ป๋าเผยจบซีซันน้าซาร์แขวนถุงมือ
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเปิดเผยว่า เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารจอมเก๋าชาวดัตช์จะแขวนถุงมือหลังจบฤดูกาลนี้ โดยจะมอบงานโค้ชผู้รักษาประตูของสโมสรให้หลังจากเลิกเล่น
โดยกุนซือชาวสกอตแลนด์ออกมากล่าวว่า “เราวางแผนไว้ว่านี่จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขา แม้เราจะยังไม่ได้หารือกัน แต่ เอ็ดวิน เป็นผู้เล่นที่น่าสนใจทั้งในเรื่องความสามารถและการยืนระยะในเกม” ซึ่ง เฟอร์กูสัน หวังให้ ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้ามาเป็นโค้ชผู้รักษาประตู
สำหรับ ฟาน เดอร์ ซาร์ ผ่านการเฝ้าเสาให้ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม, ยูเวนตุส และ ฟูแลม โดยได้แชมป์พรีเมียร์ดัตช์ 4 สมัย, แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และ ยูฟ่า คัพ อย่างละ 1 สมัยร่วมกับ อาแจกซ์ ก่อนมาคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 2 ร่วมกับ ปิศาจแดง ในปี 2008 รวมถึงกวาดแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 ฤดูกาลติดต่อกันในปี 2007-2009
-------------
“คาร์ริค” โว “ผี” กำลังท็อปฟอร์ม
ไมเคิล คาร์ริค กองกลางทีม “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยว่า ในเวลานี้ฟอร์มของผู้เล่นทุกคนในทีมกำลังอยู่ในช่วงพีคสุดๆ หลังจากเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไล่บดเอาชนะ “ปีนใหญ่” อาร์เซนอล 1-0 นอกจากนั้น ยังได้ชี้ด้วยว่าฟอร์มของตนเองก็กำลังท็อปฟอร์มสุดๆ เช่นกัน จากการรายงานของ “เอ็กซ์เพรสส์” สื่อชื่อดังจากประเทศอังกฤษ
โดย ดาวเตะวัย 29 ปี ให้สัมภาษณ์ผ่าน “เอ็กซ์เพรสส์” ว่า “ในเวลานี้ทีมของเรากำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มหลังจากเอาชนะอาร์เซนอล ซึ่งการคว้าชัยในครั้งนี้สร้างความมั่นใจให้กับทีมของเราได้มาก ซึ่งผมคิดว่าตอนนี้ฟอร์มการเล่นของผมกำลังร้อนแรงใช้ได้ทีเดียว และแน่นอนว่าต่อไปผมจะรักษามาตรฐานเกมการเล่นของผมให้ได้อย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้ทีมไล่ล่าแชมป์ให้สำเร็จในทุกถ้วยที่ลงแข่ง”
นอกจากนั้น คาร์ริค ยังได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “นี่คือ ช่วงเวลาสำคัญที่สุดของฤดูกาลที่เราต้องรักษามาตราฐานเกมของทีมให้ได้ ซึ่งตอนนี้ทีมของเรากำลังท็อปฟอร์มในทุกๆ ตำแหน่ง ผมคิดว่าการที่เรารั้งตำแหน่งจ่าฝูงไปจนถึงช่วงปีใหม่จะทำให้เรามีความมั่นใจมากว่าในท้ายฤดูกาลแชมป์จะเป็นของเรา”
สำหรับการแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดต่อไป “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดรังต้อนรับการมาเยือนของ “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ในวันอาทิตย์ที่ 26 ธ.ค.เวลา 22.00 น.
----------------------
เกลเซอร์ เปลี่ยนใจอาจขายผีให้กาตาร์
ตระกูลเกลเซอร์ พร้อมพิจารณาขายสโมสร “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจาก ไมค์ อีเดลสัน หนึ่งในคณะกรรมการของทีมแต่ไม่ได้อยู่ในบอร์ดบริหารหลุดปากเผยเรื่องนี้กับทางสำนักข่าว “เดอะ ซัน” (THE SUN)
แน่นอนว่า ชีค ฮามัด บิน คาลิฟา ทานี หนึ่งในราชวงศ์ของ กาตาร์ จะไม่ลดละความพยายามในการซื้อ แมนฯยูไนเต็ด แชมป์ พรีเมียร์ชิป 11 สมัย และแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 3 สมัย ล่าสุด ดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้ แม้ก่อนหน้านี้โฆษกประจำตระกูล เกลเซอร์ จะออกมาปฏิเสธ
เมื่อ อีเดลสัน กล่าวถึง เกลเซอร์ ที่ระดมเงินทุน 790 ล้านปอนด์ (ประมาณ 37,920 ล้านบาท) ซื้อถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อ 5 ปีก่อน ทว่าถูกต่อต้านจากสาวก “เรด เดวิลส์” เนื่องจากเป็นการกู้เงินส่งผลให้ทีมเป็นหนี้มหาศาล ว่า “ไม่มีข้อสงสัยเลย เพราะบางครั้งครอบครัว เกลเซอร์ ก็จำเป็นที่จะต้องพิจารณาเรื่องขายกิจการ”
กาตาร์ ต้องการเพิ่มและกระตุ้นภาพลักษณ์ของประเทศในด้านกีฬาก่อนรับงานใหญ่เป็นเจ้าภาพฟุตบอลในอีก 12 ปีข้างหน้า หากผิดหวังกับ แมนฯยู มีแผนจะรุกคืบสโมสรอย่าง เชลซี, ลิเวอร์พูล, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ต่อไป เวลานี้บรรดาชาติตะวันออกเป็นที่ต้องการของหลากหลายทีม เพราะว่า สหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ เพิ่งทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี กลายเป็นสโมสรรวยที่สุดในโลกพร้อมกับเม็ดเงินเสริมทัพแบบไม่อั้น
----------------------
“โอเวน” เผยฟิตเปรี๊ยะพร้อมลุย
ไมเคิล โอเวน หัวหอกชื่อดังของทีม “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยว่า ตอนนี้สภาพร่างกายตนเองกลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว หลังจากเกิดอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าทำให้ต้องพักเป็นเวลาหลายเดือน โดยประกาศกร้าวพร้อมจะลงสนามไล่ล่าประตูอีกครั้ง จากการรายงานของ “แมนฯ ยูไนเต็ด ด็อทคอม”
โดย ดาวเตะวัย 30 ปี อดีตสตาร์ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์ว่า “ตอนนี้สภาพร่างกายของผมกลับมาฟิตเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว หลังจากที่ต้องฝึกซ้อมเพื่อเรียกความฟิตอย่างหนักในช่วงเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ผมกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง และพร้อมจะลงเล่นเพื่อทำประตูเพิ่มให้กับทีม หากได้รับความไว้วางใจจาก เฟอร์กี ให้ลงสนาม”
นอกจากนั้น กองหน้าเจ้าของหมายเลข 7 ยังได้กล่าวถึงโอกาสของตนเองที่จะเป็นตัวจริงในทีม ว่า “ตอนนี้ผมก็ยอมรับแล้วว่า การยืดตำแหน่งตัวจริงในทีมยูไนเต็ด ถือเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะผมเองก็เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บมา และต้องกลับมาสร้างความมั่นใจให้กับผู้จัดการทีมใหม่อีกครั้ง”
--------------------
Credit :