โครเอเชีย โคตรแสบ ดวลจุดโทษ เขี่ย บราซิล ตกรอบ!!!
หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ sport โครเอเชีย โคตรแสบ ดวลจุดโทษ เขี่ย บราซิล ตกรอบ!!!
"แซมบ้า" บราซิล แชมป์โลกสูงสุด 5 สมัย และเต็งหนึ่งของรายการ ลงสนามพบกับรองแชมป์เก่า "ตาหมากรุก" โครเอเชีย ในการแข่งขันฟุตบอลโลก "ฟีฟ่า เวิลด์คัพ 2022" รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อคืนวันที่ 9 ธันวาคม
ผลงานในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ผ่านมา โครเอเชียต้องลงเล่นถึง 120 นาทีต่อเนื่องไปถึงการดวลจุดโทษกว่าจะเอาชนะ "ซามูไรบลูส์" ญี่ปุ่น มาได้ 3-1 ในขณะที่ บราซิล โชว์ฟอร์มสมราคาเต็งหนึ่งของรายการด้วยการไล่ถล่มเอาชนะ "โสมขาว" เกาหลีใต้ ไปได้ 4-1
สถิติก่อนหน้านี้ที่ทั้งสองทีมเจอกันมาทั้งหมด 4 ครั้ง บราซิลยังไม่เคยแพ้โครเอเชีย แบ่งเป็นการอุ่นเครื่อง 2 ครั้ง ชนะและเสมออย่างละครั้ง ขณะที่ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เคยเจอกันมา 2 ครั้ง บราซิลชนะได้หมด ทั้งในปี 2006 ชนะ 1-0 และปี 2014 ชนะ 3-1
เกมนี้ ติเต้ กุนซือจอมแท็คติกของบราซิลจัดทัพผู้เล่นตัวจริงในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู อลิสซอน, กองหลัง ดานิโล่, เอแดร์ มิลิเตา, มาร์ควินญอส, ติอาโก้ ซิลวา(กัปตัน), คู่แดนกลาง คาเซมิโร่, ลูคัส ปาเกต้า, แนวรุกนำโดย เนย์มาร์, วินิซิอุส จูเนียร์, ราฟินญ่า และกองหน้าตัวเป้า ริชาร์ลิซอน
ขณะที่ : ซลัตโก้ ดาลิช เฮดโค้ชโครเอเชียจัดทีมในระบบการเล่น 4-3-3 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู โดมินิก ลิวาโควิช, กองหลัง โยซิป ยูราโนวิช, บอร์น่า โซซ่า, ยอสโก้ กวาร์ดิออล, เดยัน ลอฟเรน, แผงกองกลาง มาร์เซโล่ โบรโซวิช, มาเตโอ โควาซิช, ลูก้า โมดริช (กัปตัน), แนวรุก มาริโอ ปาซาลิช, อิวาน เปริซิช และอันเดรจ์ ครามาริช
เกมครึ่งแรกเริ่มต้นมาเป็นทางโครเอเชียที่ครองบอลบุกได้มากกว่า แต่ยังหาโอกาสจบสกอร์ไม่ได้ ขณะที่ทางฝั่งบราซิลพยายามต่อบอลทำเกมบุกขึ้นมา แต่ก็ยังไม่มีจังหวะยิงจะแจ้ง ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลังบราซิลขยับตัวสำรองริมเส้นด้วยการส่ง อันโตนี่ และโรดรีโก้ ลงสนามมาเล่นแทน ราฟินญ่า และวินิซิอุส จูเนียร์ นาทีที่ 65 บราซิลพลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ลูคัส ปาเกต้า ได้โอกาสหลุดเข้าไปซัดโล่งๆ แต่ยิงไปติดเซฟ โดมินิก ลิวาโควิช อย่างน่าเสียดาย
แข้งแซมบ้ายังคงเดินเครื่องทำเกมบุกบดใส่ทัพตาหมากรุกได้เหนือกว่าชัดเจนในช่วงครึ่งหลัง และมีโอกาสยิงหลายครั้ง แต่ยังไม่ผ่านด่านของโดมินิก ลิวาโควิช ที่ช่วยเซฟหลายต่อหลายครั้งไม่ให้ทีมโครเอเชียเสียประตู และหมดเวลา 90 นาที ยังเสมอกัน 0-0 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
ช่วงทดเวลาพิเศษนาทีที่ 105+1 บราซิลพังประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เนย์มาร์ ทำชิ่งกับ ลูคัส ปาเกต้า ก่อนได้บอลหลุดเข้าไปเตะหลบ โดมินิก ลิวาโควิช แล้วซัดเสยเพดานตุงตาข่ายเป็นประตูที่ 77 ของเนย์มาร์ในการรับใช้ทีมชาติบราซิล ซึ่งเป็นการทำสถิติเทียบเท่ากับ เปเล่ ตำนานแข้งแซมบ้าอีกด้วย
แต่ในนาทีที่ 117 โครเอเชียบุกสวนกลับเร็ว และยิงประตูตีเสมอสำเร็จ 1-1 จากทีเด็ดตัวสำรอง บรูโน่ เพ็ตโควิช ซัดบอลแฉลบ มาร์ควินญอส เปลี่ยนทางหนีมือ อลิสซอน เข้าไปตุงตาข่าย และหมดเวลา 120 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกจุดโทษ ปรากฏว่า โครเอเชีย ยิงได้แม่นกว่าเอาชนะ บราซิล 4-1 ทำให้ โครเอเชีย ทะยานผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ หรือรอบ 4 ทีมสุดท้ายต่อไปได้สำเร็จ โดยในรอบต่อไปจะลงสนามแข่งขันในคืนวันที่ 13 ธันวาคม เวลา 02.00 น.
แข้งแซมบ้ายังคงเดินเครื่องทำเกมบุกบดใส่ทัพตาหมากรุกได้เหนือกว่าชัดเจนในช่วงครึ่งหลัง และมีโอกาสยิงหลายครั้ง แต่ยังไม่ผ่านด่านของโดมินิก ลิวาโควิช ที่ช่วยเซฟหลายต่อหลายครั้งไม่ให้ทีมโครเอเชียเสียประตู และหมดเวลา 90 นาที ยังเสมอกัน 0-0 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
ช่วงทดเวลาพิเศษนาทีที่ 105+1 บราซิลพังประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เนย์มาร์ ทำชิ่งกับ ลูคัส ปาเกต้า ก่อนได้บอลหลุดเข้าไปเตะหลบ โดมินิก ลิวาโควิช แล้วซัดเสยเพดานตุงตาข่ายเป็นประตูที่ 77 ของเนย์มาร์ในการรับใช้ทีมชาติบราซิล ซึ่งเป็นการทำสถิติเทียบเท่ากับ เปเล่ ตำนานแข้งแซมบ้าอีกด้วย
แต่ในนาทีที่ 117 โครเอเชียบุกสวนกลับเร็ว และยิงประตูตีเสมอสำเร็จ 1-1 จากทีเด็ดตัวสำรอง บรูโน่ เพ็ตโควิช ซัดบอลแฉลบ มาร์ควินญอส เปลี่ยนทางหนีมือ อลิสซอน เข้าไปตุงตาข่าย และหมดเวลา 120 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกจุดโทษ ปรากฏว่า โครเอเชีย ยิงได้แม่นกว่าเอาชนะ บราซิล 4-1 ทำให้ โครเอเชีย ทะยานผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ หรือรอบ 4 ทีมสุดท้ายต่อไปได้สำเร็จ โดยในรอบต่อไปจะลงสนามแข่งขันในคืนวันที่ 13 ธันวาคม เวลา 02.00 น.
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น