ศาลแพ่งรัชดา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่ นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว นักมวยไทยไฟต์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนพรัตน์ พุทธรัตนมณี รองประธานจัดมวยไทยไฟต์, บริษัท สปอร์ตอาร์ต จำกัด ผู้จัดศึกไทยไฟต์, บริษัท เอเอสทีวีผู้จัดการ จำกัด และ บริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด เป็นจำเลย และขอศาลบังคับให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายรวม 100 ล้านบาท จากกรณีเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2556 นายนพรัตน์ จำเลยที่ 1 ในฐานะลูกจ้างของ บจก.สปอร์ตอาร์ต จำเลยที่ 2 หมิ่นประมาทโจทก์ต่อบุคคลที่ 3 ด้วยข้อความอันเป็นเท็จให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงเกียรติคุณ
อุทธรณ์ยกฟ้องบัวขาวเรียกค่าเสียหายมวยไทยไฟต์
หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ sport อุทธรณ์ยกฟ้องบัวขาวเรียกค่าเสียหายมวยไทยไฟต์
ศาลแพ่งรัชดา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่ นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว นักมวยไทยไฟต์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนพรัตน์ พุทธรัตนมณี รองประธานจัดมวยไทยไฟต์, บริษัท สปอร์ตอาร์ต จำกัด ผู้จัดศึกไทยไฟต์, บริษัท เอเอสทีวีผู้จัดการ จำกัด และ บริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด เป็นจำเลย และขอศาลบังคับให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายรวม 100 ล้านบาท จากกรณีเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2556 นายนพรัตน์ จำเลยที่ 1 ในฐานะลูกจ้างของ บจก.สปอร์ตอาร์ต จำเลยที่ 2 หมิ่นประมาทโจทก์ต่อบุคคลที่ 3 ด้วยข้อความอันเป็นเท็จให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงเกียรติคุณ
ผ่านสื่อมวลชนซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 3 และเผยแพร่ข้อความการให้สัมภาษณ์ของจำเลยที่ 1 ทางเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ทำนองว่า โจทก์ขึ้นชกคล้ายปาหี่ ในคอลัมน์ MGR SPORT ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง บริษัทเอเอสทีวีฯ จำเลยที่ 3 และบริษัทไทยเดย์ฯ จำเลยร่วม คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้อง ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามเนื้อความของการสัมภาษณ์ของจำเลยที่ 1 นั้น เป็นการให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ว่า
"อยากถามแฟนมวยว่า ที่โจทก์อ้างว่าตนขึ้นชกคล้ายปาหี่นั้น เป็นการสร้างสรรค์ หรือทำลายวงการหรือไม่ เนื่องจากกีฬามวยเป็นกีฬาสุภาพบุรุษสู้กันจริง ๆ ประชาชนคงได้เห็นแล้วว่า การชกดังกล่าวเป็นอย่างไร ส่วนตัวเองนั้นมองว่าเป็นการปาหี่ ไม่มีใครทำแบบนั้น" เป็นการกล่าวไปในลักษณะแสดงความคิดเห็นตามข้อเท็จจริง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นการกระทำของจำเลยที่ 1 จึงไม่ใช่เป็นการกระทำที่ดูหมิ่นเหยียดหยามโจทก์ จึงฟังไม่ได้ว่า นายนพรัตน์ รองประธานจัดมวยไทยไฟต์ และบริษัท สปอร์ตอาร์ต จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมกระทำละเมิดต่อโจทก์ตามฟ้อง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องมานั้น ชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน