หงส์แดงลิเวอร์พูลปลดล็อกเอาชนะเกมแรกในปี 2010 ที่รอคอยสำเร็จหลังเปิดบ้านเอาชนะท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สแบบใจหายใจคว่ำถึงวินาทีสุดท้ายด้วยสกอร์ 2-0 จากปลายตีนของเคาท์ทั้งสองลูกขยับขึ้นที่ 6 ไล่โควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกเหลือแต้มเดียวแล้ว
พรีเมียร์ลีก
วันพุธที่ 20 มกราคม 2553
ลิเวอร์พูล 2-0 สเปอร์ส
ประตู : 1-0 เคาท์ น.6,2-0 เคาท์ น.90+2(จุดโทษ)
ราฟาเอล เบนิเตซมาแปลกอีกแล้วเมื่อจับเอาแบ็คอย่างฟิลิป เดเก้นมายืนปีกขวาทั้งๆที่มีมักซี่ โรดริเกซ,ไรอัน บาเบิ้ลที่ม้านั่งสำรองโดยหุบเคาท์มายืนหน้าเดี่ยวและให้อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ห้อยด้านหลัง
ด้านแฮร์รี่ เร้ดแนปป์จัดทัพใหญ่ใช้ปีเตอร์ เคราช์คู่เจอร์เมน เดโฟส่วนแดนกลางปึ๊กมีหลากหลายสไตล์ทั้งจีนาส,ปาลาซิออส,ครันชาร์และลูก้า โมดริช
ครึ่งแรก
ไก่ดูดีแต่หงส์นำเร็ว!
ลิเวอร์พูลเริ่มต้นมีปัญหาไม่น้อยเพราะเจอสเปอร์สทำชิ่งไล่บดโดยนาทีที่ 5 ทีมเยือนทำชิ่งจนเบลได้เปิดจากปีกซ้ายเข้ามาเป็นเรน่าออกมาตัดแล้วบอลปลิ้นมาเข้าทางเดโฟแล้วจอมหนึบทีมชาติสเปนล้มตัวตะบปจากเท้าแล้วกลับมารับอีกทีรอดพ้น
จากจังหวะที่เรน่าเตะเปิดเกมมาเป็นเคาท์พักอกให้อาควิลานี่เอาลงแล้วลากมาหน้าเขตโทษก่อนจ่ายให้แข้งไตรกีฬายิงหักข้อตรงระยะ 20 หลาบอลพุ่งเลียดเบียดเสาตุงตาข่ายเข้าไปเลย ส่วนอาควินอนเจ็บลุกมาดีใจไม่ได้เพราะเจอสอยจากด้านหลังตอนออกบอลให้เคาท์
เกมสูสี
จากนั้นเกมผ่านไปกว่า 10 นาทีไม่มีจังหวะยิงอะไรเลยโดยเกมของหงส์แดงไม่ได้เป็นต่อนักเพราะไม่มีการครองเกมในแดนกลางโดยจะเป็นการรุมแย่งบอลจากสเปอร์สแล้วสาดให้เคาท์วิ่งไล่ให้บอลไปตายด้านหน้าเพื่อความปลอดภัยมากกว่า
อาควิเกือบมอบของขวัญ
นาที 23 เจ้าถิ่นเกือบพลาดเองเมื่อสเปอร์สบุกมาเสียบอลตรงหน้าเขตโทษแล้วอาควิเก็บตกก่อนลากขึ้นมาก่อนไหลให้เดเก้นแต่แบ็ตสวิตเซอร์แลนด์พยายามฉีกเลยไปคนละทางเจอปาลาซิออสตัดได้เลยยิงไกลยังดีที่บอลข้ามคานออกไปเอง
บอลไม่มีอะไร
เกมไม่มีอะไรจริงๆเพราะเป็นการชิงจังหวะกันโดยต้องบอกว่าแดนกลางของสเปอร์สดีกว่าลิเวอร์พูลแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรแนวรับเจ้าถิ่นได้เช่นกัน
อาควิโชว์
