ซิตี้ 10 ตัวแต่แจ๋ว!ผีลิ้นห้อยชนะเรือ 3-2


เอฟเอ คัพ รอบ 3 

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม 2554 

สนาม : เอฮัดติ สเตเดี๊ยม 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 : 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

ประตู : 
0-1 รูนี่ย์ น.10, 0-2 เวลเบ็ค น.30, 0-3 รูนี่ย์ น.40, 1-3 โคลารอฟ น.48, 2-3 อเกวโร่ น.65 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้เปิดรังเอติฮัด สเตเดี๊ยมต้อนรับการมาเยือนของอริร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พวกเขาเคยบุกไปเอาชนะในลีกคาบ้านมาได้แล้วด้วยสกอร์ถล่มทลาย 6-1 

แมนฯซิตี้วันนี้โรเตชั่นในบางตำแหน่ง โดยเฉพาะผู้รักษาประตูที่ส่งปันติลิม่อนแทนฮาร์ท แต่ตัวเด็ดๆอย่างซิลบา, นาสรี่และอเกวโร่ก็ยังอยู่กันครบ หนาวแน่ๆสำหรับแฟนทีมเยือน 

แมนฯยูไนเต็ดมีเซอร์ไพรส์ก่อนเกม เมื่อสโคลส์ตัดสินใจกลับมาจากการแขวนสตั๊ดขอช่วยทีมไปอีกครึ่งฤดูกาลที่เหลือ มีชื่อเป็นตัวสำรอง 

ในส่วนผู้รักษาประตูลินเดการ์ดยังคงได้รับความไว้วางใจต่อไป แม้จะโดนไป 3 ตุงในเกมกับนิวคาสเซิ่ลก็ตาม 

ครึ่งแรก 

อาบังทุ่มผิดเฉย 
แม้จะบอกว่าไม่ค่อยได้ทุ่ม แต่ระดับนี้แล้วก็ไม่น่าพลาด สำหรับนานี่ที่โชว์ฮาให้แฟนเจ้าบ้านได้เฮกัน เมื่อไปรีบทุ่ม จนทุ่มผิด ทำให้โดนจับเปลี่ยนเสียผลประโยชน์ไป พร้อมกับการโวยวายของเจ้าตัวซึ่งเหมือนจะดูแก้เขิลมากกว่าหงุดหงิดจริง 

ริโอช้า ... ลินฯช้ากว่า 
ช้ากันไปกันมาจนเกือบพังแล้วสำหรับแมนฯยูไนเต็ด ในจังหวะเล่นสั้นกัน แต่เฟอร์ดินานด์หาตัวย้ายไม่มี เลยยึกยักอยู่สองสามจังหวะ ก่อนตัดสินใจส่งคืนหลังไปให้ลินเดการ์ดที่ค่อยๆบรรจงแตะบอล หันมาอีกที อเกวโร่พุ่งมาถึงตัวบล็อกจังหวะเตะไว้ได้ เดชะบุญแท้ที่บอลออกหลัง ถ้าเข้าประตูมาล่ะก็ได้งามหน้าแน่ 

เรือเซ็ง!บุกแทบตายโดนหมูสวนโป้งหาย 
นาทีที่ 11 มันชินี่คงกริ้วลูกทีมสุดท้าย เพราะตั้งแต่เริ่มเกมมาได้บุกอยู่ฝั่งเดียว แต่มาเจอทีเด็ดเกมสวนกลับของแมนฯยูไนเต็ด ที่รูนี่ย์เติมขึ้นไปจ่ายออกข้างให้วาเลนเซีย ก่อนที่ปีกหน้าตายจะเปิดกลับเข้ามาให้ไอ้หมูเทคตัวขึ้นโหม่งแบบเดาๆเพราะพี่แกหมุนตัวโหม่ง ส่งบอลย้อยข้ามปันติลิม่อนเช็ดคานเข้าประตูไป แมนฯยูไนเต็ดได้เฮก่อนเฉยเลย 

นี่มันอะไรกัน!กอมปานีโดนใบแดง 
อีก 1 นาทีต่อมา ฝันร้ายตอนเริ่มเกมของแมนฯซิตี้ชัดๆเลย เพราะเพิ่งจะเสียประตูไปชนิดตดยังไม่หายเหม็น ก็มาเหลือผู้เล่นน้อยกว่า ในจังหวะที่กอมปานีไปเสียบขาคู่ใส่นานี่ แม้ว่าดูภาพช้าแล้วไม่อันตรายสักเท่าไหร่ เพราะไม่ได้เปิดปุ่มและก็เข้าต่ำด้วย แต่ผู้ตัดสินไม่มองแบบนั้น ควักใบแดงให้ทันที ท่ามกลางความเซ็งของผู้เล่น "เรือใบ" เพราะตอนนี้เสียเปรียบหนักเลย 

ลินซ์บินปัด!กุนยิงสวยแล้ว 
นาทีที่ 14 เด เกอานั่งขมิบจนตูดเมื่อยเลย ในจังหวะที่อเกวโร่ได้บอลที่ทะลักมาหน้ากรอบเขตโทษ เลยบรรจงปั่นส่งบอลหมายให้พุ่งไปเสียบเสาสอง แต่ก็เป็นลินเดการ์ดที่โชว์จังหวะบินไปปัดมือเดียวทิ้งออกหลังได้ทัน 

ตัวน้อยกว่าแต่เรือยังน่ากลัว 
แม้ว่าตัวผู้เล่นจะน้อยกว่า แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของแมนฯซิตี้ในการทำเกมรุกมากนัก เพราะผู้เล่นที่ใช้ในการบุกทะลวงของพวกเขาแซ่บเหลือเกิน มีหลายครั้งที่กองหลังของแมนฯยูไนเต็ดเอาไม่อยู่และต้องซ้อนสองคนอยู่บ่อยๆ 

ริโอ ... โวยอะไรครับ ?? 
นาทีที่ 27 เกือบทำเพื่อนงานงอก ยังมีการไปโวยรุ่นน้องซะอีก สำหรับเฟอร์ดินานด์ จากจังหวะที่เหลือเขาห้อยหลังคนเดียว แทนที่จะหวดบอลทิ้งออกไปจากแดนตัวเองหรือไม่ก็ส่งคืนลินเดการ์ด แต่กลับเลือกฝืนจ่ายออกข้างไปให้กับโจนส์ที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งพร้อมเล่น จนโดนซิลบาฉกไปส่งบอลต่อให้อเกวโร่ ยังดีที่ลูกนี้กุนซัดออกข้างประตูไป ไม่งั้นล่ะแย่แน่ 

สวยงาม!โก๋แดนตวัดยิงเสียบเสา 
นาทีที่ 30 เจอแบบนี้เป็นฮาร์ทลงก็อาจจะต้องลุ้นกันว่าไหวไหม ในจังหวะที่แมนฯยูไนเต็ดทำเกมขึ้นไปทางซ้าย ก่อนที่เอฟร่าจะเปิดบอลยัดเข้ากลาง บอลแฉลบลอยโด่งขึ้นกลางเขตโทษ ผู้เล่นแมนฯซิตี้พยายามจะเข้าสกัด แต่เป็นเวลเบ็คที่ถอยกลับไปหมุนตวัดยิงวอลเล่ย์จังหวะแรก บอลพุ่งเสียบเสาไกล สุดปัญหาที่ปันติลิม่อนจะพุ่งไปเซฟได้ทัน "ปีศาจแดง" กำความได้เปรียบเต็มที่ นำห่างถึง 2-0 

ห่างแล้ว!ผีได้จุดโทษหมูยิงซ้ำ 
นาทีที่ 40 แมนฯยูไนเต็ดมาได้ประตูนำห่างกระจายเลยก่อนจบครึ่งแรก เมื่อมาได้จุดโทษในจังหวะเวลเบ็คแตะเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะโดนโคลารอฟพุ่งเสียบแบบค่อนข้างชัดเจน เพราะนักเตะแมนฯซิตี้แทบไม่ประท้วงอะไรเลย ก่อนที่รูนี่ย์จะทำแฟนตกใจ ยิงไปติดเซฟของปันติลิม่อน ยังดีที่บอลมันลอยตั้งตรงกลางให้ไอ้หมูวิ่งตามไปโหม่งซ้ำไม่เหลือ แมนฯยูไนเต็ดทิ้ง 3-0 

ช่วงท้ายครึ่งแรกเวลเบ็คเกือบจะบวกได้อีกประตู ในจังหวะเข้าชาร์จในกรอบเขตโทษ แต่ระยะมันขาดไปนิดเดียว ทำให้จบ 45 นาทีแรกเป็นแมนฯยูไนเต็ดที่นำห่างถึง 3-0 เพราะแมนฯซิตี้เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนตั้งแต่ช่วงต้นเกม ต้องดูกึ๋นของมันชินี่ในอีก 45 นาทีท้ายแล้ว 

ครึ่งหลัง 

แมนฯซิตี้จัดการเปลี่ยนแท็คติคโดยถอดเอาซิลบาและจอห์นสันออกไป ก่อนจะส่งซาวิชกับซาบาเลต้าลงสนามแทน ต้องดูว่าเกมจะเป็นยังไง 

ปลุกวิญญาณ!?โคลารอฟซัดฟรีคิกเฉียบ 
นาทีที่ 48 เฉียบขาดจริงๆสำหรับโคลารอฟที่มาจัดการซัดฟรีคิกผ่านกำแพงของแมนฯยูไนเต็ดที่เฟอร์กูสันคงอยากเอากำปั้นไปเขกกบาล เพราะมีช่องแล้วยังไม่โดดกัน ทำให้บอลพุ่งผ่านไปเสียบเสาอย่างสวยงาม เกินกว่าที่ลินเดการ์ดจะบินไปถึง แมนฯซิตี้เริ่มฟื้นมาเป็น 3-1 เรียกโมเมนตั้มดึงกลับมาได้หน่อยแล้ว 

เขากลับมาแล้ว!หมามุ่ยแทนบัง 
นาทีที่ 60 ช่วงเวลาที่แฟนแมนฯยูไนเต็ดรอคอยก็มาถึง เมื่อสโคลส์ได้ลงไปในสนามอีกครั้ง หลังจากแขวนสตั๊ดไปแล้ว โดยลงไปเล่นแทนนานี่ ดูแล้วทุกคนคงอยากจะเห็นลีลาเดิมๆของเขา แต่แน่นอนว่าคงไม่ใช้ลีลาการโดนไล่ออกแบบไม่น่าโดน 

มันส์แล้วโว้ย!กุนตามซ้ำเฮลั่นสนาม 
นาทีที่ 66 เกมนี้ออกได้ทุกหน้าแล้ว เพราะต้องชมพลังใจของแมนฯซิตี้ที่ลุยไม่มีหยุดและความผิดพลาดของสโคลส์ที่เพิ่งลงไปเบิ้ลบอลที่เพื่อนทุ่มมาให้คืนน้ำหนักขาด โดนแมนฯซิตี้ฉกไปเปิดเข้ากลาง อเกวโร่โฉบยิงก่อนที่สมอลลิ่งจะถึงบอล ลินเดการ์ดเซฟได้แต่บอลกระฉอกเพราะโดนยิงจ่อๆ ก่อนที่อเกวโร่จะตามซ้ำอีกดอกเข้าไปเน้นๆ แมนฯซิตี้ไล่มาเป็น 3-2 สุดมันส์แล้วในตอนนี้ 

ผีดูป่วนๆ 
อะไรก็ไม่แน่ไม่นอนจริงๆ เพราะเกมของแมนฯยูไนเต็ดที่เล่นกันแบบชิลๆในช่วงครึ่งแรก ตอนนี้พอโดนตีตื้นมาสองลูกบวก ความกดดันก็ถาโถมเข้ามาหนัก เล่นกันไม่ค่อยปะติดปะต่อและทำเกมได้ยากขึ้นกว่าเดิม 

