ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
โบลตัน 0 - 1 ลิเวอร์พูล
สนาม : รีบ็อค สเตเดี้ยม
ที่สนาม รีบ็อค สเตเดี้ยม โบลตันปรับทัพเล็กๆให้แม็ตต์ เทย์เลอร์ลงบู๊แทนมาร์ติน เปตรอฟซึ่งเจ็บเอ็นหลังเข่า ขณะที่อีวาน คลาสนิชหอกโครเอเชียยังมีชื่อเป็นตัวสำรองแม้จะตกเป็นผู้ต้องสงสัยจากคดีข่มขืน
ด้านลิเวอร์พูลใช้งานขุนพล 11 ตัวแรกเป็นเกมที่สามของลีกติดต่อกันโดยสตีเว่น เจอร์ราร์ดได้รับบทเป็นหน้าต่ำคอยสนับสนุนเฟร์นานโด ตอร์เรสอยู่ด้านหลัง
เจ้าถิ่นเปิดฉากกดดันผู้มาเยือนทันทีหลังเริ่มเกม แต่ถึงนาทีที่ 8 เกือบโดนเบิกทวารก่อนเมื่อแซ็ต ไนท์จ่ายบอลจากกราบซ้ายขวางสนามซุ่มซ่าม ไปเข้าทางให้เจอร์ราร์ดไหลเข้าเขตโทษด้านขวาทันทีโดยตอร์เรสโยกหลอกแกรี่ เคฮิลล์เข้าหาปากประตูก่อนจะซัดหวังเอาชัวร์ แต่สุดท้ายบอลกระทบกองหลังโบลตันหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
รูปเกมโดยรวม หงส์แดงดูมีโหงวเฮ้งดีกว่า หากแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ลงล็อค และในนาทีที่ 21 พอล คอนเชสกี้ก็โดนจดชื่อเป็นประเดิมโทษฐานสอยอี ชุง ยองคว่ำแถวริมกราบซ้าย
นาทีต่อมา เดอะ ทร็อตเตอร์สต่อเกมขึ้นมาทางขวาสวยก่อนที่เควิน เดวิสจะกระดกเข้าในให้สจ๊วร์ต โฮลเด้นกระหน่ำจาก 25 หลาชนิดไม่ต้องจับถูกโฆเซ่ เรน่าปัดป้องได้สำเร็จ
นับจากนั้น เกมก็ตกมาเป็นของโบลตัน กระทั่งนาทีที่ 34 ลิเวอร์พูลก็ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะ 30 หลาหลังจากลูคัส เลว่าถูกโฮลเด้นรวบล้ม แต่เจอร์ราร์ดปั่นโด่งขึ้นอัฒจันทร์แบบไม่มีหางเสือ
จากนั้นอีกสามนาที ฟาบริซ มูอัมบ้าก็ลองซัลโวจาก 35 หลา แต่ไม่อาจคอนโทรลบอลให้เข้ากรอบได้
ถึงนาทีที่ 40 เจ้าบ้านสบช่องลุยขึ้นทางซ้ายโดยเทย์เลอร์จ่ายยาวเข้าเขตโทษแล้วเจมี่ คาร์ราเกอร์ยกมือขึ้นมาระดับอกโดนบอล แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้ลูกโทษแก่โบลตันแม้โยฮัน เอลมานเดอร์จะส่งเสียงโวยวาย
หลังมีเฮงไม่เสียลูกโทษ นาทีต่อมาเร้ด แมชีนก็น่าจะออกนำเมื่อตอร์เรสเก็บบอลได้ที่เส้น 18 หลาจึงป้ายคืนให้เจอร์ราร์ดกระทุ้งเหน่งๆ แต่กัปตันหงส์กดลูกเรียดออกนอกกรอบไปเป็นเมตร
ขยับมาถึงนาทีที่ 43 เจ้าบ้านได้ลูกฟรีคิกระยะ 25 หลาจากจังหวะที่โซติริออส คีร์เกียคอสดักเดวิสล้ม แต่ลูกยิงของเทย์เลอร์ยังไม่ผ่านการเซฟของเรน่า
เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โบลตันก็มาได้ลูกฟาวล์อีกหลังเอลมานเดอร์โดนมาร์ติน สเคอร์เทลขวางทางไป แต่เทย์เลอร์ยังกระทุ้งจากมุมเขตโทษด้านขวาไปให้เรน่ารับเข้าอกได้
อึดใจต่อมา หงส์แดงก็ได้ลูกฟรีคิกบ้างเมื่อเคฮิลล์โดดอัดตอร์เรสจนแทบขี่คอในจังหวะเล่นลูกโด่ง เจอร์ราร์ดจึงสาดจากกราบขวาลึกไปเสาไกลให้คีร์เกียคอสโขกถูกยุสซี่ ยัสเคไลเน่นปัดได้ กระนั้นกองหลังกรีซก็ล้ำหน้าก่อนแล้วอยู่ดี ครบ 45 นาทีแรกทั้งคู่จึงกินกันไม่ลง เสมอกันไปแบบไร้สกอร์
เริ่มครึ่งหลัง เจ้าบ้านชิงจังหวะจู่โจมเร็วอีก แต่ยังไม่มีโอกาสเช็คบิล และนาทีที่ 49 เทย์เลอร์ก็รับใบเหลืองในจังหวะดึงเสื้อเจอร์ราร์ดไม่ให้บุกขึ้นหน้าหลังโดนแย่งบอล
