มาแล้ว โดย.. No.10

 แฮปปี้กันถ้วนหน้าสำหรับแฟนหงส์ กับผลงานชิ้นโบว์แดงที่แอนฟิลด์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 


 



หลังจากที่ต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ มาตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล ถึงวันนี้เชื่อว่าสาวกของ ลิเวอร์พูล คงได้ยิ้มกริ่มกันบ้างแล้ว เพราะการเอาชนะทีมจ่าฝูงอย่าง เชลซี ได้ ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงเลยก็ว่าได้
 


ปกติการเอาชนะเชลซีในเกมบอลลีก ถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากอยู่แล้วสำหรับลิเวอร์พูล 
 


ยิ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ทีมมีผลงานไม่ค่อยจะดีนัก ต้องมีความพิเศษจริงๆ ถึงจะเป็นไปได้
 


ความพิเศษประการแรก คือการกลับมาเข้าฟอร์มของดาวยิงตัวเก่งอย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส แบบไม่น่าเชื่อ
 


ใครที่ติดตามผลงานของตอร์เรสในฤดูกาลนี้มาโดยตลอด คงเห็นด้วยถ้าบอกว่า ฟอร์มการเล่นของหัวหอกสเปนในเกมนี้ เหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่ยังไงยังงั้น
 


เพราะในเกมกับ โบลตัน ก่อนหน้านี้ ตอร์เรสยังสลัดฟอร์มฝืดของเขาไม่ได้เลย 
 


จับบอลก็ไม่ค่อยจะอยู่, สปีดก็ไม่มี การประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมก็เหมือนไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน
 


แต่ทุกอย่างของเขาในเกมนี้ กลับมาอยู่ในสภาพที่พร้อมสมบูรณ์อีกครั้ง แบบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง!
 


ประตูแรกของตอร์เรสในเกมนี้ คือบทพิสูจน์ของความเป็นคนเดิมของตอร์เรส ไม่ว่าจะเป็นการจับบอลแรก หรือว่าจังหวะเลือกมุมยิง นี่คือกองหน้าระดับโลกโดยแท้
 


ส่วนประตูที่สอง ผมว่ามาจากความเชื่อมั่นล้วนๆ เพราะเมื่อทุกอย่างของดาวยิงอย่างเขา กลับมาเข้าที่เข้าทางเหมือนเดิมแล้ว การยิงแบบนั้นไม่ใช่เรื่องยาก
 


ย้อนหลังกลับไปเมื่อสองฤดูกาลก่อน ตอร์เรสก็เคยยิงเชลซีในลักษณะเดียวกันกับประตูที่สองในเกมนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นเหลี่ยมแบบนี้ จึงถือเป็นการยิงที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาอยู่แล้ว
 


เรียกว่าสองประตูที่ยิงเชลซีได้ในเกมนี้ น่าจะทำให้ตอร์เรสกลับมาเป็นคนเดิมกันเสียที หลังจากที่เขาฟอร์มตกมาตั้งแต่ช่วงฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแล้ว ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ทั้งกับตัวของเขาเอง และกับทีม
 


และที่ได้รับผลพวงจากผลงานชิ้นโบว์แดงในเกมนี้ไปอีกราย ก็คือ รอย ฮอดจ์สัน คนที่คอยให้การหนุนหลังตอร์เรสมาโดยตลอด
 


ฮอดจ์สันเองก็ตกอยู่ในสภาพที่ ไม่ได้ต่างไปจากตอร์เรสในช่วงก่อนหน้านี้ 
 


และบางทีอาจจะตกอยู่ในที่นั่งลำบากกว่าเสียด้วยซ้ำ ในฐานะผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อผลงานของทีมโดยตรง
 


แต่การที่ทีมมีผลงานดีขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงก่อนหน้านี้ ทั้งในบอลลีกเอง และยูโรป้า ลีก เมื่อมารวมกับผลงานในเกมกับเชลซีนี้ น่าจะทำให้เก้าอี้ของเขามั่นคงไปได้อีกนานทีเดียว
 


ต้องบอกว่าฮ็อดจ์สันก็ทำได้ไม่แพ้กุนซือคนก่อนอย่าง ราฟา เบนิเตซ เหมือนกัน คือเมื่อถึงแม็ตช์แก้ตัว เขาก็สามารถทำได้ เหมือนอย่างที่ราฟาทำให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ
 


เมื่อทุกอย่างดีขึ้นแล้ว ลิเวอร์พูลก็คงต้องเริ่มมองไปให้ไกล กว่าที่คิดกันอาไว้ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล
 


แต่จะไปได้ไกลขนาดไหน คงต้องมาคอยดูกันต่อไป!


 
No.10


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์