ตามนั้น!ผีถอดโก๋แดนส่งกลางเพิ่ม 
นาทีที่ 75 กลางของแมนฯยูไนเต็ดสู้แมนฯซิตี้ในจังหวะที่ต้องวิ่งฟัดกันแทบไม่ได้เลย เฟอร์กูสันจึงต้องส่งเอาอันแดร์สันลงสนามเพื่อไปเสริมความแน่น ก่อนที่จะถอดเวลเบ็คซึ่งเงียบฉี่ไปเลยในครึ่งหลังออก 

ผีคลึงเต็มที่เจาะไม่ได้ก็เฉย 
ตอนนี้ดูเหมือนแมนฯยูไนเต็ดจะลดสปีดของเกมลงมาพอสมควร แล้วก็จ่ายกันแบบเน้นความแน่นอนมากขึ้น แต่ด้วยการที่เล่นกันช้าและแมนฯซิตี้แพ็คเกมรับรอสวนแน่น เลยกลายเป็นว่าเจาะเข้าไปพื้นที่สุดท้ายแทบไม่ได้เลย 

จี๊ดไหม!เรือส่งฮาร์โก้ลง 
นาทีที่ 82 ไม่รู้ว่าจะจี๊ดกันไหมเมื่อแมนฯซิตี้ส่งฮาร์กรีฟส์ที่เคยเป็นอดีตเด็กผีลงไปเล่นในสนามแทนนาสรี่ ต้องดูว่าจะมีทีเด็ดซัดทีมตัวเองหรือไม่ 

โวยบ้าง!เรือร้องจะเอาจุดโทษ 
อีก 1 นาทีต่อมา นักเตะแมนฯซิตี้โวยกันแหลกลานเลย เมื่อจังหวะที่พวกเขาเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ โจนส์ล้มตัวพยายามสกัดบอล แต่เหมือนบอลมันไต่หน้าท้องเขาแล้วไปโดนแขนที่ยันพื้นเอาไว้ แต่ผู้ตัดสินเฉยไม่ว่าอะไร 

ผีรับกันตาเหลือก 
ยิ่งช่วงท้ายเกมงวดเข้ามา ความกดดันก็ยิ่งไปอยู่ทางแมนฯยูไนเต็ดที่ตอนนี้เสียกระบวนไปแล้ว โดนแมนฯซิตี้บุกใส่จนทำอะไรป่วนไปหมด แถมลินเดการ์ดก็ป้ำๆเป๋อๆออกมาหวาดเสียวหลายจังหวะ ขมิบตูดจนก้นชาเลยทีเดียว 

แม้ว่าจะเสียวแล้วเสียวอีกอยู่หลายดอก แต่สุดท้ายแมนฯยูไนเต็ดก็ลากสังขารสะบักสะบอมพ้น 90 นาทีเอาชนะแมนฯซิตี้ที่เหลือผู้เล่นน้อยกว่าตั้งแต่ช่วงต้นเกมไปได้ 3-2 ผ่านเข้ารอบเอฟเอ คัพต่อไป 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : 
คอสเตล ปันติลิม่อน, โจเลี่ยน เลสค็อตต์, แวนซองต์ กอมปานี, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, อเล็คซานดาร์ โคลารอฟ , ไนเจล เดอ ยอง, เจมส์ มิลเนอร์, ซาเมียร์ นาสรี่(ฮาร์กรีฟส์ น.82), ดาบิด ซิลบา(ซาวิช น.45), อดัม จอห์นสัน(ซาบาเลต้า น.45), แซร์คิโอ้ อเกวโร่  

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : โจ ฮาร์ท, กาแอล กลิชี่, เดนิส ซัวเรซ, อับดุล ราซัค 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, ริโอ เฟอร์ดินานด์ , ปาทริซ เอฟร่า , คริส สมอลลิ่ง, ฟีล โจนส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, นานี่  (สโคลส์ น.59), เวย์น รูนี่ย์  , แดนนี่ เวลเบ็ค   (อันแดร์สัน น.75) 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : ดาบิด เด เกอา, ราฟาเอล, จอนนี่ อีแวนส์, ปาร์ค จี ซุง, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
 

 
  
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์