@ บอร์ดเสือใต้เล็งนัดเคลียร์ปัญหาฟานกัล @

หมดความอดทนแล้ว บรรดาบอร์ดบริหาร บาเยิร์น เตรียมนัดเคลียร์ปัญหากับ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือหัวดื้อ ในเร็ววันนี้ หลังมัวแต่ยืดถือความคิดเห็นตัวเองเป็นหลัก จนทีมมีผลงานดำดิ่งในซีซั่นนี้


สำนักข่าว เอพี รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาว่า บรรดาบอร์ดบริหารของ บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน เตรียมเปิดโต๊ะพูดคุยกับ หลุยส์ ฟาน กัล เทรนเนอร์หัวแข็งชาวดัตช์ ในเร็ววันนี้ เพื่อแก้ไขความแตกต่างที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย หลังจากที่ อูลี่ เฮอเนส ประธานสโมสร เสือใต้ ออกมาตำหนิ ฟาน กัล ว่า เป็นคนที่พูดคุยด้วยยาก และไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆ


เวลานี้ บาเยิร์น กำลังรั้งอันดับที่ 7 ของตารางคะแนน บุนเดสลีกา และตามหลัง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมจ่าฝูง ถึง 10 แต้มเลยทีเดียว โดย เฮอเนส กล่าวว่า ผมไม่มีอะไรพูดกับเขามากหรอก มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเข้าไปพูดกับเขา เพราะเขาเป็นคนที่ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆ เลย


นอกจากนี้ เฮอเนส ยังเผยว่า ฟาน กัล ได้ประเมินผลงานของบรรดาผู้เล่นตัวสำรอง 4-5 คน อย่างไม่เป็นธรรมอีกด้วย และก็เป็นสโมสรเองที่ยื้อนักเตะกลุ่มนี้ให้อยู่กับทีมต่อไป โดยบอสใหญ่ บาเยิร์น เอ่ยว่า ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่นี่ และช่วยเราหลุดพ้นจากปัญหา


ฟาน กัล เป็นกุนซือจอมเฮี้ยบที่พร้อมดร็อปผู้เล่นทุกคนที่แสดงความแข็งข้อกับตนเอง ซึ่งก็รวมไปถึง มาร์ติน เดมิเคลิส, อนาโตลี ทีมอสชุค และ มาริโอ โกเมซ สามนักเตะที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และซัดได้คนละหนึ่งประตูในเกม บุนเดสลีกา นัดเปิดรัง อัลลิอันซ์ อารีน่า ถล่ม ไฟร์บวร์ก 4-2 เมื่อวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา


เฮอเนส กล่าวชมนักเตะทั้งสามคนว่า เดมิเคลิส ยิงประตูแรกให้กับทีม ถึงแม้เขาได้รับอิสระให้ย้ายออกไปก็ตาม ส่วน โกเมซ ก็น่าจะไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล ไปแล้วในตอนนี้ ขณะที่ ทีมอสชุค คือผู้เล่นที่ทำผลงานได้เยี่ยมสุดในช่วงครึ่งหลัง ทำไมคุณถึงมัวแต่ได้ยินว่า พวกเขาไม่ดีพอสำหรับ บาเยิร์น ซึ่งตอนนี้คุณได้เห็นแล้วว่า พวกเขามีประโยชน์ต่อทีมสุดๆ


http://www.siamsport...101102_006.html


เซิร์ดยัน ลาคิช คือดาวยิงชาวโครเะอเชียของ 1.เอฟเซ ไกเซอร์สเลาเทิร์น ผู้ยิงไปแล้ว 6 ประตูจาก 10 เกมแรกของฤดูกาล

รั้งอันดับ 4 ร่วมดาวซัลโวบุนเดสลีกาอยู่ในเวลานี้ เป็นกำลังสำคัญที่ ปีศาจแดงแห่งเบ็ทเซ่นแบร์ก หวังที่จะให้ช่วยพาสโมสรกลับสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอีกครั้ง




แต่จุดเริ่มต้นของลาคิช กับวงการลูกหนังเยอรมัน ซึ่งเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่เขาย้ายมาร่วมทีม แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เมื่อ 4 ปีก่อนนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
และต่อไปนี้คือเรื่องราวของกองหน้าจากเมืองดูบรอฟนิค ซึ่งครั้งหนึ่งเกือบกลายเป็นนักโปโลน้ำไปแล้ว...


