สิงห์หวิดเจ๊ง!สเตอร์ริดจ์โขกเซฟชีวิตไล่เจ๊าลูกโลก 1-1


เอฟเอ คัพ รอบ 5 

วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ 

เชลซี 1 : 1 เบอร์มิงแฮม 

ประตู : 
0-1 เมอร์ฟี่ย์ น.20, 1-1 สเตอร์ริดจ์ น.62 

เชลซีวันนี้จัดตอร์เรสลงยืนหน้าเป้าเหมือนเดิม แต่ต้องดูว่าหัวหอกสแปนิชจะตีนบอดเหมือนเดิมตามนั้นไหม เพราะมีดร็อกบากลับมามีชื่อในทีม นั่งขู่ฟ่อๆข้างสนามพร้อมรอโอกาสลงเล่นอยู่แล้ว 

เจ้าบ้านช่วงหลังอาการหนักน่าดู เพราะ 3 เกมหลังสุดยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น ซ้ำเกมสุดท้ายกับเอฟเวอร์ตันก็ดันแพ้ไปซะนี่ ทำให้เชื่อเลยว่าถ้าหากมาตกรอบเอฟเอ คัพไปอีก อนาคตของโบอาสคงรอดยากแน่ 

ครึ่งแรก 

ลูอิซให้ศีลให้พรตอร์เรส 
เล่นแบบปกติทำไม่ได้ก็ต้องพึ่งความเชื่อกันบ้าง เมื่อภาพจับได้ว่าลูอิซใช้มือกุมหัวของตอร์เรสก่อนที่จะท่องบทสวดอะไรสักอย่าง เป็นขวัญและกำลังใจให้กับหัวหอกฟอร์มฝืดที่หวังจะทำประตูกู้ชื่อให้จงได้ 

สิงห์ได้ครองตามคาด 
ผ่านช่วง 10 นาทีแรก ไม่ได้มีอะไรให้ได้ลุ้นมากนักและเชลซีก็ได้ครองบอลเหมือนอย่างที่คาดกันเอาไว้ก่อนเกม แต่ปัญหาอยู่ที่แนวรุกของพวกเขาที่ค่อนข้างจะทื่อๆไปหน่อยในจังหวะเข้าทำ 

ลูกโลกมีระส่ำ!คาร์เจ็บเล่นต่อไม่ได้ 
อีก 3 นาทีต่อมา เบอร์มิงแฮมก็มาเสียเสาหลักซึ่งเป็นกัปตันทีมอย่างคาร์ไป เพราะเจ็บจากจังหวะเข้าปะทะกับเบอร์ทรานด์แล้วเล่นต่อไม่ไหว จนต้องเปลี่ยนเอาสเป็คเตอร์ลงไปเล่นแทน 

โบอาสซีด!หลังพลาดสิงห์โดนก่อน 
นาทีที่ 20 สีหน้าบ่งบอกเลยว่าเครียดสุดๆสำหรับโบอาส เมื่อกองหลังมาพลาดในจังหวะประกบหน้าประตูจากลูกเตะมุม ไปกึกกักกันอยู่ที่เสาแรก สุดท้ายบอลปลิ้นเด้งไปเสาสอง เป็นเมอร์ฟี่ย์ที่วิ่งมาเอียงตัวบวกด้วยซ้ายผ่านบล็อกของเช็กและผู้เล่นเชลซีเข้าไปตุงตาข่าย เบอร์มิงแฮมขึ้นนำไปก่อนแล้ว 1-0 

อะไรกันเนี่ย!สิงห์ได้จุดโทษแต่มาต้าพลาด 
อีก 3 นาทีต่อมา นี่อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกความไม่มีดวงของเชลซีหรือไม่ เพราะทีมอุตส่ามาได้จุดโทษแบบรวดเร็วหลังจากโดนขึ้นนำไป เมื่อรามิเรสไปโดนเอลเลียตเตะขาล้มลงในเขตโทษ แต่มาต้าที่รับหน้าที่สังหารก็ยิงไปติดเซของดอยล์ซึ่งเดาได้ถูกทาง สะใจแฟนทีมเยือนกันเต็มข้อเลย 

อึดอัดแทนแฟนสิงห์ 
เกมผ่านครึ่งชั่วโมง ต้องยอมรับเลยว่าเกมรุกของเชลซีมีปัญหาอย่างหนักหน่วง เพราะสูตรที่ใช้สเตอร์ริดจ์คอยป่วนริมเส้นไม่ได้ผล พอให้มาต้าขยับเข้าตรงกลางคอยป้อนบอลให้เพื่อน ก็ดูจะติดขัดไปหมดซะอีก ยิ่งตอร์เรสไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะเห็นแค่สองสามจังหวะเท่านั้น 

ลูอิซซัดฟรีคิกได้ลุ้น 
นาทีที่ 35 ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว สำหรับลูอิซที่ตอนแรกพาบอลลุยขึ้นสูงจนเรียกใบเหลืองและฟรีคิกได้ ก่อนที่จะลุกมาจัดการปั่นเอง ส่งบอลพุ่งโค้งผ่านกำแพงและเหมือนจะเสียบใต้คาน แต่ก็ไม่ผ่านมือของดอยล์ที่ดักปัดทิ้งออกไปได้ 

ช่วงเวลาที่เหลือ เชลซีพยายามตาลีตาเหลือกบุกใส่เบอร์มิงแฮมอย่างเต็มที่ แต่ที่ได้ลุ้นมากสุดคงจะเป็นลูกยิงนอกกรอบเขตโทษของสเตอร์ริดจ์ที่บอลพุ่งเหมือนจะฮุคเสียบคาน แต่หลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น 

สุดท้ายจบ 45 นาทีแรก เบอร์มิงแฮมช็อกเจ้าบ้านด้วยการบุกมานำไปก่อน 1-0 ดูแล้วโบอาสคงเครียดหนักแน่ เพราะแฟนบอลโห่กันเสียงอื้ออึ่งตอนที่ผู้ตัดสินเป่าจบครึ่งแรกลง 

ครึ่งหลัง 

และแล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อตอร์เรสที่ครึ่งแรกเงียบเป็นเป่าสาก ถูกเปลี่ยนตัวออกไปและเชลซีใส่ชื่อของดร็อกบาลงเล่นแทน 

สิงห์ .... ก็ยังไม่ดีขึ้น 
แม้ว่าจะเปลี่ยนตัว ปรับแทคติคแล้วก็ตาม แต่ผ่าน 10 นาทีแรกของครึ่งหลังไป เชลซีก็ยังไม่ได้กระเตื้องเพิ่มมากขึ้นไปกว่าตอนครึ่งแรกเลย เพราะปัญหาก็อยู่ในจุดเดิมที่ไม่สามารถป้อนบอลขึ้นไปข้างหน้าได้ 

จัดอีกตัว!สิงห์ปล่อยกาลูอาละวาด 
นาทีที่ 57 จะทำอะไรต้องรีบทำสำหรับเชลซีที่จัดการเปลี่ยนเอาโอบี มิเกลซึ่งวันนี้เล่นไม่ออกเอาซะเลยออก แล้วจัดการส่งกาลูลงไปโดยหวังว่าเกมจะดีขึ้นมาเพื่อลุ้นตีเสมอเอาไว้ก่อน 

เพอร์เฟ็คช็อต!อีวาฯถวายพานใส่หัวสเตอร์ริดจ์ 
นาทีที่ 62 เอาจนได้สำหรับเชลซี ซึ่งต้องชมความยอดเยี่ยมของมาต้าที่ตักบอลออกข้างให้กับอีวาโนวิชที่บรรจงเปิดบอลครอสแรงจากด้านข้างพุ่งเข้าไปใส่หัวของสเตอร์ริดจ์ที่ตั้งคอให้มั่นแล้วสะบัดบอลพุ่งเช็ดเสาไกลเข้าประตูอย่างงาม เชลซีตีเสมอเป็น 1-1 

โคตรน่าได้!เมเรเลสอัดแฉลบ 
นาทีที่ 72 บี้จัดหนักเลยสำหรับเชลซีที่พยายามทำเกมบุกให้เบอร์มิงแฮมไม่ได้หายใจหายคอ ก่อนที่จะมาได้ลุ้นสุดๆจากเมเรเลสซึ่งเติมขึ้นมาอัดแถวสองในจังหวะเตะมุม บอลพุ่งไปแฉลบขาของกองหลัง ก่อนที่จะหลุดคานออกไปนิดเดียว จังหวะนี้ถ้าตรงกรอบก็ใส่สกอร์ได้เลย 

สิงห์เร่งได้แต่อย่าลน 
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เชลซีต้องนิ่งให้มากกว่านี้สักหน่อย เข้าใจว่าต้องการประตู แต่เกมที่เร่งจนเกินไปของพวกเขา ทำให้หลายๆจังหวะสูญไปแบบไม่ได้อะไร ควรต้องเพิ่มความละเอียดมากกว่านี้ 

เวลาเหลือน้อยลงทุกที 
ลุ้นกันตัวโก่งเลยสำหรับแฟนเชลซี เพราะตอนนี้เบอร์มิงแฮมน่าจะหวังแค่ผลเสมอเท่านั้นแล้ว ในขณะที่เชลซีต้องการชัยชนะอย่างรุนแรงเลยพยายามลุยกันเต็มที่ ต้องดูกันไปก่อนว่าจะเป็นเช่นไร 

โห่กันเกรียว!สิงห์ส่งแลมพ์แต่ถอดมาต้า 
งานนี้แฟนบอลโห่กันแบบเต็มที่เลย เพราะไม่พอใจโบอาสที่เปลี่ยนแลมพาร์ดลงเล่น แต่กลับถอดเอามาต้าที่เล่นได้เด่นกว่าคนอื่นๆในแผงมิดฟิลด์ออกไปซะอย่างนั้น 

นาทีที่ 86 น่าเสียดายแทนเบอร์มิงแฮมสุดๆ เพราะเรดมอนด์อุตส่าได้หลุดเข้าไปมีโอกาสยิงในกรอบเขตโทษแล้ว แต่เจ้าตัวไปฝืนเอียงตัวยิง จนทำให้บอลเบาหวิวไหลเข้ามือของเช็กไป 

จบ 90 นาที เบอร์มิงแฮมเฮกันลั่นก้อง เมื่อบุกมาเสมอกับเชลซีได้ถึงแสตมฟอร์ด บริดจ์ทำให้ต้องไปเตะกันที่บ้านของพวกเขาอีกเกมหนึง 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

เชลซี : 
ปีเตอร์ เช็ก 6, แกรี่ เคฮิลล์ 5, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช 7, ไรอัน เบอร์ทรานด์ 6.5, ดาวิด ลูอิซ 6.5, ราอูล เมเรเลส 5, จอห์น โอบี มิเกล 4(กาลู น.57, 5.5), รามิเรส 6.5, เฟร์นานโด ตอร์เรส 4(ดร็อกบา น.45, 6), ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ***8, ฆวน มาต้า 5.5(แลมพาร์ด น.83, N/A) 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ, โบซิงวา, มิคาเอล เอสเซียง, ฟลอร็องต์ มาลูด้า 

เบอร์มิงแฮม : คอลิน ดอยล์ 7.5, ปาโบล อีบาเนซ 7.5, เคอร์ติซ เดวิส 7, สตีเฟ่น คาร์ 6(สเป็คเตอร์ น.12, 6.5), เดวิด เมอร์ฟี่ย์ 6, เวด เอลเลียต 5.5(เบิร์ค น.83, N/A), คีธ ฟาฮีย์ 6, มอร์กาโร่ โกมิส 7, จอร์แดน มัตช์ 6.5, นาธาน เรดมอนด์ 5.5, อดัม รูนี่ย์ 6(เจร์วิช น.71, 6) 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : แจ็ค บัตแลนด์, สตีเว่น คาล์ดเวลล์, คอลลัม ไรล์ลี่ย์, อัควาซี่ อซานเต้
 

 
  
 
 
 
 
 
  
 
 
 

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์