หงส์สิ้นท่าแพ้เอฟหมดสภาพ 2-0
เจ้าของสโมสรเปลี่ยนมือแต่ไม่ได้ช่วยอะไรอาการของหงส์แดงลิเวอร์พูลหนักข้อขึ้นเรื่อยๆหลังบลุกมาแพ้เอฟเวอร์ตันถึงกูดิสัน พาร์คแบบสู้ไม่ได้ 2-0 ทำให้หล่นไปอยู่รองบ๊วยมี 6 แต้มเท่าบ๊วยเวสต์แฮมแต่ประตูได้เสียติดลบน้อยกว่า
พรีเมียร์ลีก
วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม 2553
เอฟเวอร์ตัน 2-0 ลิเวอร์พูล
ประตู : 1-0 เคฮิลล์ น.34,2-0 อาร์เตต้า น.50
ศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้แมทช์สถิติลิเวอร์พูลข่มอย่างชัดเจนหลัง 7 เกมที่เจอกันในพรีเมียร์ลีกเอฟเวอร์ตันไม่ชนะเลยโดยครั้งสุดท้ายที่กำชัยเหนือคู่ปรับร่วมเมืองคือเดือนกันยายน 2006
11 นัดในลีกที่สองทีมนี้เจอกันมีใบแดงกระจาย 10 ใบโดยที่เจ้าถิ่นไร้ตัวเก่งอย่างมารูยาน เฟลไลนี่,สตีเฟ่น พีนาร์และหลุยส์ ซาฮา
ในขณะที่ลิเวอร์พูลไม่มีเดิร์ก เคาท์ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมทีมชาติทำให้มักซี่ โรดริเกซเสียบแทนส่วนลูคัส เลว่ากลับมาเป็นตัวจริงแทนคริสเตียน โพลเซ่นที่ไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง
จอห์น เฮนรี่เจ้าของใหม่ที่เอ่ยปากอยากชมเกมในนัดที่แอนฟิลด์มากกว่าก็โผล่มาชมเกมนี้ด้วย
ครึ่งแรก
หงส์นิ่งกว่า
ช่วงต้นเกมเป็นลิเวอร์พูลที่เคาะบอลเปลี่ยนแกนไปมาได้นานนับนาทีแต่บอลไม่คืบหน้าซักเท่าไหร่แถมเป็นแข้งท๊อฟฟี่ที่กดดันลูกเปิดเข้าใส่ในเขตโทษจนแนวรับต้องทำงานกันเหนื่อยโฮกเลยทีเดียว
หงส์เกือบโดน
นาที 12 โอกาสแรกเป็นของเจ้าถิ่นจากลูกฟรีคิกระยะอันตรายติดกำแพงจากนั้นมาตั้งกันใหม่เป็นแข้งลิเวอร์พูลเคลียร์ไม่ดีเลยมาเข้าทางจาเกียลก้าที่วิ่งมาตะบันในเขตโทษเต็มๆแต่ข้ามคานออกไป ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่ตรงกรอบ
ท๊อฟฟี่บุกข้างเดียวแล้ว
ตอนนี้เกมเป็นของเอฟเวอร์ตันหมดแล้วอีก 2 นาทีต่อมายาคูบูเก็บบอลในเขตโทษโดยมีแข้งทีมเยือนกรูเข้ามารุมทำให้ลูกยิงด้วยอีซ้ายแฉลบข้ามคานออกไปได้เตะมุม
หงส์หน้ามึน+เกมระอุ
เล่นมา 20 นาทีแล้วลิเวอร์พูลยังพาบอลมาไม่ถึงหน้าเขตโทษเอฟเวอร์ตันเลยและบอลจังหวะสองเก็บแทบไม่ได้ทำให้ตอนนี้แนวรับทำงานหนักสุดๆในส่วนความหนักของเกมมีแทบทุุกจังหวะจนเวบบ์ต้องทำงานอย่างหนักเรียกว่าช่วงแรกๆเตือนแต่ถ้ามีนักเตะคนไหนซวยทำฟาว์ลไม่หนักแต่ถึงจุดที่ต้องให้ใบเหลืองเพื่อเบรกอารมณ์ก็จะเกิดขึ้นทันทีอย่างในรายของมักซี่ โรดริเกซ
