หลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีนโยบายผลักดันการสร้างเยาวชนเพื่อหวังเป็นอนาคตของทีมชาติไทยชุดใหญ่ และเป้าหมายของทีมชาติคือฟุตเอเชี่ยนคัพ 2019 ช่วงต้นปีหน้าที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ต้องผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ของประเทศไทยให้ได้ ส่วนฟุตบอลเอเชี่ยนเกมส์ เดือนส.ค. ที่ประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้การทำทีมของ "โค้ชโย่ง"วรวุธ ศรีมะฆะ จะใช้นักเตะรุ่นไม่เกิน 21 ปีเป็นหลัก ทั้งที่เอเชี่ยนเกมส์ให้ใช้นักเตะอายุไม่เกิน 23 ปีพร้อมนักเตะอายุเกินได้อีก 3 คน นอกจากในฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2019" ของทีมชุดใหญ่ที่มี มิโลวาน ราเยวัช เป็นหัวหน้าโค้ชมีแนวโน้มว่าจะไม่ใช้ตัวหลักทีมชาติลงสนามและจะเปิดโอกาสให้นักเตะหน้าใหม่ได้ลงเล่น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยที่เคยพาทัพช้างศึกคว้าอันดับ 4 เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 เมื่อปี 2014 และพาทีมชาติไทยชุดใหญ่กลับมาคว้าแชมป์ซูซูกิคัพ ครั้งแรกในรอบ 12 ปีเมื่อ 2014 และป้องกันแชมป์ปี 2016 นอกจากนี้ยังพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 44 ก่อนที่จะโดนปลดออกจากตำแหน่งกล่าวว่าการที่สมาคมจะส่งทีม 21 ปีไปแข่งเอเชี่ยนเกมส์นั้นไม่มีความจำเป็น เพราะฟุตบอลเป็นกีฬาที่ชาวไทยคาดหวังกับผลงานและความสำเร็จ ดังนั้นจึงต้องเต็มที่กับทุกรายการที่ลงแข่งขัน
ซิโก้ กล่าวอีกว่าประเด็นที่สโมสรประกาศว่าจะไม่ปล่อยนักเตะให้ทีมชาติช่วงเอเชี่ยนเกมส์เนื่องจากไม่ใช่โปรแกรมฟีฟ่าเดย์เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะตนเองเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว แถมเมื่อก่อนฟุตบอลไทยยังไม่บูมเท่านี้หานักเตะยากกว่าปัจจุบันตนยังพาทีมประสบความสำเร็จ หากครั้งนี้สมาคมตัดสินใจใช้เด็กที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์ที่เอเชี่ยนเกมส์กำหนด ผลงานออกมาอย่างไรสมาคมต้องมีคำตอบให้กับแฟนบอล