แฮร์รี เดอะ ฮูดินี

สำหรับสเปอร์สนับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ได้โควตาแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สโมสร สอดแทรกเข้ามาเป็นบิ๊กโฟร์ได้สำเร็จในซีซั่นนี้

ส่วนแมนฯซิตี้ที่ลงทุนไปเยอะ ตั้งเป้าคว้าอันดับ 4 ให้ได้ ต้องผิดหวังกลับไป แต่ละทีมที่ล้มเหลวล้วนมีเกมน่าเสียดายด้วยกันทั้งนั้น

เรือใบสีฟ้าอาจจะเอาชนะเชลซีไปกลับ เก็บ 4 แต้มจากอาร์เซนอล แต่พลาดกับทีมเล็กๆมากเกินไป

นอกจากนี้ ยังแพ้ทีมที่ไม่ห่างกันมากทั้งเหย้าและเยือน เช่น เอฟเวอร์ตันและสเปอร์สอีกด้วย

ถ้าแมนฯซิตี้อยากประสบความสำเร็จมากกว่านี้คงต้องทุ่มเงินอีกมาก โดยเฉพาะตำแหน่งแบ็กซ้ายขวา ที่ผมมองว่า ยังเป็นจุดอ่อน เกมรับไม่แน่นอน เกมรุกก็ช่วยเติมไม่ได้

นัดที่แพ้สเปอร์สล่าสุดเห็นได้ชัดเจนว่า ทั้งเวย์น บริดจ์ และปาโบล ซาบาเลตา โดนเจาะริมเส้นตลอด ขนาดแบ็กสเปอร์สบุกขึ้นมายังเอาไม่อยู่

ถ้าไม่ได้มาร์ตัน ฟูล็อป นายทวารที่เพิ่งยืมตัวมาจากซันเดอร์แลนด์ ช่วยเซฟลูกอันตรายนับไม่ถ้วน คงแพ้ยับกว่านี้

ผลงานของสเปอร์สทำให้กุนซือแฮร์รี เรดแนพพ์ ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดการทีมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก

สัปดาห์ก่อนผมเคยเขียนยกย่องรอย ฮอดจ์สัน ของฟูแลม แต่นั่นเป็นการสร้างเซอร์ไพรส์ในยูโรปาลีก ถ้านับเฉพาะพรีเมียร์ลีกก็คงต้องยกให้เรดแนพพ์ล่ะครับ

เรดแนพพ์ วัย 63 ปี เริ่มชีวิตการเป็นโค้ชมาตั้งแต่ปี 1983 กับบอร์นมัธ หลังจากนั้นเคยทำทีมเวสต์แฮมชุดที่มีนักเตะดาวรุ่ง ก่อนแยกย้ายไปอยู่กับทีมยักษ์ ใหญ่มากมาย เช่น แฟรงค์ แลมพาร์ด และโจ โคล

เคยอยู่กับพอร์ตสมัธ, เซาแธมป์ตัน และกลับมาพอร์ตสมัธอีกครั้ง ช่วงที่ 2 ในการคุมปอมปีย์ เขาสร้างชื่อนำทีมรอดตกชั้นเหลือเชื่อในฤดูกาล 2005-06 เก็บชัยชนะช่วงท้ายซีซั่นจนรอดตกชั้นหวุดหวิด จนได้รับฉายาว่า แฮร์รี เดอะ ฮูดินี เปรียบได้กับฮูดินี นักมายากลชื่อดังในอดีตที่มีกลประจำตัวคือการแก้พันธนาการตัวเอง

และยังนำทีมคว้าแชมป์เอฟเอคัพปี 2008 ด้วยการเอาชนะคาร์ดิฟฟ์ 1-0 จากประตูชัยของเอ็นวานโก คานู น่าเสียดายที่ปอมปีย์ในปัจจุบันมีหนี้สินมหาศาลถึงขั้นล้มละลาย ต้องตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไป

เรดแนพพ์เข้ามาคุมทีมสเปอร์สเมื่อเดือน ธ.ค. 2008 ต่อจากฮวนเด รามอส ในช่วงที่สเปอร์สมีแค่ 2 แต้มรั้งท้ายตาราง เพียงแค่ 2 สัปดาห์แรก เขาก็นำทีมพ้นโซนอันตรายได้สำเร็จ

ฤดูกาลนี้เรดแนพพ์ดึงนักเตะเก่าจากพอร์ตสมัธมาหลายคน และทุกคนช่วยทีมได้เป็นอย่างดี

ความสำเร็จของเขาพิสูจน์ให้เห็นว่า โค้ชชาวอังกฤษยังไม่ตายไปจากวงการ หลังจากบิ๊กโฟร์ดั้งเดิมใช้บริการของกุนซือต่างชาติมาตลอด

นอกจากเรดแนพพ์แล้ว ฮอดจ์สัน และสตีฟ แมคลาเรน ที่นำทเวนเตคว้าแชมป์ลีกดัตช์ ก็ล้วนเป็นคนอังกฤษทั้งสิ้น

วงการลูกหนังเมืองผู้ดีอาจต้องคิดใหม่ เพราะโค้ชในประเทศจะเลือกใช้นักเตะท้องถิ่นได้ดีกว่าโค้ชต่างแดน พรีเมียร์ลีกยิ่งต้องใช้ความแข็งแกร่งของนักเตะมากกว่าลีกอื่น

ปัจจุบันสเปอร์สกลายเป็นทีมที่มีผู้เล่นตัวหลักเป็นคนอังกฤษมากกว่าแมนฯยูและเชลซีไปแล้ว.

โต้ บ้านแหลม หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