สมศักดิ์ศรีแดงเดือด! แมนยูเจ๊าลิเวอร์พูล สุดมัน
สมศักดิ์ศรีศึกแดงเดือด! แมนยูเจ๊าลิเวอร์พูล สุดมัน 2-2 บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก
"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนเสมอกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ด้วยสกอร์ 2-2 แบบสมศักดิ์ศรีของศึกแดงเดือด ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2023/24 ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 7 เมษายน
ทั้งสองทีมเจอกันครั้งที่ 3 ในฤดูกาลนี้ของทั้งสองทีม โดยนัดแรกในเกมพรีเมียร์ลีก ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมปีก่อน จบลงด้วยผลเสมอกัน 0-0 และนัดที่สองเพิ่งเจอกันในถ้วยเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งแมนยูเอาชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-3
สำหรับเกมนี้ 11 นักเตะตัวจริงของเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่ง อังเดร โอนานา (ผู้รักษาประตู), ดิโอโก้ ดาโลต์, วิลลี่ คัมบวาลา, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, อาร่อน วาน บิสซาก้า, ค็อบบี้ ไมนู, คาเซมิโร่, อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และราสมุส ฮอยลุนด์
ขณะที่ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ส่ง ควีวิน เคลเลเฮอร์ (ผู้รักษาประตู), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์, จาเรลล์ ควอนซาห์, คอเนอร์ แบรดลี่ย์, วาตารุ เอ็นโด, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิก โซโบสไล, หลุยส์ ดิอาซ, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และดาร์วิน นูนเญซ
เกมครึ่งแรกนาทีที่ 23 กลายเป็นทีมเยือนลิเวอร์พูลบุกมาพังประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะการเล่นลูกเตะมุม แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลเข้าไปให้ ดาร์วิน นูนเญซ โหม่งเช็ดบอลเปลี่ยนทางไปให้ หลุยส์ ดิอาซ ลอยตัวซัดบอลเข้าไปตุงตาข่าย หมดสิทธิ์ที่ อังเดร โอนานา จะเซฟได้
จากนั้นแมนยูพยายามตั้งเกมบุกหวังทวงประตูตีเสมอ แต่ยังไม่มีโอกาสจบสกอร์ ขณะที่ลิเวอร์พูลทำเกมรุกได้อย่างวูบวาบ และมีโอกาสยิงหลายต่อหลายครั้งจากทั้ง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และดาร์วิน นูนเญซ แต่ก็ยังจบสเกอร์ไม่เฉียดขาด ทำให้หมดครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกมานำ แมนยู 1-0
เข้าสู่เกมในครึ่งหลังนาทีที่ 50 แมนยูได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากความผิดพลาดของ จาเรลล์ ควอนซาห์ แนวรับหงส์แดงจ่ายบอลคืนหลังพลาดไปเข้าทางของ บรูโน่ แฟร์นานเดส บรรจงวางเท้ายิงจังหวะแรกแบบไม่ต้องจับชิพบอลติดสปินจากกลางสนามข้ามหัว ควีวิน เคลเลเฮอร์ เข้าประตูไปอย่างสวยงาม
จนกระทั่งนาทีที่ 67 แมนยูซัดแซงขึ้นนำเป็น 2-1 จากการทำเกมขึ้นมา และเป็น อาร่อน วาน บิสซาก้า แทงบอลให้ ค็อบบี้ ไมนู แต่งบอลหนึ่งจังหวะแล้วปั่นบอลโค้งๆ หนีมือ ควีวิน เคลเลเฮอร์ เสียบสามเหลี่ยมเข้าไปตุงตาข่ายอย่างงดงามสะใจแฟนบอลปีศาจแดง
จากนั้นทีมเยือนลิเวอร์พูลพยายามโหมบุกหวังทวงประตูตีเสมอบ้าง แต่ยังใช้โอกาสเปลืองทั้งจาก โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และดาร์วิน นูนเญซ จนกระทั่งนาทีที่ 82 ลิเวอร์พูล ได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ ฮาร์วี่ย์ เอลเล็ต ลากบอลเข้าเขตโทษแล้วโดน อาร่อน วาน บิสซาก้า พุ่งเสียบสกัดล้มลงไป และเป็น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ รับหน้าที่ยิงเข้าไปแบบนิ่มๆ ทำให้ไล่ตีเสมอเป็น 2-2
จบเกมเสมอกันไปแบบสุดเดือด 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงเตะ 31 นัด มี 49 แต้ม รั้งอันดับ 6 ในตารางคะแนน ส่วน ลิเวอร์พูล มี 71 แต้มเท่ากับจ่าฝูง อาร์เซน่อล แต่ประตูได้เสียน้อยกว่า ทำให้ลิเวอร์พูลรั้งอันดับ 2 โดยมี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ตามมาเป็นอันดับ 3 ตามแค่แต้มเดียวเท่านั้น