ที่สุด...ความจริงก็ปรากฏ


src=http://www.siamsport.co.th/_ImagesColumn/110104D6U11700.jpg


 




จำได้ไหมครับ ที่ครั้งหนึ่ง ผมเคยเขียนไว้ว่า แอฟริกาใต้จะประสบปัญหาอย่างใหญ่หลวง กับความเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2010


ไหนจะเม็ดเงินมหาศาลเป็นแสนล้านบาท ที่กู้มาสร้างสนามฟุตบอลที่สวยงามยอดเยี่ยม เพียงเพื่อใช้งานเพียงเดือนเดียว


แล้วหลังจากสิ้นสุดการเป็นเจ้าภาพ ประเทศยังต้องรับภาระดูแลเมนเทนแมนซ์รักษาสนามฟุตบอลระดับโลก เฉพาะสนามเดียวก็คิดเป็นเงินไทยนับสิบล้านบาท มีเป็นสิบสนามก็ร้อยล้านบาท...ต่อเดือนนะครับ ไม่ใช่ต่อปี


แล้วรัฐบาลหรือกระทรวงกีฬาก็ยังไม่รู้ว่าจะมีโปรเจกต์อะไรที่จะใช้สนามอย่างคุ้มค่า เพราะฟุตบอลไม่ใช่กีฬายอดนิยมของประเทศ แต่เป็นรักบี้ ขนาดเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกที่ถือว่าสุดๆ แล้ว ฟุตบอลก็ยังไม่ใช่กีฬาที่สามารถ แจ้งเกิด ได้


ยังไม่ทันจะผ่านพ้นไปสักเท่าไหร่ มีข่าวแพลมมาแล้วครับว่า รัฐบาลแอฟริกาใต้กำลังตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก กับผลพวงแห่งความ หน้าใหญ่ การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2010


เพราะ สนามฟุตบอลโลกทุกแห่ง ไม่สามารถนำไปเสริมสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองได้ดังที่มีอยู่ในแผนอันสวยหรู


ถึงขั้นที่ว่า มี ส.ส. ในสภาเสนอ ทุบสนามทิ้ง ด้วยซ้ำไป


ทุบทิ้งให้จบไปเลย ไม่เช่นนั้นก็ต้องจ่ายเงินดูแลรักษาเป็นเงินมหาศาลไม่สิ้นสุด จำหน่ายให้เอกชนรับสัมปทานไปทำธุรกิจต่อก็ไม่มี


สนามสวยงามสุดยอดในเมืองใหญ่ เช่นที่เคปทาวน์หรือโยฮันเนสเบิร์ก อาจแปรสภาพเป็น มอลศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าระดับเมกกะสโตร์ สนามตรงกลางอาจคงไว้...แต่เพื่อเล่นรักบี้ ไม่ใช่ฟุตบอล


ส่วนสนามตามชานเมืองออกไป ที่โผล่จากสนามก็เป็นซาฟรีนั้น...ทุบทิ้งครับ


นี่เป็นข่าวที่ผมได้ยินคนไทยที่มีอาชีพทำงานอยู่ที่โยฮันเนสเบิร์ก เขาเล่าให้ฟังว่า ข่าวท้องถิ่นเริ่มออกข่าวลักษณะนี้ และจะเห็นชัดเจนในปีงบประมาณ เพราะฝ่ายค้านในสภาจ้องหยิบยกตัวเลข ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสนามฟุตบอลโลก มาโจมตีรัฐบาลว่า ดำเนินการบริหารประเทศผิดพลาด ใช้เงินมหาศาล ตำน้ำพริกละลาย ไปกับความหน้าใหญ่ เพียงต้องการเป็นเจ้าภาพบอลโลก แต่ถลุงเงินภาษีราษฎร์ไปไม่รู้เท่าไหร่


เราเห็นแต่ มุมบวก ของฟุตบอลโลก แต่อย่างนี้คือ มุมลบ ที่ไม่อาจพ้นความจริงไปได้


แล้วผมก็ยังยึดถือว่า เป็นความผิดพลาดของเซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานฟีฟ่าคนปัจจุบัน ที่ชูนโยบาย พาฟุตบอลโลกตระเวนแข่งในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยไม่ยึดระบบอนุรักษ์นิยมของฟีฟ่าดังแต่ก่อน ที่ฟุตบอลโลกจะสลับกันเป็นเจ้าภาพระหว่างทวีปอเมริกาและยุโรป ซึ่งมีวิญญาณลูกหนังมายาวนานและชัดเจน


แบล็ตเตอร์ เอาเทศกาลฟุตบอลโลก ไปเล่น การเมือง ครับ


เขาไม้เบื่อไม้เมากับยูฟ่า สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป มานานแล้ว ไม่ได้เสียงทางซีกโลกตะวันตก ก็หาเสียงเอากับประเทศเล็กประเทศน้อยทางซีกโลกตะวันออก เอเชียและแอฟริกา มาคานอำนาจตนในฟีฟ่า


ผมว่า แบล็ตเตอร์ได้ แต่ ฟุตบอลโลกเสีย คือสูญเสียความเป็นเอกภาพดังที่เคยมีในอดีต


ให้แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ จบจากการแข่งขันแล้ว ก็จบกัน ไม่สนใจว่า จะสร้างปัญหาในภายหลังอย่างไร


ถึงขั้นทุบสนามทิ้งเพื่อไม่ต้องเสียค่าดูแลรักษา มันก็แย่เต็มทีแล้ว


กาตาร์ ได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก เพราะ ถือว่าประเทศร่ำรวยมหาศาล เนรมิตอะไรก็ได้ มันก็เหมือนกับว่า มหกรรมฟุตบอลโลกต้องไปแข่งในแผ่นดินทะเลทราย เพื่อให้ชาวกาตาร์ไม่ถึงสามล้านคนได้ดู ไม่แตกต่างกับซื้อตั๋วดูละครสัตว์...จบแล้วก็จบกัน


แทนที่ฟีฟ่าจะรักษารากเหง้าวิญญาณแห่งฟุตบอลไว้บ้าง กลับให้อำนาจเม็ดเงินเข้ามาทุ่มเข้ามาเสียงั้น


ทำไปได้กระทั่งจะวางแผน ปรับเปลี่ยนช่วงการแข่งขัน ให้เป็นช่วงปลายปีหรือเดือนมกราคม เพื่อให้เป็นช่วงฤดูหนาวประเทศเจ้าภาพ


นี่ฟีฟ่าจะเปลี่ยนทั้งโครงสร้างฟุตบอลยุโรปที่มีอยู่เป็นจารีต เพื่อเจ้าภาพฟุตบอลโลกเดือนเดียวของกาตาร์เลยเชียวหรือ?


ผมว่า ถ้าแบล็ตเตอร์เล่นการเมืองลูกหนังมากๆ จนกลุ่มประเทศยุโรปเอือม ไม่ให้ความสำคัญกับฟุตบอลโลก แล้ว ยูฟ่า สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หักดิบ จัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป สองปีครั้งซะเลย     


มหกรรมฟุตบอลโลกตายนะครับ...ทำเป็นเล่นไป


เพราะฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ก็คือฟุตบอลโลกที่ขาดแค่บราซิลกับอาร์เจนตินาเท่านั้นเอง



-ยอดทอง-

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์