ทางฝั่งทีมเยือนของ อาร์เซน เวนเกอร์ ยังคงไม่มี แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, กาเบรียล เปาลิสต้า, แดนนี เวลเบ็ค และ อารอน แรมซีย์ ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ โดยรายล่าสุดคือ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ผู้รักษาประตูกลับมาใช้ ปีเตอร์ เช็ก อีกครั้ง แนวรับใช้ ชโคดราน มุสตาฟี จับคู่กับ โลร็อง กอสเซียลนี แดนกลางยังคงเป็น ซานติ การ์ซอลาจับคู่กับ ฟรองซิส โกเกอแล็ง หน้าเป้าเป็น อเล็กซิส ซานเชซ
อาร์เซนอลได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 17 จากจังหวะที่บุกกดดันฮัลล์ ซิตี้อยู่นานแล้วบอลไหลมาถึง ธีโอ วัลคอตต์ เปิดบอลเข้าเขตโทษ เอลดิน ยาคูโปวิช ปัดบอลออกมาเข้าทาง อเล็กซ์ อิโวบี ได้โอกาสยิงแล้วบอลไปโดน อเล็กซิส ซานเชซ สะกิดเข้าประตูไปทีมเยือนขึ้นนำ 1-0
อาร์เซนอลน่าได้ประตูที่ 2 นาที 27 จากจังหวะบุกขึ้นมาของทีมเยือน อเล็กซิสได้บอลเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษก่อนจ่ายให้ เบเยริน ที่สอดขึ้นมาทางขวาเปิดเข้ากลาง และเป็น อเล็กซ์ อิโวบี้ ได้ยิงแต่ติดเซฟ เอลดิน ยาคูโปวิช บอลมาเข้าทาง เมซุต โอซิล ได้ซ้ำอีกทีบอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
ฝั่งทีมเยือนได้รับใบเหลืองแรกของเกมในนาที 33 จากจังหวะที่ ซานติ การ์ซอลา ไปเสียบใส่ อาห์เหม็ด เอล โมฮามาดี้
ฮัลล์ ซิตี้ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ อดามา ดิโอเมนเต้ เลี้ยงลุยเข้าเขตโทษ ก่อนส่งให้ อเบล เฮอร์นันเดซ ที่ป้ายต่อเร็วไปให้ โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ ที่สอดขึ้นมาได้ยิงด้วยซ้ายแต่บอลไปตรงตัว ปีเตอร์ เช็ก
นาทีที่ 41 อาร์เซนอลได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ เจค ลิเวอร์มอร์ ใช้แขนปัดลูกยิงของ อิโวบี้ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษและให้ใบแดงไล่กัปตันทีมเจ้าบ้านออกไป แต่ อเล็กซิส ซานเชซ สังหารจุดโทษไม่เข้าทำให้สกอร์ยังคง 1-0
ไมค์ ฟีแลน แก้เกมด้วยการส่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ลงมาเล่นแทน อดามา ดิโอเมนเต้ ในนาทีที่ 42
จบครึ่งแรกเป็นอาร์เซนอลทีมเยือนออกนำ ฮัลล์ ซิตี้ เจ้าบ้านไปก่อน 1-0