สมราคา แชมป์เก่าไล่กระซวกตราไก่เบาๆ 2-0 ลิ่วชนฝอยทอง

การแข่งขันฟุตบอลยูโร2012
รอบ 8 ทีมสุดท้าย
กระทิงดุ สเปน VS ตราไก ฝรั่งเศส
สนาม ดอนบาสส์ อารีน่า

แชมป์เก่ากระทิงดุสเปนเกมนี้ทาง บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ยังคงใช้ผู้เล่นหน้าเดิมลงเล่นทำผลงานต่อไป ซึ่งบรรดาแกนหลังอย่าง ตอร์เรส และ ซิลบา น่าจะได้รับโอกาสลงเล่นเป็น 11 ตัวจริง ขณะเดียวกันจะยังคงมีนักเตะจาก 2 ยักษ์ใหญ่ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า เป็นกำลังสำคัญของทีม

ตราไก่ฝรั่งเศส โรล็อง บล็องส์ กุนศือหนุ่มของทีมยังคงมีปัญหาในการจัดทัพอสมควร ซาเมียร์ นาสรี่ ที่ได้รับการยืนยันออกมาแล้วว่าไม่สามรถที่จะลงเล่นในเกมนี้ได้ ขณะเดียวกันยังได้ข่าวดีหน่อยเมื่อทางเพลย์เมกเกอร์ยัง ฟร็อง ริเบรี่ พร้อมลงเล่นส่วนตำแหยางอื่นๆคาดว่าใช้ชุดที่ลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่มเป็นกำลังสำคัญต่อไป

เป็น 1 ใน 2 คู่ของรอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกยูโร 2012 ที่น่าสนใจมากที่สุดคู่หนึ่งเลยทีเดียว กรรมการเป่านกหวีดเริ่มเกมมาได้ 5 นาที ก็เกิดจังหวะเจ้าปัญหาขึ้นอีกจนได้
เมื่อทางกระทิงดุ โยนบอลยาวจากแดนกลางเข้ามาในกรอบเขตโทษแบะเป็นทาง เชส ฟาเบรกาส ที่ใช้อกแตะบอลเข้าไปในกรอบ 18 หลา แต่โดนทางนักเตะของตราไก่ดึงล้มคว้า ซึ่งกรรมการที่เห็นเหตุการ์ณกับไม่ให้จุดโทษกับทางทีมแชมป์เก่าแต่อย่างใด

นาทีที่ 8 ทางสเปนได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะของทาง ซาบี้ อลอนโซ่ ที่ได้โอกาสสับไกง้างเท้ายิงจากระยะ 45 หลา แต่บอลไม่เข้ากรอบแต่อย่างใด

เกมยังคงคู่คี่สูสีมากทีเดียวจนดำเนินมาถึงนาทีที่ 19 เป็นทางแชมป์เก่ากระทิงดุสเปนที่ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ทาง จอห์ดี้ อัลบ้า แบ็กฟอร์มแรงจากบาเลนเซียเติมเกมขึ้นมาทางกราบซ้ายและจ่ายให้ทาง ซาบี้ อลอนโซ่ ได้โอกาสกดตูมพาบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย
ให้ทางกระทิงดุขึ้นนำไปแล้ว 1-0

หลังจากที่โดนทางสเปน ยิงประตูขึ้นนำทางฝรั่งเศสก็ต้องเริ่มที่จะเดินเกมรุกกดดันเข้าใส่ทางฝั่งของสเปนบ้าง แต่เกมส่วนใหญ่ก็สู้กันในแดนกลางเป็นการชิ่งจังหวะความผิดพลาดเข้าเล่นงานกันมากกว่า

จนผ่านมาถึงนาทีที่ 32 ตราไก่มีโอกาสได้ลุ้นประตูตีเสมอเมื่อได้ฟรีคิกและเป็นทางดาวเตะจากนิวคาสเซิ่ล โยฮัน กาบาย ได้ลองซัด แต่ทางนายด่านจอมเก๋าอย่าง คานซิยาส โชว์ฟอร์มบินปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ

รูปเกมโดยรวมในวันนี้แดนกลางของสเปนทำผลงานได้ดีกว่าอย่างชัดเจนเลยทีเดียวและเป็นอย่างที่ ซีดาน เคยกล่าวว่าให้ทางดาวเตะรุ่นน้องพยายามปิดเกมของสเปนให้ได้
โดยเฉพาะในวันนี้ อันเดรียส อิเนสต้าร์ โดดเด่นมากทีเดียวสร้างสรรค์เกมให้กับทางแชมป์เก่ากระทิงดุได้อย่างยอดเยี่ยม

น่าจะได้ลูกที่ 2 เมื่อทางสเปนได้จังหวะเตะมุมใน นาทีที่ 42 และเป็นทางฝั่งของ เคราล์ด ปิเก้ ที่ได้เติมขึ้นมาเทคตัวโหม่งบอล แต่ไม่สามารถควบคุมบอลได้
ทำให้ข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้นเลยทีเดียว

หลังจากนั้นเกมทั้งคู่ก็สู้กันในแนดกลางซะส่วนใหญ่จนหมดครึ่งแรกสเปนนำ 1-0

หลังจากกรรมการเป่านกหวีดเริ่มเกมครึ่งเวลาหลังเป็นทางฝั่งของ ฝรั่งเศส ที่ในเวลานี้โดนทางสเปนนำไป 1-0 พยายามที่จะสร้างสรรค์เกมรุกเพื่อเอาประตูตีเสมอ

และก็มีโอกาสจากจังหวะในนาทีที่ 52 เมื่อทาง เดอบูชี่เติมเกมาทางฝั่งขวาก่อนจะไหลเข้าช่องให้ทาง ริเบรี่ วิ่งเบียดไปกับทาง รามอส แต่เหลี่ยมบอลทางฝั่งของกองหลังเลือดกระทิงทำได้ดีกว่ามากทีเดียว

อีกครั้งที่ทางตราไก่ ฝรั่งเศส ใกล้เคียงที่จะได้ประตูมากที่สุดเมื่อทาง ริเบรี่ ปั่นป่วนริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนที่จะหักหลบและเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ และเป็นทาง มาติเยอ เดบูชี่ ที่สอดขึ้นมาโหม่งเปรี้ยง แต่บอลลอยข้ามคานไปแบบได้ลุ้นเลยทีเดียว

กระทิงดุ สเปนเริ่มที่จะเป็นฝ่ายปั้นเกมขึ้นมาได้บ้างหลังจากที่โดนทาง ตราไก่ ไล่กดดันมาตลอดในช่วงเริ่มครึ่งเวลาหลัง แต่เกมโดยรวมส่วนใหญ่ในคู่นี้มักที่จะเสียบอลกันบริเวณกลางสนาม

ทางฝั่งของฝรั่งเศสได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะการทำเกมของ ริเบรี่ ที่วันนี้ในช่วงครึ่งหลังนั้นโดดเด่นมากทีเดียวค่อยที่จะปั่นป่วนแนวรับของทางสเปนได้เป็นอย่างดี
โดยในนาทีที่ 78 เขามีโอกาสที่จะได้ส่องจากบริเวณนอกกรอบ แต่ยังวางเท้ายิงได้ไม่ดีเท่าที่ควร

หลังจากนั้นเกมโดยรวมส่วนใหญ่สู่กันที่แดนกลางเป็นหลักและเลยมาจนถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บทางตัวสำรองอย่าง ซานตี้ กาซอห์ล่า โดนดึงล้มลงในกรอบเขตโทษ
กรรมการเป่าปรี๊ดให้จุดโทษและเป็นทาง อลอนโซ่ ที่รับหน้าที่สังหารช่วยให้ทีมหนีห่าง 2-0 และรักษาสกอร์นี้จนจบการแข่งขันรอเข้าไปเจอกัยทาง ฝอยทอง โปรตุเกส