ลิเวอร์พูลโดนจุดโทษมิดทิลแลนด์ไล่เจ๊า 1-1
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2020-2021 นัดสุดท้ายของกลุ่มดี เป็นการพบกันระหว่าง มิดทิลแลนด์ เปิดรังเหย้า เอ็มซีเอช อารีนา ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล
ไบรอัน ปริสเก้ ซึ่งตกรอบด้วยการเป็นอันดับสุดท้ายของกลุ่มแน่นอนแล้ว เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 ด้วยการใช้กองหน้าตัวเป้าเป็น โซรี กาบ้า คอยประสานงานในแแผงเกมรุกร่วมกับ อันเดอร์ส เดรเยอร์, เอวานเดอร์ และ อาเวอร์ มาบิล
ด้านทีมเยือนของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งผ่านเข้ารอบ 16 ทีมในฐานะแชมป์กลุ่มแน่นอนแล้ว จึงให้โอกาสตัวสำรองสัมผัสเกมหลายราย โดยเฉพาะการส่งกองกลางดาวรุ่งอย่าง เลห์ตัน คลาร์กสัน ลงเล่นในเกมยุโรปครั้งแรก ส่วนสามแนวรุกในแผน 4-3-3 ใช้เป็น ดิโอโก้ โชต้า, ดีว็อก โอริกี้ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ออกสตาร์ทเกมได้ไม่ถึงนาที เป็นฝั่งของลิเวอร์พูลมาจัดการทำประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากความผิดพลาดของนักเตะมิดทิลแลนด์ที่เสียบอลบริเวณกลางสนามจนโดน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฉกไปลากหลุดเดี่ยวแล้วดีดด้วยขวาระยะเผาขนไม่เหลือ ส่งให้หงส์แดงบุกนำ 1-0 และก็จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนาทีที่ 62 มิดทิลแลนด์มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ อันเดอร์ส เดรเยอร์ ไปโดน ควีวีน เคลเลเฮอร์ ออกมาสกัดล้มลงไป ซึ่งผู้ตัดสินวิ่งไปดูเหตุการณ์นี้ย้อนหลังที่จอ VAR ข้างสนามด้วยตัวเองก่อนชี้ขาด และก็เป็น อเล็กซานเดอร์ โชลซ์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมด้วยผลเสมอ 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม โดยบทสรุปในกลุ่มดี เป็นลิเวอร์พูลคว้าแชมป์กลุ่มด้วยการมี 13 แต้ม กอดคออันดับ 2 อตาลันต้า ที่มี 11 แต้ม เข้ารอบ 16 ทีม ส่วนอันดับ 3 อาแย็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่มี 7 แต้ม หล่นไปเล่นยูโรป้าลีก และอันดับ 4 มิดทิลแลนด์ ที่มี 2 แต้ม ตกรอบ