พัฒนาการล่าช้า
ลาคิชคือกำลังสำคัญที่ช่วยให้ไกเซอร์ฯเลื่อนกลับสู่ลีกสูงสุดในฤดูกาลนี้


กว่าที่จะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสร เอ็นเค จีโอเอสเค ดูบรอฟนิค ในลีกดิวิชั่น 2 โครเอเชียครั้งแรก ลาคิชก็ย่างเข้าสู่วัย 20 ต้น ๆแล้ว ตอนเด็ก ผมมีฝีเท้าที่เหนือกว่าคนอื่น แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีพัฒนาการล่าช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน ตอนอายุ 18-19 ปี ร่างกายยังแทบไม่มีความแข็งแกร่งอย่างที่ควรจะเป็น แต่พออายุ 20 ปี รูปร่างของผมก็เติบโตอย่างรวดเร็ว และเริ่มมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทุกวันนี้กองหน้าเจ้าของส่วนสูง 186 เซนติเมตร แกร่งทั่วแผ่นยามต้องดวลกับกองหลังแบบตัวต่อตัว แถมลูกกลางอากาศของเขายังเป็นส่วนสำคัญในเกมรุกของไกเซอร์ฯอีกด้วย


นักเตะต้นแบบ


ก่อนเกมเยือน ฮัมบูร์ก เอสเฟา ลาคิชเผยถึงกองหน้าผู้เป็นต้นแบบของเขาว่า รุด ฟาน นิสเตลรอย คือตัวอย่างที่ดีสุดสำหรับผม และชื่นชอบเขามาหลายปี แต่ตอนนี้ผมก้าวมาไกล และเล่นในลีกเดียวกันแล้ว โดยเกมนั้น หัวหอกโครแอตยิงประตูได้ด้วย แม้จะลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ของ ไกเซอร์ฯตาม นอกจากนี้ อิวิก้า โอลิช ดาวยิงเพื่อนร่วมชาติของ บาเยิร์น มิวนิค ก็เป็นอีกคนที่ลาคิชยกย่องในฝีเท้าเป็นอย่างมาก ผมนับถือโอลิช รู้เรื่องราวของเขา และรู้ว่าต้องทำงานอย่างหนักกว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ สำหรับผมแล้วทั้งฟาน นิสเตลรอย และโอลิช เป็นตัวอย่างที่ดีของนักฟุตบอลระดับแนวหน้า แต่ผมมีความเป็นตัวของตัวเอง และไม่ได้พยายามที่จะลอกเลียนแบบใคร และหลังจากช่วยให้ต้นสังกัดเอาชนะ เสือใต้ ได้ในเกมนัดที่ 2 ของฤดูกาล ลาคิชมีโอกาสได้แลกเสื้อกับ โอลิช ผู้เป็นต้นแบบของตัวเองด้วย


กัปตันผู้ไร้ปลอกแขน


ไกเซอร์สเลาเทิร์น เป็นทีมเดียวในบุนเดสลีกา ที่มีกัปตัน 2 คน รายแรกคือ มาร์ติน อเมดิค กองหลังจอมแกร่ง ส่วนคนที่ 2 คือลาคิช โดยหน้าที่หลักของหัวหอกโครแอต คือการดูแลนักเตะอายุน้อย ๆ ส่วนอเมดิคจะเน้นที่การจัดการเรื่องต่างๆมากกว่า แต่ตามธรรมดาแล้ว ในสนามจะมีคนที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมได้แค่คนเดียวเท่านั้น ทั้ง 2 คนถือเป็นกัปตันทีมสำหรับผมด้วยกันทั้งคู่ มาร์โค ควร์ซ กุนซือไกเซอร์ฯ เผย แต่พวกเขาคงไม่ถึงกับต้องสลับกันสวมปลอกแขนเวลาอยู่ในสนามหรอก

เป็นนักเตะที่ได้รับความไว้วางใจจาก มาร์โค คัวร์ซ (กลาง) กุนซือไกเซอร์ฯ

บ้านเกิด



ลาคิชลืมตาดูโลกในดูบรอฟนิค เมืองชายทะเลในโครเอเชียซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น ไข่มุกแห่งอเดรียติก เขาต้องปรับตัวกับการจากบ้าน กับครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อตามล่าความฝันการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ผมจากบ้านตั้งแต่เด็ก และย้ายไปอยู่เมืองอื่นในโครเอเชีย ตอนนั้นแทบไม่เจอหน้าครอบครัวบ่อยเท่าตอนนี้ แม้จะอยู่ในประเทศเดียวกันก็ตาม กระนั้นก็ดี ดาวยิงไกเซอร์ฯยังคงมีความผูกพันแนบแน่นกับครอบครัว ผมติดต่อกับพ่อแม่และพี่สาวเป็นประจำ แม้ไม่มีโอกาสเจอหน้ากันบ่อยอย่างที่ต้องการ ครอบครัวคือสิ่งสำคัญมากสำหรับผม แต่คุณก็คงไม่อาจได้ทุกอย่างตามที่คุณต้องการทั้งหมดหรอก


เบอร์ลิน


สัมผัสแรกในบุนเดสลีกาของลาคิช คือการย้ายมาอยู่ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน และตอนนี้ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจึงไม่ประสบความสำเร็จกับที่นั้น ผมเริ่มต้นที่เบอร์ลินอย่างยอดเยี่ยมมากๆ และเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องในช่วงแรก การย้ายจากโครเอเชียมาเยอรมันเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่มาก และผมก็เจอปัญหาฟอร์มตก มันอาจไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดี แต่ทำให้เขาได้เรียนรู้หลายสิ่ง อย่างน้อยก็ได้บทเรียนมากมายจาก ดีเตอร์ เฮอเนส ผู้อำนวยการด้านกีฬาของแฮร์ธ่า ในเวลานั้น ทุกวันนี้ผมยังรู้สึกขอบคุณเขาอยู่เลย เขาดึงผมมาสู่บุนเดสลีกา ซึ่ง เฮอเนส เองก็ยังแสดงความยินดีกับอดีตนักเตะของเขาเป็นการส่วนตัว เมื่อครั้งลาคิชเริ่มต้นได้สวย หลังย้ายไปอยู่ไกเซอร์ฯ เมื่อปี 2008 อีกด้วย


เล่นเป็นทีม
พิสูจน์ฝีเท้าด้วยการเป็นดาวยิงชั้นเยี่ยมตั้งแต่สมัยอยู่ในโครเอเชีย


เฮอเนสคว้าตัวลาคิชมาร่วมทีม เพราะสถิติการยิงประตูอันยอดเยี่ยมในลีกโครแอตของลาคิช หลังจากซัด 13 ลูกจาก 27 เกมกับจีโอเอสเค เขาย้ายไปอยู่ เฮอร์วัตสกี้ ดราโกโวลิยัช ซาเกร็บ และมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมด้วยการยิงได้ถึง 24 ประตูจาก 28 เกม ก่อนย้ายไปยิงอีก 13 ลูกให้ เอ็นเค คาเมน อินกราด ในลีกสูงสุด ส่งผลให้สมาคมฟุตบอลโครเอเชียเริ่มหันมาสนใจ แต่การเล่นสนใจแค่เรื่องการยิงประตู ไม่ใช่แนวทางของลาคิช ผมเป็นนักเตะที่ทำงานเป็นทีม เล่นเพื่อทีม และหวังว่าเราจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ




รับใช้ชาติ


ถึงเวลานี้ ลาคิช ได้โอกาสรับใช้ทีมชาติโครเอเชียไปแล้ว 3 นัด แต่เป็นเกมในระดับ ชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี อย่างไรก็ตาม หลังประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในระดับสโมสร เจ้าตัวก็เริ่มมองถึงการติดทีมชาติชุดใหญ่บ้างแล้ว การถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติชุดใหญ่คือความฝันอันยิ่งใหญ่ แม้การในทีมชาติมีการแข่งขันค่อนข้างสูงก็ตาม ผมเชื่อว่าผมดีพอจะติดทีม ถ้าสภาพร่างกายฟิตสมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง และสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีเอาไว้ได้ ผมก็คิดว่าตัวเองน่าจะได้โอกาส ลาคิชกับ สลาเวน บิลิช กุนซือ ตาหมากรุก คนปัจจุบัน หัวหอกไกเซอร์ฯรู้จักกันอย่างดี ตั้งแต่เมื่อครั้งลงเล่นให้กับทีมชาติชุดเล็ก ผมรู้ว่าเขากำลังจับตาดูฟอร์มการเล่นของผมอยู่ ถึงได้เห็นผลงานที่ดีของผมในช่วงต้นฤดูกาลแล้ว และผมก็ต้องทำงานหนักต่อไป จนกว่าจะถูกเรียกตัว




ขึ้นบก


ก่อนหน้านี้ ลาคิชเคยต้องใช้มือยิงประตูมาตลอด แถมยังไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อเวลาลงแข่งขันด้วย จนกระทั่งคุณแม่ของทนเห็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเป็นหวัดน้ำมูกไหลกลับบ้านทุก วันไม่ไหว เลยตัดสินใจให้เขาเลิกเล่นโปโลน้ำ แล้วขึ้นบกมาเป็นนักฟุตบอลแทน นั่นคือการตัดสินใจที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับตัวเขา และตอนนี้คงไม่ต้องมานั่งเถียงกันแล้วว่าแบบไหนมันดีกว่ากัน ระหว่างการโหม่งบอลจนหัวเปียกตอนซ้อม กับการแช่น้ำอยู่ในสระท่ามกลางอากาศร้อนในโครเอเชีย




ตอบแทน


อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของลาคิช กับไกเซอร์ฯใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ในปี 2009 เขาบาดเจ็บต่อเนื่อง แต่ตอนนั้น สเตฟาน คุนท์ซ ผู้อำนวยการด้านกีฬาแห่งถิ่น ฟริตซ์ วอลเตอร์ สตาดิโอน ก็เชื่อมั่นในตัวหัวหอกรายนี้อย่างเต็มที่ เรารู้ว่าลาคิชมีดีแค่ไหน เขาต้องร้างสนามเกือบปี แต่เรายืนอยู่เคียงข้างเขาตลอด และมันถึงเวลาที่เขาต้องตอบแทนสโมสรแล้ว ขณะหัวหอกเลือดโครแอต ย้ำว่า ผมยึดมั่นในคำพูดของตัวเอง และพร้อมแล้วที่จะเล่นให้ดีขึ้นกว่าช่วงก่อนบาดเจ็บ มันยังมีสิ่งที่ผมต้องพัฒนาอีกมาก แค่ต้องพยายามทำงานหนักต่อไป และพัฒนาฝีเท้าตัวเองให้ดีขึ้น
สมัยลาคิชเริ่มต้นค้าแข้งในบุนเดสลีกากับแฮร์ธ่า



หมายเลข 9 นำโชค?



การนั่งภาวนาขอพรจากเทพีแห่งโชคให้ช่วยบันดาลให้ ประตูไหล มาเทมา ไม่ใช่วิถีทางของลาคิช ผมไม่เชื่อเรื่องโชคชะตา แต่เชื่อว่าการล้มเหลวกับแฮร์ธ่า หรือประสบความสำเร็จกับไกเซอร์ฯ เป็นเรื่องของความพยายามล้วนๆ ตอนนี้ผมไม่ใช่คนเดิม มันคือเหตุผลที่ทำให้ผมพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ แฮร์ธ่าคือสโมสรอาขีพระดับลีกสูงสุดแห่งที่ 2 ในชีวิตนักฟุตบอล และบุนเดสลีกาคือโลกที่ผมไม่คุ้นเคย และโดยสถิติแล้ว มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างประหลาดไม่น้อย นั่นคือดาวยิงโครแอตยิงได้ถึง 45 ประตูให้ 3 สโมสรหลังสุดที่เขาสวมเสื้อหมายเลข 9 ส่วนตอนอยู่กับ หญิงชรา เจ้าตัวสวมเสื้อหมายเลข 18 และยิงไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว