ตั้ง รองฯจ๊ะ สอบโค้ชเช-หวั่นจอมเฮี๊ยบลาออก

“เทควันโด” ตั้ง “สมคิด ปิ่นทอง” ประธานสอบ “โค้ชเช” กรณีลงโทษ “น้อยก้อย” รุ่งระวี ขุระสะ จอมเตะสาวไทย เกินกว่าเหตุ “ปรีชา” เผย รู้ผล 19 ก.ค.นี้ ยืนยันให้ความเป็นธรรมเต็มที่ แต่แอบหวั่นใจ “โค้ชจอมเฮี๊ยบ” ประกาศลาทีมชาติไทยเหมือนกัน ยืนยันแม้ไม่ใช้โค้ชที่เก่งที่สุดในโลก แต่ถือว่าเป็นคนที่รักและเข้าใจนักกีฬาไทยมากที่สุด

เมื่อวันที่ 14 ก.ค.57 ที่สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดฯ
 
ในฐานะประธานคัดเลือกนักเทควันโดทีมชาติไทย เป็นประธานแถลงข่าวกรณีที่ “โค้ชเช” หรือ เช ยอง ซอก เฮดโค้ชเทควันโดทีมชาติไทย ชาวเกาหลีใต้ ลงโทษเกินกว่าเหตุต่อ “น้องก้อย” รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดทีมชาติไทย วัย 23 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการแข่งขัน รายการ “โคเรียล โอเพ่น 2014” ที่เกาหลีใต้ ส่งผลให้ “น้องก้อย” แฉผ่านเฟสบุ๊คว่าขอลาออกจากการเป็นนักกีฬาทีมชาติ พร้อมยืนยันจพดำเนินคดีกับ “โค้ชเช” ให้ถึงที่สุด

นายปรีชา กล่าวว่า หลังจากที่ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วทาง ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯ

ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั่งสองฝ่าย ซึ่งขณะนี้สมาคมฯ ได้เชิญ “รองฯ จ๊ะ” นางสมคิด ปิ่นทอง อดีตรองผู้ว่าการการกีแห่งประเทศไทย (กกท.) เข้ามาเป็นประธาน ร่วมกับกรรมการอีก 3 คน นำโดยนายเลิศ นิตย์ธีรานนท์ ส่วนอีก 2 คน จะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิของวงการกีฬาไทย ซึ่งกระบวนการสอบสวนจะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น. จากนั้นในช่วงบ่าย สมาคมฯ จะเปิดโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่อไป

    
สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณานั้นสมาคมฯ ก็จะยึดระเบียบจาก กกท. และสหพันธ์เทควันโลก เป็นหลัก
 
ส่วนผลจะออกมาอย่างไร ก็ต้องให้ทั้งสองฝ่ายมาชี้แจงต่อคณะกรรมการฯ ซึ่งจะต้องให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ โดยหลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 12 ก.ค. “น้องก้อย” ได้ขอให้ส่งตัวกลับเมืองไทย ซึ่งตนก็ได้ให้ทางโค้ชไทย พามาส่งที่สนามบินทันที แต่ทราบมาว่าน้องก้อย เดินทางมาถึงไทยเมื่อคืนวันที่ 14 ก.ค. ส่วนทางครอบครัวของนักกีฬานั้นตนไม่สามารถติดต่อได้เลย ขณะเดียวกัน ก็ได้โทรไปสอบถามทางโค้ชเชด้วย ซึ่งเมื่อทราบข่าวเขาเองก็เสียกำลังใจมากเช่นกัน แต่ก็ยืนยันว่าได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างถึงที่สุดแล้ว ซึ่งตนขอให้ทุ่มสมาธิไปกับการแข่งขันก่อน

    
ผู้สื่อข่าวถามว่า สมาคมฯ กลัวว่าโค้ชเชขอจะลาออกหรือไม่ ทาง “บิ๊กชา” กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกหวั่นใจมาก

ไม่ใช่ว่าโค้ชเชจะเก่งที่สุดในโลกแต่ว่าเป็นโค้ชต่างชาติที่อยู่กับสมาคมฯ มาเป็น 10 ปี มีความรู้และเข้าใจและรักนักกีฬาไทยเป็นอย่างมากนั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้อยากให้ไปถามนักกีฬาชุดปัจจุบันหรืออดีตนักกีฬาเทควันโดไทยว่าโค้ชเช เป็นอย่างไร

    
ทางด้าน “น้องเล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ นักเทควันโดเจ้าของเหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2012 กล่าวว่า
 
ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงขอให้ความเห็นแบบกลางๆ เริ่มจากโค้ชเช เป็นคนที่ทุ่มเทกับงานและรักนักกีฬาทุกคนที่อยู่ในแคมป์ทีมชาติ หากใครทำผิดก็จะลงโทษอย่างหนักโดยเฉพาะรุ่นพี่ (รุ่นประชาชน) ที่จะโดนเป็นสองเท่าของรุ่นน้องเพราะไม่อยากให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ส่วน “น้องก้อย” เอง ประสบการณ์ยังน้อย ติดทีมชาติในรุ่นประชาชนมา 2 ครั้ง อาจจะยังไม่เคยเจอการลงโทษหนักมาก่อน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน

   
ส่วนตัวอยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี ไม่อยากให้มองว่าการลงโทษของโค้ชมาจากอคติส่วนตัวหรือมีเจตนาจะไปทำร้ายนักกีฬา
 
เพราะตนหรือนักกีฬารุ่นพี่ก็เจอหนักมากว่านี้แต่ก็ผ่านมาได้จนประสบความสำเร็จในที่สุด ที่สำคัญหลังการลงโทษนักกีฬา โค้ชเชจะบอกว่าเขาทำเราเจ็บ ตัวแต่เขาเองก็เจ็บใจมากที่สุด ที่ทำลงไปเพราะอยากให้ทุกคนมีวินัยและได้ดีประสบความสำเร็จกับการเป็นนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยนั่นเอง.