ตอร์เรสโหม่งหวิดหาย
อย่างไรก็ตามโอกาสแรกของลิเวอร์พูลมาถึงในนาที 22 และเกือบขึ้นนำหงส์โจ โคลเปิดบอลจากริมกรอบโทษฝั่งขวาให้ตอร์เรสหันหลังขวิดเช็ดตรงระยะ 6 หลาร้อนถึงฮาวเวิร์ดต้องทะยานปัดข้ามคานยอมเสียเตะมุม ภาพช้าตัดมาที่เฮนรี่และเวอร์เนอร์เจ้าของและประธานที่ลุ้นลืมแก่กันเลยทีเดียว
เรน่าเซฟช่วยชีวิต
นาที 27 ลิเวอร์พูลบุกอยู่ดีๆแต่โจ โคลจ่ายย้อนหลังจนลูคัสถลำเจอสวนกลับจนยาคูบูได้หลุดห้อแล้วสบโอกาสซัดเลียดนอกเขตโทษเข้ามุมแต่เรน่าล้มตัวตระครุบเอาไว้ได้ทัน
เคฮิลล์อัดตูมเอฟ 1-0แต่แล้วนาที 34 เอฟเวอร์ตันขึ้นนำจนได้หลังทั้งคอนเชสกี้และลูคัสสองคนรุมโคลแมนคนเดียวไม่อยู่ปล่อยให้ลากถไปจนถึงเส้นหลังก่อนเปิดตบย้อนให้เคฮิลล์วิ่งมาซัดเต็มข้อแค่ 7-8 หลาตาข่ายแทบระเบิด 1-0 แล้ว
หงส์หงิกไร้โอกาส
เกมของลิเวอร์พูลยังต่อกันไม่ติดและปีกทั้งสองข้างยังทำอะไรไมได้เลยโดยเฉพาะฝั่งขวาที่ตายสนิททำให้ภาระไปอยู๋ตรงกลางซึ่งทั้งมิดฟิลด์และแนวรับเจ้าถิ่นก็นัดองค์ประชุมยืนรอทักทายด้วยแข้งอยู่แล้ว
นาทีสุดท้ายออสมันได้ส่องหน้าเขตโทษบอลพุ่งน่ากลัวแต่ตรวตัวเรน่าที่รับเข้ามือพอดี หมดครึ่งแรกลิเวอร์พูลตามหลังอยู่ 1-0
ครึ่งหลัง
มักซี่ยิงไกลได้ลุ้น
เล่นมายังไม่ถึงนาทีเจอร์ราร์ดจะวางยาวให้ตอร์เรสติดสั้นไปติดเคลียร์กองหลังเอฟเวอร์ตันแต่บอลมาตกที่มักซี่เก็บตกก่อนวางเท้ายิงเต็มข้อเหน่งๆระยะ 20 หลาบอลพุ่งน่ากลัวแต่ไปยัดใส่มือฮาเวิร์ดที่ล้มตัวรับเข้าท้องแบบเสียวกันทั้งสนาม
หงส์เสียง่ายตาม 2-0
นาที 50 เอฟเวอร์ตันมาหนีห่างเป็น 2-0 จากลูกเตะมุมแล้วคีย์เกียกอสโขกทิ้งไม่ดีกลายเป็นตั้งให้อาร์เตต้าได้กดเต็มข้อติดไซด์ทะลุฝูงผู้เล่นทั้งสองทีมที่ยืนบังเรน่าจนมาเห็นอีกทีก็ผ่านตัวเสียบตาข่ายไปแล้ว
เด็กปู่รอยสติแตกแล้ว
พอโดนห่างสองลูกคราวนี้เกมของลิเวอร์ยิ่งเละเทะนักเตะคุมสติไม่อยู่รีบคายบอลเพราะโดนกดดันจนลนลานผิดกับทางเอฟเวอร์ตันที่ค่อยๆเคาะบอลแล้วพอถึงเขตอันตรายก็จะกล้าทำอะไรได้เสียสร้างปัญหาให้แนวรับหงส์แดงอย่างต่อเนื่อง
เมเรเลสยิงไกล
เกมตอนนี้ดูแล้วน่าเวทนาแทนแฟนบอลหงส์เพราะลิเวอร์พูลพยายามบุกเอาประตูตีไข่แตกแต่ก็เหมือนฮึดตามธรรมชาติแต่รูปแบบยังเลื่อนลอยนาที 63 เมเลเรสไม่รู้ทำไงเลยยิงไกลเข้าซองฮาเวิร์ดสบายๆ
ท๊อฟฟี่ไม่บุกแล้ว
หงส์แดงเหมือนพับสนามอยู่ข้างเดียวแต่เอฟเวอร์ตันเหมือนคู่แข่งรายอื่นๆคือพอนำแล้วก็ตั้งใจรับกันทั้งทีมปล่อยให้ยาคูบูคอยพักบอลสวนกลับ ไม่ใช่เพราะว่าเล่นสู้ไม่ได้แต่จะอุดเอาชัยอย่างเดียวแล้ว
โคลหล่อ+เมเรเลสลองยิงไกล
นาที 67 มักซี่ฝากบอลให้เจอร์ราร์ดก่อนแปะต่อให้โจ โคลกระชากหนีตัวประกบหน้าเขตโทษแล้วส่องไกลบอลเหินข้ามคานออกไปเองจากนั้นอีก 2 นาทีเมเรเลสขอลองอีกทียิงไกลบอลเข้าเป้าได้เสียวแต่ฮาวเวิร์ดพุ่งล้มรับสองจังหวะไม่พลาด
เกมเปิดแลก
เกมเปิดแลกกันแล้วโดยลิเวอร์พูลก็ทิ้งแนวรับเอาไว้สองคนส่วนแบ็คสองข้างเติมลืมแก่ทำให้จังหวะขึ้นเกมของทั้งสองทีมบีบหัวใจพอสมควรและก่อนหมดเวลา 10 นาทีไรอัน บาเบิ้ลถูกส่งลงสนามอีกคนแล้ว
ตอร์เรสซัดเหน่งๆติดเซฟ
ก่อนหมดเวลา 3 นาทีลิเวอร์พูบน่าไล่มาเป็น 2-1 หลังเจอร์ราร์ดวางยาวให้ตอร์เรสพักอกตรงระยะเผาขน 6 หลาแล้วตอนแรกทำท่าจะยิงแต่หลอกดึงจังหวะจนตัวประกบหลังแล้วพอยิงทีนี้ติดบล็อกฮาวเวิร์ดเหลือเชื่อ
เอฟเกือบกดเม็ดสาม
ลิเวอร์พูลเกือบโดนลูกที่สามในช่วงทดเจ็บหลังโดนสนามกลับกลายเป็นบุกมา 3-2 แต่เบ็คฟอร์ดที่ได้บอลไหลมาดันเลือกยิงนอกเขตแทนที่จะลากเข้าไปอีกเลยข้ามคานออกไปนิดเดียว
หงส์พับสนามแหลก
ทดเจ็บนาทีที่สามจากสี่นาทีบาเบิ้ลยิงไกลติดเซฟฮาวเวิร์ดจากนั้นลูกเปิดเข้าในให้เอ็นก็อกเข้าฮอร์ต 5 หลาแต่ถูกดิสแต็งสไลด์ตัดหน้าออกหลังไปก่อน
จากจังหวะเตะมุมต่อเนื่องตอร์เรสได้ส้มยิงในเขตโทษเน้นๆติดบล็อกกองหลังแล้วรามิเรสส่องไกลหลุดเสาออกไปได้เสียว
หมดเวลาลิเวอร์พูลแพ้เอฟเวอร์ตัน 2-0 หล่นไปอยู่รองบ๊วยหรือบ๊วยร่วมเพราะติดลบน้อยกว่าเวสต์แฮม 3 ลูกและไม่ชนะมาแล้ว 5 นัดส่วนเอฟเวอร์ตันชนะในบ้านหนแรกขึ้นจาก 17 ไปอยู่ 11 อากาศปลอดโปร่งกันเลยทีเดียว
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด,ฟิล เนวิลล์,ฟิล จาเกียลก้า,ซิลแวง ดิสแต็ง,เลจตัน เบนส์,ซีมัส โคลแมน,จอห์นนี่ ไฮติงก้า(ฮิบเบิร์ต น.72),มิเกล อาร์เตต้า(เบ็คฟอร์ด น.74 ),เลออน ออสมัน(บิลยาเล็ตดินอฟ น.46),ทิม เคฮิลล์
,ยาคูบู
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,เจมี่ คาร์ราเกอร์,มาร์ติน สเคอร์เทล,โซติริออส คีย์เกียกอส,สตีเฟ่น เจอร์าร์ด,ลูคัส เลว่า(เอ็นก็อก น.71),ราอูล เมเรเลส ,โจ โคล(บาเบิ้ล น.79),มักซี่ โรดริเกซ
(โยวาโนวิช น.84),เฟร์นานโด ตอร์เรส
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว