (
68 แต้ม) กับ ฟิออเรนติน่า (67) จะชิงตั๋วเข้ารอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ ลีกกันเอง ส่วน เจนัว ได้ไปยูโรป้า ลีก, โรม่า (57) จะต้องแข่งกับ ปาแลร์โม่ และ อูดิเนเซ่ ในอันดับ 6ในโซนตกชั้น เลชเช่ (
29), เรจจิน่า (30), โบโลญญ่า (33), โตริโน่ (34) และคิเอโว่ (37) ยังต้องลุ้นกันต่อไปว่าทีมใดจะรอดพ้นจากการตกชั้นบ้างขอบคุณคอลั่มจาก msn football