สถิติการพบกับของทั้งสองทีม
ฟุตบอลลีก : ลิเวอร์พูล ชนะ 57 ครั้ง, เชลซี ชนะ 41 ครั้ง และเสมอกัน 26 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ชิพ : ลิเวอร์พูล ชนะ 10 ครั้ง, เชลซี ชนะ 11 ครั้ง และเสมอกัน 5 ครั้ง
สถิติการพบกันที่สนามแอนฟิลด์
ฟุตบอลลีก : ลิเวอร์พูล ชนะ 42 ครั้ง, เชลซี ชนะ 7 ครั้ง และเสมอกัน 13 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ชิพ : ลิเวอร์พูล ชนะ 9 ครั้ง, เชลซี ชนะ 2 ครั้ง และเสมอกัน 2 ครั้ง
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) - โฮเซ่ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, สตีฟ ฟินแนน, ซามี่ ฮูเปีย, ฌิมี่ ตราโอเร่, ซาบี้ อลอนโซ่, ดีทมาร์ ฮามันน์, สตีเว่นเ จอร์ราร์ด, หลุยส์ การ์เซีย, ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์ และ ปีเตอร์ เคร้าช์
เชลซี (4-3-3) - ปีเตอร์ เช็ก, อาเซียร์ เดล ออร์โน่, เปาโล แฟร์ไรร่า, จอห์น เทอร์รี่, วิลเลี่ยม กัลล่าส์, โคล้ด มาเกเลเล่, มิคาเอล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, อาร์เยน ร็อบเบน, เดเมี่ยน ดัฟฟ์ และ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
หลังจากทั้งสองทีมเปิดฉากดวลกันไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมาในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยผลเสมอกัน 0-0 ก็มีคิวกลับมาเจอกันอีกในเกมลีก ซึ่งคาดว่าทั้งสองทีมน่าจะคงผู้เล่นชุดเดิมเป็นส่วนใหญ่ โดยทีมเจ้าถิ่นอาจจะปรับตำแหน่งเล็กน้อยด้วยการถอด ฌิบริล ซิสเซ่ ออก แล้วส่งเจ้าหนู ปองปอง ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์ ลงมาเล่นแทนในตำแหน่งริมเส้นทางด้านขวา
ส่วนทีมเยือนก็น่าจะมาพร้อมกับผู้เล่นชุดเดิมเมื่อกลางสัปดาห์ โดยอาจจะมีการสับเปลี่ยนตำแหน่งในแผงหลังเล็กน้อย เมื่อ อาเซียร์ เดล ออร์โน่ พร้อมลงประจำการในตำแหน่งแบ็กซ้าย ทำให้ วิลเลี่ยมส์ กัลล่าส์ จะได้ไปยืนรักษาการในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีม ปล่อยให้ ริคาร์โด้ คาวัลโญ่ นั่งยิ้มส่งกำลังใจอยู่ข้างสนาม
สำหรับรูปเกมทั้งสองทีมคงไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อกลางสัปดาห์มากนัก เมื่อต่างก็เล่นแบบเหนียวแน่น มั่นใจแล้วค่อยบุก เกมนี้จึงน่าจะเป็นการขับเคี่ยวของมิดฟิลด์ในพื้นที่กลางสนาม เพื่อสร้างโอกาส และตัดเกมรุกของคู่แข่งไปในตัว ส่วนสกอร์การแข่งขันจะมีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับแนวรับ และจังหวะจบสกอร์ของทั้งสองทีมว่าจะมีดีกันแค่ไหน ถือเป็นเกมวัด กึ๋น ของสุดยอดกุนซือแห่งยุคระหว่าง ราฟาเอล เบนิเตซ กับ โฮเซ่ มูรินโญ่ ส่วนใครจะเจ๋งกว่ากันวันอาทิตย์นี้มีคำตอบสำหรับคุณ ...