ทำไปทำมา เกมเริ่มน่าเบื่อลงทุกทีเมื่อต่างก็หมดมุกทำอะไรกันไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย กระทั่งนาทีที่ 60 โจ โคลก็พาบอลบุกขึ้นทางซ้ายแล้วจ่ายเข้ากลางให้เจอร์ราร์ดตะบันจาก 25 หลากระทบศีรษะเทย์เลอร์จึงทำให้บอลลอยโด่งแล้วถูกยาสเคไลเน่นคว้าสบาย
และในนาทีเดียวกันนี้ โคลก็เจ็บเอ็นหลังเข่าซ้ายจึงเล่นต่อไม่ได้ต้องเดินออกให้ดาวิด เอ็นก๊อกลงไปแทนในนาทีที่ 61
ลิเวอร์พูลพยายามโหมบุกหมายเอาชนะให้ได้ และในนาทีที่ 63 ตอร์เรสก็หาช่องสับไกเรียดจากหน้าเขตโทษด้านซ้าย แต่ยัสเคไลเน่นรับเข้าซองได้ไม่ยาก
เกมกลายเป็นของทีมเยือนมากขึ้นแล้ว และจากลูกเตะมุมด้านซ้ายของเจอร์ราร์ดในนาทีที่ 66 คีร์เกียคอสก็ขวิดจากเสาแรกระยะแปดหลาโด่งข้ามคานไปแบบได้ เสียว
ถัดมาอีกสองนาที โบลตันได้ลูกฟรีคิกทางด้านซ้าย โฮลเด้นจึงโยนเข้าเขตโทษแล้วเดวิสโดนคีร์เกียคอสตามไปเบียดล้ม แต่ผู้ตัดสินมองว่าเป็นการปะทะกันที่หน่อมแน้มจึงไม่เป่าให้เป็นลูกโทษ
ถัดมาในนาทีที่ 71 แฟนหงส์ก็ได้ลุ้นอีกเมื่อเจอร์ราร์ดโยนบอลจากกราบซ้ายไปเสาไกลโดยที่ตอร์เรสโขกตั้งให้มักซี่ โรดริเกซวอลเลย์ในเขตโทษ แต่บอลโด่งข้ามคานแค่คืบเดียวเท่านั้น
ล่วงมาอีกสองนาที เอลมานเดอร์ลองส่องไกลแต่เรน่าปัดออกนอกกรอบได้ และจากลูกเตะมุม ไนท์ก็โขกข้ามคาน
นาทีที่ 74 เดอะ ทร็อตเตอร์สส่งโรดริโก้ โมเรโน่ลงไปแทนชุง ยอง ก่อนที่สเคอร์เทลจะโดนจดชื่อข้อหาทำฟาวล์เดวิส และจากลูกฟรีคิกทางขวาที่ถูกสาดเข้ามาเดวิสก็พุ่งโขกเผาขนหลุดกรอบไปนิดเดียว
หลังจากครองเกมบุกอยู่นาน หงส์แดง ก็ผงาดขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ตอกส้นลอดขา แกรี่ เคฮิลล์ เข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วก็เป็น มักซี่ โรดริเกซ วิ่งเข้ามาซัดลอดแขน ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ด้วยซ้ายตุงตาข่ายให้ ลิเวอร์พูล ออกนำไปก่อน 1-0
หลังจากเสียประตู เจ้าถิ่นบุกหนักหวังทวงประตูคืนแต่ไม่สำเร็จ จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ โบลตัน 1-0 เก็บ 3 คะแนนเต็มเข้ากระเป๋า ขึ้นมารั้งอันดับ 12 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โบลตัน : ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น, เกรตาร์ สไตน์สสัน, แกรี่ เคฮิลล์, แซต ไนท์, พอล โรบินสัน, อี ชุง-ยอง, ฟาบริซ มูอัมบา, สจ็วร์ต โฮลเด้น, แม็ทธิว เทย์เลอร์, เควิน เดวี่ส์, โยฮัน เอลมานเดอร์
สำรอง : อดัม บ็อกดาน, ซามูเอล ริคเก็ตต์ส, มาร์ค เดวี่ส์, ทาเมียร์ โคเฮน, ร็อบบี้ เบล๊ค, โรดริโก้ โมเรโน่, อิวาน คลาสนิช
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, โซติริออส คีร์เจียกอส, พอล คอนเชสกี้, ราอูล เมเรเลส, ลูคัส เลว่า, มักซี่ โรดริเกซ, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ โคล, เฟร์นานโด ตอร์เรส
สำรอง : มาร์ติน แฮนเซ่น, มาร์ติน เคลลี่, คริสเตียน โพลเซ่น, จอนโจ เชลวี่ย์, เจย์ สเปียริ่ง, มิลาน โยวาโนวิช, ดาวิด เอ็นก็อก
ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ๊ตกินสัน
สรุปผลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
- แอสตัน วิลล่า เสมอ เบอร์มิงแฮม 0-0
- นิวคาสเซิ่ล ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 5-1
- โบลตัน แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1
ข่าวจาก