ยอดคนแสนคม! เบล 2 แอสซิสต์ไก่ยำงูเละ 3-1

 

แกเร็ธ เบลปีกพญาวานรแสดงให้โลกเห็นแล้วว่าตอนนี้เขาคือหนึ่งในปีกซ้ายที่ดีที่สุดในโลกหลังโชว์ฟอร์มสุดยอดอีกนัดมีส่วนกับสองประตูช่วยให้ไก่เดือยทองเปิดบ้านถล่มอินเตอร์ 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 10 แต้มขึ้นมารั้งจ่าฝูงของกลุ่มเป็นที่เรียบร้อย

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่ม

วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน 2553


สเปอร์ส 3 : 1 อินเตอร์

ประตู :
1-0 ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต น.18, 2-0 ปีเตอร์ เคราช์ น.61, 2-1 ซามูเอล เอโต้ น.80, 3-1 โรมัน พาฟลิวเชนโก้ น.89

ครึ่งแรก

อินเตอร์เสียวก่อน
เริ่มเกมมาได้ 7 นาทีเป็นทีมเยือนได้โอกาสส่องก่อนหลังซามูเอล เอโต้โชว์ความสามารถเฉพาะตัวรับบอลที่ระยะประมาณ 30 หลาก่อนจะกระชากหนีคาบูลแล้วส่องระยะ 25 หลาบอลพุ่งแรงแต่ว่าเข้าข้างตาข่าย[imgr][/imgr]

โมดริชหลอกสวยไหลให้ฟาร์ตซัดไม่เหลือ
นาที 18 สเปอร์สได้ประตูออกนำไปก่อนจนได้จากจังหวะที่เบลขึ้นเกมมาทางกราบซ้ายก่อนจะให้เอก็อตโต้ที่วิ่งเติมขึ้นมาด้วยจากนั้นเอก็อตโต้จ่ายต่อให้โมดริชลากเข้ากลางหลอกจะยิงจังหวะนึงแต่ไปต่อแล้วจ่ายทะลุช่องให้ฟาน เดอร์ ฟาร์ตหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดผ่านมือคาสเทลลัซซี่ตุงตาข่าย สเปอร์สออกนำ 1-0

เบลพาทัวร์!เคราช์ซัดเสียววูบ
นาที 25 เจ้าบ้านน่าได้ลูกสองจริงๆหลังแกเร็ธ เบลที่วันนี้เด่นเหลือเกินเล่นเอาไมค่อนหอบแฮ่กอีกครั้งแตะบอลกระชากหนีจนหลุดไปถึงเส้นหลังแล้วเปิดเข้ากลางไปบอลเลยไปถึงเสาสองเป็นเคราช์ที่ยืนรออยู่ได้ซัดจ่อๆแต่บอลผ่านหน้าปากประตูไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้นบอลของทั้งสองทีมเริ่มไม่คมมักจะไปตายที่หน้าเขตโทษของอีกฝ่ายทำให้ไม่ค่อยได้จบแบบจะแจ้งกันสักเท่าไหร่จะมีก็แต่จังหวะยิงไกลแต่ก็ไม่ค่อยได้ลุ้นนัก

คูดิชินี่ซุปเปอร์เซฟ
นาที 43 คาร์โล คูดิชินี่เซฟชีวิตไก่เดือยทองเอาไว้ได้หลังโชว์ซุปเปอร์พุ่งปัดลูกฟรีคิกของเวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ระยะประมาณ 25 หลาที่ยิงเยี่ยมแล้วแต่คูดิชินี่เยี่ยมกกว่า

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บอินเตอร์ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกเตะมุมแต่กองหลังสเปอร์สก็ช่วยกันดีโหม่งสกัดออกมาได้ทำให้จบครึ่งแรก สเปอร์สนำอินเตอรอยู่ 1-0


ครึ่งหลัง

เสียววาบ!เบลกระดกกลับหลังออกนิดเดียว
ครึ่งหลังเริ่มมา 7 นาทีเป็นสเปอร์สทีได้จบก่อนและใกล้เคียงการเป็นประตูเหลือเกินหลังได้ฟรีคิกเปิดเข้ากลางไปฮัดเดิลสตันพยายามโฉบเข้าโหม่งแต่คาสเทลลัซซี่ออกมาตัดทำให้ชนกันแล้วบอลกระดอนออกไปที่หน้าเขตโทษ เบลเก็บตกได้แต่หันหลังให้ประตูเลยต้องยิงกระดกกลับหลังบอลพุ่งผ่านคาสเทลลัซซี่ไปแล้วแต่หลุดเสาออกไปนิดเดียว

2-0!เบลเปิดเคราช์ปิด
นาที 61 แกเร็ธ เบลปีกเฮ่งเจียแผลงฤทธิ์อีกครั้งหลังได้บอลที่ริมเส้นฝั่งซ้ายตรงกลางสนามแล้วใช้ความกระชากหนีผู้เล่นอินเตอร์ขึ้นมาเรื่อยๆจนไปถึงแถวเขตโทษแล้วเปิดถวายพานไปที่หน้าปากประตูเป็นเคราช์ที่เติมขึ้นมาทันจิ้มบอลเข้าประตูไป เจ้าหนีห่าง 2-0

เกือบอีก!เคราช์ยิงเข้าแต่บอลออกไปก่อน
วันนี้ไมค่อนเหมาแพ็คเกจทัวร์จากเบลตลอดทั้งเกมหลังโดนพาทัวร์อีกครั้งจากจังหวะที่เบลได้บอลที่กราบซ้ายแล้วกระชากหลุดไปเกือบเส้นหลังแล้วแตะบอลเข้าหาปากประตูหลุดไมค่อนไปได้แล้วเปิดเข้ากลางให้เคราช์แทบอินเข้าประตูไปอีกครั้ง แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เพราะตอนที่เบลแตะหนีไมค่อนบอลหลุดออกหลังไปก่อนแล้ว

แรมโบ้สัมผัสแรกเกือบเป็นประตู
นาที 71 อินเตอร์ตัดสินใจทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่งดีเอโก้ มิลิโต้ลงมาแทนโกรัน ปานเดฟแล้วก็เกือบได้ผลทันทีหลังหอกหน้าแรมโบ้ลงสนามไปปุ๊บก็ได้จบทันทีจากจังหวะที่สไนจ์เดอร์จ่ายบอลให้เอโต้แล้วเอโต้แทงทะลุช่องต่อให้มิลิโต้หลุดเข้าไปในเขตโทษทางฝั่งซ้ายแล้วซัดไปทางเสาสองแต่ทว่าบอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

มีลุ้น!เอโต้ส่องอย่างคมงูไล่ 2-1
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายเกมนี้ชักไม่แน่แล้วหลังอินเตอร์มาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะที่สไนจ์เดอร์กับมิลิโต้ค่อยๆปั้นเกมกันขึ้นมาแล้วจ่ายต่อให้เอโต้ที่กราบซ้ายลากตัดเข้ากลางแล้วซัดเต็มข้อบอลพุ่งผ่านมือคูดิชีนี่เข้าไปอย่างสวยงาม อินเตอร์ไล่ขึ้นมา 2-1

ไก่ฝัง 3-1!เบลโคตรเว่อสปีดไปใส่พานพาฟ
นาทีสุดท้ายของเกมแกเร็ธ เบลแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าตอนนี้เขาคือหนึ่งในปีกที่ดีที่สุดในโลกหลังโชว์สปีดแตะบอลแล้วสปริ้นหนีแนวรับอินเตอร์กว่าครึ่งสนามหลุดไปถึงเกือบเส้นหลังแล้วเปิดเข้ากลางตามสูตรให้พาฟฟลิวเชนโก้ตัวสำรองที่ลงมาในครึ่งหลังแทบอินเข้าประตูไป เจ้าบ้านหนี 3-1 จากนั้นก็ไม่มีประตูเกิดขึ้นอีกทำให้จบเกมสเปอร์สเปิดบ้านต้อนอินเตอร์ 3-1 ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงของกลุ่มเรียบร้อย


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

สเปอร์ส :
คาร์โล คูดิชินี่, โยเนส คาบูล, วิลเลี่ยม กัลลาส์, เบอโนต์ อัสซู-เอก็อตโต้, อลัน ฮัตตัน , ลูก้า โมดริช , ทอม ฮัดเดิลสตัน, แกเร็ธ เบล**, อารอน เลนน่อน (ปาลาซิออส น.85), ปีเตอร์ เคราช์ (พาฟลิวเชนโก้ น.76), ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต (จีนาส น.45)

อินเตอร์ : ลูก้า คาสเทลลัซซี่, วอลเตอร์ ซามูเอล , ลูซิโอ้ , คริสเตียน คิวู , ไมค่อน, ซุลลี่ย์ มุนตารี่ (เอ็นวันโก้ น.53), ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, ซามูเอล เอโต้, เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์, โกรัน ปานเดฟ (มิลิโต้ น.71), โจนาธาน บิอาบิอานี่ย์ (คูตินโญ่ น.64)













































 

ข่าวสารข้อมูลจาก SOCCERSUCK
.COM

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์