ก่อนหมดเวลา 3 นาทีอาควิโชว์คลึงบอลที่ริมเส้นแล้วทำท่าจะจ่ายคืนให้เดเก้นแต่ไขว้พลิกกระชากจนครันชาร์ต้องดักเข่าทำฟาว์ล เรียกเสียงปรบมือจากเดอะค็อปทั่วสนาม
หงส์พลาดลูกสอง
ทดเจ็บนาทีที่ 3 ลิเวอร์พูลเกือบปิดพักครึ่งด้วยลูกนำ 2-0 จากจังหวะเตะมุมของริเอร่าเป็นโกเมสออกมาชกจากด้านหลังเดเก้นบอลกระเด้งมาเข้าทาง ที่พุ่งโหม่งติดบล็อกแกเรธ เบลแล้วยังมาตกที่สเตอร์เทลที่ตั้งป้อมซัดมุมแคบ
โมดริชเกือบตีเจ๊า
เกมนี้ทดเจ็บมาถึงนาทีที่ 4 แล้วเพราะมีผู้ล่นเจ็บบ่อยและลิเวอร์พูลเกือบเสียท่าให้สเปอร์สหลังปาลาซิออสแทงเข้าเขตโทษให้โมดริชหลุดเข้ามาก่อนยิงเลียดกะเอาเสาแรกแต่เรน่าปฏิกริยาไวล้มตัวเซฟบอลลอยโด่งก่อนกระโดดมารับรอดตัวกันไป
ครึ่งหลัง
ริเอร่าโขกชนคาน
เล่นมา 6 นาทีลิเวอร์พูลดาหน้าลุยและเกือบได้ประตูหลังคาร์ราเกอร์ที่วันนี้เล่นดีใช้ได้เปิดบอลจากปีกขวาย้อยมาที่จุดนัดพบเป็นริเอร่าโผนโขกเหนือชอร์ลูก้าบอลพุ่งแสกหน้าโกเมสชนคานดังสนั่น
ไก่ไม่ยอมมีลุ้น
จากนั้นนาที 54 เดโฟได้กระชากเข้าเขตโทษแล้วไม่ยอมยิงล็อกกลับก่อนป้ายให้โมดริชวิ่งมาซัดแต่บอลเบาเข้ามือเรน่าที่รอรับสบาย
จีนาสเกือบยิงลูกเวอร์
ลิเวอร์พูลตั้งรับกันเยอะและอีก 4 นาทีต่อมาจีนาสเก็บตกบอลหน้าเขตโทษเลยซํดเต็มข้อด้วยอีซ้ายบอลพุ่งเป็นลำแสงเดือดร้อนเรน่าต้องใช้ท่อนแขนเซฟแต่ไมได้พุ่งเพราะบอลมาเกือบๆจะตรงตัว สเปอร์สได้เตะมุม
ไก่พับสนามแล้ว
เกมเลยหนึ่งชั่วโมงมาแล้วตอนนี้ต้องบอกว่าลิเวอร์พูลเริ่มแย่เพราะเจอสเปอร์สไล่พับสนามจนแดนกลางครองเกมดึงช้าไม่ได้ต้องสาดทิ้งอย่างเดียว เล่นแบบนี้น่าห่วงเพราะเท่ากับรอวันโดนตีเสมออย่างเดียวเท่านั้น
หงส์เลอะเทอะหลุดเดี่ยวไม่ได้ยิง
แต่นาที 66 ลิเวอร์พูลน่าจะนำสบายๆได้อยากไม่อยากเย็นหลังเคาท์หลุดกระชากลากเดี่ยวขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษแล้วไหลเข้าเขตให้เดเก้นหลุดเข้าไปจะยิงแต่เลือกตบให้หอกไตรกีฬาที่ไม่ยอมยิงแต่ข้ามหลอกกลายเป็นเสียของไปเลย จังหวะแบบนี้ต้องมีง้างยิงแล้วใครก็ได้
เคาท์อีกแล้ว
อีก 6 นาทีต่อมาเคาท์ยังใช้โอกาสเปลืองไม่เลิกหลังลูกฟรีคิกตรงปีกซ้ายมาเข้าหัวคาร์ราเกอร์ที่โหม่งเช็ดถอยหลังให้เคาท์แล่บมาแปกลางอากาศระยะ 6 หลาที่เสาสองแต่บอลโด่งข้ามคานออกไปเอง
ริเอร่ากดเฉี่ยวสามเหลี่ยม
