มาร์ค หนุนสร้างสนามใหม่!ไทยเจ้าภาพ ฟุตซอลโลก2012



src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/08/futsal450.jpg


“บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เปิดเผยว่า จากการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้ตนเองพร้อมด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการ กทม., นายสามารถ มะลูลีม อุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ, นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอล เข้าพบเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 9 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหาหารือรายละเอียดต่างๆที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนในการที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 หรือ ปี พ.ศ.2555 โดยเฉพาะการสร้างสนามรองรับพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันที่ “ฟีฟ่า” ระบุว่าต้องมีความจุ 10,000-15,000 คน ซึ่งใช้เวลาหารือราว 1 ชั่วโมง


นายวรวีร์ กล่าวว่า น่าปลื้มใจมากที่ท่านนายกรัฐมนตรีให้ความเอาใจใส่ต่อการเป็นเจ้าภาพจัด ฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 เป็นอย่างมาก โดยทางผู้บริหาร กทม.ได้นำแผนงาน และแบบแปลนการก่อสร้างสนามไปเสนอให้ท่านนายกฯรับทราบข้อมูล ซึ่งท่านได้ให้แนวทางมา 3 แนวทางด้วยกัน คือ


อภิสิทธิ์

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ


1.การก่อสร้างสนามใหม่ในที่ดินของรถไฟ โดยให้ กทม.ไปเจรจากับการรถไฟก่อน 2.การก่อสร้างที่ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร เขตหนองจอก และ 3.ให้ปรับปรุงอินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก หรือ อาคารนิมิบุตร ให้มีที่จุตามที่ “ฟีฟ่า” ระบุ โดยมอบหมายให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ และ รองฯทยา ไปดำเนินการทันที และให้สรุปให้ได้ภายในเดือนนี้ รวมทั้งเสนอแผนงานและการของบประมาณการปรับปรุงสนามแข่งขันในต่างจังหวัดที่ จะเป็นเจ้าภาพร่วมแนบมาพร้อมกันด้วย


“บังยี” กล่าวอีกว่า ตนเองก็ให้สัญญากับท่านนายกรัฐมนตรีว่า หลังการเป็นเจ้าภาพฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ตนจะพัฒนาสนามที่จะสร้างขึ้นมาใหม่นี้ให้เป็นศูนย์พัฒนาฟุตซอลแห่งอาเซียน ทีมฟุตซอลของชาติต่างๆในอาเซียน จะมาฝึกซ้อมหรือเก็บตัวที่นี่ รวมทั้งการอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องด้วย อาทิ ผู้ฝึกสอน, ผู้ตัดสิน เป็นต้น อีกสิ่งหนึ่งที่เราจะได้จากการสร้างสนาม คือมันจะเป็นอนุสรณ์ของประเทศไทย และเป็นมรดกตกทอกไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ส่วนแผนงานหลังจากนี้ ตนจะทำหนังสือไปถึง “ฟีฟ่า” ว่าตอนนี้เราไม่มีอะไรติดขัดแล้วสามารถดำเนินการได้เลยตามแผน นอกจากนั้นก็จะทำหนังสือแจ้งไปยังฝ่ายจัดการแข่งขันของ ฟีฟ่า ด้วยว่าจะขอเพิ่มทีมที่แข่งขันในรอบสุดท้าย จาก 20 ทีมเป็น 24 ทีม ซึ่งคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ได้เห็นชอบในข้อเสนอนี้แล้ว


ผมยังได้รายงานให้ท่านนายกฯ ทราบอีกว่า สมาคมฟุตบอลฯ ได้ริเริ่มจัดการแข่งขันฟุตบอลประเพณีเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-อินเดีย โดยอินเดียจะมาเยือนไทยในวันที่ 4 ก.ย. ส่วนไทยจะไปเยือนวันที่ 8 ก.ย. ซึ่งนอกจากจะเชื่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแล้ว ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วยโดยใช้ฟุตบอลเป็นสื่อ หากรัฐบาลต้องการร่วมเดินทางไปก็น่ายินดี นอกจากนั้นผมยังได้เรียนให้ท่านทราบเรื่องของลีกภูมิภาคว่าให้ช่วยจัดสรรงบ ประมาณในการปรับปรุงสนามแข่งขันให้มีคุณภาพมาตรฐานมากขึ้น ท่านก็รับปากว่าจะพิจารณาให้ พร้อมทั้งบอกว่าที่ผ่านมาได้จัดงบให้ไป 7 จังหวัดแล้ว โดยเฉพาะนราธิวาสที่ได้สนามขนาดใหญ่พร้อมไฟส่องสว่าง นายวรวีร์กล่าวปิดท้าย


เครดิต : เดลินิวส์



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์