หงส์แดงชักกลับมารุกใส่สเปอร์สอย่างเป็นเนื้อเป็นหนังได้เรื่อยๆนาที 74 ริเอร่าส่องไกลติดไซด์บอลพุ่งเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไปเสียวท้องน้อยทั้งสนาม
หงส์ร่วมด้วยช่วยรับ
ลิเวอร์พูลกลับมารับกันหนักขึ้นตามเวลาที่ใกล้หมดลงโดยราฟาเปลี่ยนเอามักซี่กับเอ็นก็อกมาเพิ่มความสดแต่ดูเหมือนทำได้แค่ไล่บีบให้สเปอร์สเล่นไม่ถนัดเฉยๆ
หงส์ช็อกเน้นๆ 2 ครั้งไม่ได้
ก่อนหมดเวลา 5 นาทีหงส์แดงยังปิดสกอร์ไม่ได้ซักทีโดยเอ็นก็อกสับโอกาสซัดในกรอบแต่โกเมสบินปัดสุดตัวบอลไปถึงริมเส้นแล้วคาร์ราเกอร์ครอสเข้ามาเป็นเอ็นก็อกโขกชงสวนไลน์ออฟไซด์ในเขตแต่เคาท์ที่สอดมาแปยิงเน้นๆ 5 หลาไร้เทคนิคข้ามคานไปสุดช็อก
คีย์เกียกอสหลุดเดี่ยวก็ยังไม่เข้า
นาที 88 ลิเวอร์พูลถ้าไม่ชนะต้องบอกว่าโทษตัวเองคนเดียวเลยเพราะจังหวะที่สเคอร์เทลสาดบอลจากหน้าเขตโทษเข้าในเป็นคีย์เกียกอสพักอกหลุดเดี่ยวล่อเป้าเดี่ยวๆแต่ดันไปยิงตกพื้นตรงตัวโกเมสที่ปัดทิ้งเหลือเชื่ออีก
เคาท์ยิงจุดโทษทดเจ็บชนะ 2-0
ช่วงทดเจ็บลิเวอร์พูลมาได้จุดโทษหลังเอ็นก็อกแตะบอลเข้าเขตโทษแล้วเจอบาสซงสไลด์เสียบช้าทั้งตัวฮาวเวิร์ด เวบบ์เป่าให้จุดโทษทันที จังหวะนี้หอกฝรั่งเศสแตะบอลยาวแล้วด้วยก่อนที่เคาท์จะยิงเข้าไปแต่กรรมการให้ยิงใหม่เพราะว่าลูคัสลูกพ่อดันเสร่อวิ่งเข้าไปก่อนซะงั้น ทำอะไรเพื่อทีมบ้างสิครับ ยังดีที่เคาท์ยิงครั้งที่สองหลอกโกเมสพุ่งไปคนละทาง เช็กบิล 2-0 แซงแอสตัน วิลล่ามาอยู่ที่ 6 และไล่บี้สเปอร์สจาก 4 เหลือแต้มเดียวแล้ว
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่าฅเจมี่ คาร์ราเกอร์,มาร์ติน สเคอร์เทล,โซติริออส คีย์เกียกอส,เอมิเลียโน่ อินซัว,ฟิลิปป์ เดเก้น(ดาร์บี้ น.90),ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ,ลูคัส เลว่า
,อัลเบิร์ต ริเอร่า(มักซี่ น.81),อัลแบร์โต้ อาควิลานี่(เอ็นก็อก น.79),เดิร์ก เคาท์
สเปอร์ส : เฮเรลโญ่ โกเมส,เวดราน ชอร์ลูก้า(ฮัตตัน น.62),ไมเคิ่ล ดอว์สัน,เลดลีย์ คิง(บาสซง น.81),แกเรธ เบล ,ลูก้า โมดริช,เจอร์เมน จีนาส
,วิลสัน ปาลาซิออส
,นิโก้ ครันชาร์(คีน น.65),ปีเตอร์ เคราช์,เจอร์เมน เดโฟ











ขอบคุณข่าวจาก www.lentee.com
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว