เชลซีแช่ง!?ปอมปีย์ต่อเวลาล้มไก่ชิงเอฟเอ คัพ

ปอร์ทสมัธทีมขวัญใจคนยากเร่งปั๊มเงินยิกๆล่าสุดทำเซอร์ไพรซ์ดับฝันศึกลอนดอนดาร์บี้แมทช์ด้วยการต่อเวลาเอาชนะสเปอร์ส 2-0 เข้าไปชิงเอฟเอ คัพกับเชลซีอย่างไม่น่าเชื่อ

เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ

วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน 2553


สเปอร์ส 0 - 2 ปอร์ทสมัธ

ประตู :
0-1 เฟรเดริค ปิกิยอน น.99,0-2 เควิน ปริ๊นซ์ บัวเต็ง(จุดโทษ) น.117

สเปอร์สเต็มสูบ-ปอมปีย์วางดินดานยืนหน้า
สเปอร์สใส่ผู้เล่นชุดดีที่สุดที่มีอยู่ในตอนนี้ลงสนาม โดยเลือกใช้คู่หน้าเป็นเคร้าซ์ และเดโฟยืนล่าตาข่าย ส่วนปอร์ทสมัธใช้ดินดานกองหน้าที่ยืมตัวมาลงเล่นในเกมนี้ หลังจากไม่ได้ใช้งานเขาเลยเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าตัวตามเงื่อนไขในสัญญายืมตัว

ครึ่งแรก

เดโฟล้มตัวยิงข้ามคาน
เริ่มเกมมาได้ 5 นาทีก็เป็นทางสเปอร์สที่ได้ลุ้นประตูก่อนเลย จากจังหวะที่ได้เตะมุมทางฝั่งขวา ก่อนที่ชอร์ลูก้าจะเทคตัวโหม่งที่เสาแรก บอลเลยไปเสาสองที่มีเดโฟยืนรออยู่ก่อนล้มตัวยิง แต่ไปติดโมโคเอน่าที่เบียดประกบอยู่ ทำให้หลุดข้ามคานออกไป

ไก่เกือบได้อีก
นาทีที่ 11 สเปอร์สได้ลุ้นจากจังหวะเตะมุมอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นทางปีเตอร์ เคร้าซ์ที่ได้เทคตัวขึ้นโหม่ง บอลลอยไปเสาสอง แต่เบาไปนิดหนึงทำให้เจมส์พุ่งปัดเอาไว้ได้ ก่อนบอลจะไปโดนกองหลังของทีมเด้งออกหลังไป

ไก่บุกทำเกมต่อเนื่อง-สนามห่วยแตก
เข้าสู่นาทีที่ 20 สเปอร์สยังคงได้ครองบอลทำเกมบุกมากกว่าทางปอร์ทสมัธ เพียงแต่จังหวะสุดท้ายยังทำได้ไม่ดีพอ

สนามเวมบลีย์ในนัดนี้เป็นบทพิสูจน์คำวิจารณ์อีกครั้ง เพราะนักเตะทั้งสองทีมลื่นล้มกันอย่างเมามันส์จากสภาพสนามที่แย่จนไม่น่าเชื่อว่า นี่เป็นสนามฟุตบอลที่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศอังกฤษ

ปิกิยอนได้ซัดไม่เต็มเท้า
นาทีที่ 24 ปอร์ทสมัธได้โอกาสที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเกม จากจังหวะที่ปิกิยอนได้ยืนตั้งป้อมซัดจ่อ ๆ หน้าประตู แต่จังหวะที่แปบอลที่ลอยโด่งมานั้นไม่เต็มเท้าสักเท่าไร ทำให้บอลไม่แรงก่อนจะไหลเข้ามือโกเมสไป

เคร้าซ์โขกเต็มๆ-เจมส์ยังหนึบ
นาทีที่ 27 ปีเตอร์ เคร้าซ์ได้โอกาสเทคตัวขึ้นโขกลูกเปิดของฮัดเดิลสตั๊นเต็ม ๆ หน้าประตู แต่บอลไม่หนีเดวิด เจมส์ที่ยืนตำแหน่งได้ดีสักเท่าไร ทำให้เซฟเอาไว้ได้ชนิดติดหนึบเลยทีเดียว

ปอมปีย์เริ่มดีขึ้น
หลังจากในช่วงแรกปล่อยใ้ห้สเปอร์สทำเกมกดดันอยู่นาน ปอร์ทสมัธก็เริ่มทำเกมได้ดีขึ้นเป็นลำดับ และมีโอกาสพาบอลมาถึงหน้ากรอบเขตโทษของ 'ไก่เดือยทอง' ได้มากกว่าเดิมด้วย

ปิกิยอนยิงติดฟเซฟ!!
นาทีที่ 37 ปอร์ทสมัธพลาดโอกาสทองในการขึ้นนำ จากจังหวะที่เย็อปด้าแทงบอลให้ปิกิยอนวิ่งทะลุหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลกับโกเมส แต่ยิงไปติดมือกาวของ 'ไก่เดือยทอง' ก่อนที่ดินดานจะเข้ามาเก็บตกจังหวะสอง แต่กลับเลือกที่จะเปิดให้เพื่อนแต่ที่จะยิงเอง ทำให้โกเมสพุ่งออกมาคว้าบอลไว้ได้

ตอนนี้เกมเริ่มสนุกขึ้นมาเรื่อย ๆ แล้วเพราะทั้งสองทีมต่างเปิดแลกทำเกมรุกกันอย่างสนุก

เจมส์เซฟสุดยอด!!
นาทีที่ 39 สเปอร์สเกือบได้ประตูขึ้นนำจากการยิงนอกกรอบของฮัดเดิลสตั๊นที่แม้ว่าจะไม่แรง แถมยิงด้วยซ้าย แต่บอลกลับลอยแล้วฮุคลงกำลังจะเสียบสามเหลี่ยม แต่เดวิด เจมส์โคตรไวพุ่งไปปัดมือเดียวออกหลังไปได้

ไก่กระหน่ำยิงแต่ไม่ได้
ช่วงทดเวลาสเปอร์สมาได้โอกาสลุ้นประตูจากจังหวะที่โมดริชกระชากบอลเข้าไปเปิดให้กับเคร้าซ์ แม้จะย้อนหลังไปหน่อยแต่หัวหอกเสาไฟฟ้าก็พลิกยิงได้ แต่ติดกองหลังของปอร์ทสัมธ บอลเด้งไปถึงเบนท์ลี่ย์เปิดเร็วจังหวะแรกติด ก่อนที่จะยิงยัดเข้าไปที่เสาแรกแต่ก็ติดกองหลังของปอมปีย์อีก

ทำให้ครึ่งแรกสเปอร์ส และปอร์ทสมัธยังคงเสมอกันอยู่ 0-0 โดยในเกมนี้ทั้งคู่เปิดเกมรุกแลกกันอย่างสนุก สมราคาของทีมที่ได้ลงเล่นรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพโดยแท้

ครึ่งหลัง

เดโฟยิงติดบล็อก
เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที เดโฟก็เกือบจะยิงประตูขึ้นนำให้กับสเปอร์ส จากจังหวะที่เขาได้ซัดเต็ม ๆ บริเวณเสาแรกในกรอบเขตโทษ แต่ริคาร์โด้ โรช่าพุ่งเข้ามาเยียดเท้าบล็อกเอาไว้ได้แบบเต็ม ๆ ทำให้ปอร์สทสมัธรอดตัวไปในจังหวะนี้

ปิกิยอนโขกไม่ผ่าน
นาทีที่ 56 ปอร์ทสมัธได้จังหวะลุ้นประตูจากปิกิยอน ที่โหม่งลูกเปิดของดินดานที่เปิดมาได้สวยงามเหลือเกิน แต่ลูกโหม่งของปิกิยอนไม่แรงเท่าไร ทำให้โกเมสรับไว้ได้ไม่ยากเย็นนัก

เคร้าซ์ชง-เดโฟซัดแต่เจมรับได้
สเปอร์สสวนกลับจากจังหวะที่เหลือทันที โดยโยนยาวให้กับเคร้าซ์ในเขตโทษ ก่อนที่จะโหม่งชงให้กับเดโฟที่ปักหลักรออยู่ยิงจังหวะแรกทันที แต่บอลตรงตัวเดวิด เจมส์ที่ล้มตัวรับบอลเอาไว้ได้

เดโฟออก-พาฟลูเข้า
นาทีที่ 59 แฮร์รี่ เร้ดแนปป์เปลี่ยนเอาโรมัน พาฟลูเชนโก้ลงไปเล่นแทนเจอร์เมน เดโฟที่สภาพความฟิตไม่สมบูรณ์สักเท่าไรออก ทำให้คู่กองหน้าของสเปอร์สเป็นศูนย์หน้าร่างโย่งด้วยกันทั้งคู่

ลงไปได้แป๊บเดียวพาฟลูก็แอบฮาเล็กน้อย เพราะไม่ชินกับสภาพสนามอันแสนแย่ของเวมบลีย์ทำให้ลื่นไปเอง แต่ก็ยังรักษาฟอร์มเอาไว้ได้

เคร้าซ์พลาดเหน่ง ๆ!!
นาทีที่ 65 ปีเตอร์ เคร้าซ์สมควรที่จะทำประตูขึ้นนำให้กับสเปอร์สอย่างแรง จากจังหวะที่เดวิด เจมส์ออกไปตัดลูกเปิดของสเปอร์สพลาด ทำให้เคร้าซ์ได้เทคตัวโขกเหน่ง ๆ แบบไม่มีผู้รักษาประตูอยู่ แต่พี่แกกลับโขกออกไปหน้าตาเฉย

เคร้าซ์ชาร์จติดบล็อกอีก
นาีทีที่ 69 ปีเตอร์ เคร้าซ์ยังคงพลาดโอกาสทำประตูอีกครั้งหนึง จากจังหวะที่ปีเตอร์ เคร้าซ์พยายามพุ่งเข้าไปชาร์จลูกเปิดจากฝั่งซ้าย แต่โดนโมโคเอน่าเข้ามาเบียดบล็อกเอาไว้ได้ทัน ทำเอาเคร้าซ์รู้สึกเหนื่อยใจไม่น้อย เพราะโอกาสมีแต่ทำไม่ได้สักที

โมโคเอน่าเกือบแตะเข้าประตูตัวเอง
ภัดมาแค่นาทีเดียว สเปอร์สก็ขึงเกมรุกใส่ปอร์ทสมัธ จนมาถึงจังหวะที่ชอร์ลูก้าหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะเปิดไปให้เคร้าซ์ที่ยืนรออยู่ตรงกลาง แต่โมโคเอน่าวิ่งโฉบมาแตะบอลได้ก่อน แต่เหมือนจะแรงไป ทำให้บอลไกลเกือบเข้าประตู เจ้าตัวรีบพุ่งมาสไลด์เคลียร์ออกไปได้ก่อน

เฮ้อ!เคร้าซ์โหม่งชนเสาอีก
นาทีที่ 76 ปีเตอร์ เคร้าซ์ได้โอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่เขาได้โหม่งที่เสาสองจากการเปิดมาจากฝั่งซ้าย แต่เจ้าตัวก็โหม่งไปชนเสาเหลี่ยมนอก บอลเด้งออกหลังไป

ไก่กดดันต่อเนื่อง
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายก่อนทดเวลา สเปอร์สทำเกมบุกใส่ปอร์ทสมัธอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสได้เตะมุมอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเจาะประตูของทางปอมปีย์ได้เลย

เจมส์ซูเปอร์เซฟ
ช่วงทดเวลาไปหนึ่งนาที ปีเตอร์ เคร้าซ์ได้เพิ่งเข้าไปชาร์จที่เสาแรกเต็ม ๆ แต่เดวิด เจมส์ที่แม้จะทิ้งตัวไปผิดทางแล้ว แต่ก็ยังใช้ขาเซฟเอาไว้ได้หวุดหวิด

ก่อนที่สเปอร์สจะบอมบ์บุกเข้ามาอีกครั้ง แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ถนัด ก่อนที่บอลจะล้นไปเข้ามือเจมส์ในที่สุด


จบ 90 นาทีปอร์ทสมัธยันสเปอร์สเอาไว้ได้ ทำให้ต้องมีการต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที

ต่อเวลาพิเศษ - ครึ่งแรก

ไก่ยังดีกว่าเหมือนเดิม
เริ่มต้นช่วงต่อเวลาในครึ่งแรก ก็ยังเป็นทางสเปอร์สที่ทำได้ดีกว่าปอร์ทสมัธและได้พาบอลขึ้นไปหน้ากรอบเขตโทษมากกว่า แต่ก็ยังหาโอกาสยิงเหน่ง ๆ ไม่ได้เลย

พาฟลูยิงข้ามคาน
ในนาทีที่ 98 ของช่วงต่อเวลา โรมัน พาฟลูเชนโก้ไอ้โอกาสหลุดเข้าไปยิงหน้ากรอบเขตโทษ จากจังหวะที่โรช่าสกัดไม่ดี แต่ดาวยิงชาวรัสเซียกลับตัดสินใจไม่ดี ทำให้บอลค้านขามออกไป

ปิกิยอนแผลงฤทธิ์ !!!!!!!!!!!!!
ถัดมาแค่นาทีเดียวสนามเวมบลีย์ทำพิษกับสเปอร์ส และไมเคิ่ล ดอว์สันซะแล้ว หลังจากดินดานขึ้นโหม่งลูกฟรีคิก แล้วบอลตกหน้าประตูตรงจุดที่มีดอว์สัน และปิกิยอนยืนอยู่ แต่ดอว์สันกลับลื่นไปเฉย ๆ ทำให้ปิกิยอนรับส้มเข่งเบ้อเร้อเข้าไปซัดผ่านโกเมสไม่ยากเย็น ปอมปีย์ออกนำ 1-0 แฟน ๆ เฮสนามแทบแตก

เคร้าซ์ซัดเข้า แต่ไม่ได้
นาทีที่ 102 ของช่วงต่อเวลาปีเตอร์ เคร้าซ์ก็ทำสำเร็จจนได้หลังจากซัดบอลเข้าไปตุงตาข่ายแล้ว จากลูกเปิดของเบลทางฝั่งซ้าย แต่ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ไปก่อน เพราะบอกว่ามีนักเตะของสเปอร์สเข้าไปกระแทกเจมส์ในจังหวะที่จะออกมาตัดบอล

เมื่อดูจากภาพช้าแล้ว เรียกได้เลยว่าจังหวะนี้ไม่น่าจะมีการฟาวล์ ทำให้สเปอร์สต้องพลาดโอกาสตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย

ต่อเวลาพิเศษ - ครึ่งหลัง

พาฟลูชาร์จแต่ไม่เต็ม
นาทีที่ 107 พาฟลูเชนโก้ได้โอกาสเข้าไปชาร์จจิ้มบอลที่เสาแรก จากจังหวะ้เปิดของเบล แต่บอลไม่หนีเจมส์ทำให้รับเอาไว้ได้สบาย

ไก่รุกหนัก
เวลาเหลือแค่ 10 นาทีสเปอร์สพยายามทำเกมรุกอย่างหนักหมดหน้าตัก จนเกือบจะโดนสวนพัง แต่ยังดีที่นักเตะของปอร์ทสมัธจ่ายกันไม่ดี ทำให้ไม่โดนล่อเป้า เพราะกองหลังตัดเอาไว้ได้

จบเกม!ปอมปีย์ได้จุดโทษ
นาทีที่ 116 สเปอร์สใจสลาย หลังจากปาลาซิออสไปเหนี่ยวดินดานล้มลงในเขตโทษ และผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษทันที

ก่อนที่เควิน ปริ๊นซ์ บัวเต็งจะรับหน้าที่ซัดเข้าไปได้อย่างสวยงาม ปอร์ทสมัธนำห่าง 2-0 และน่าจะเข้าชิงเอฟเอ คัพได้อย่างค่อนข้างแน่นอนแล้ว

จบเกมปอร์ทสมัธสร้างเซอร์ไพร์อย่างสุดยอด ด้วยการเอาชนะสเปอร์สไปได้ 2-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งที่เพิ่งรู้ข่าวว่าตัวเองต้องตกชั้นเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ทำให้พวกเขาทะลุเข้าไปชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพกับเชลซีที่เข้าไปรออยู่ก่อนแล้ว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

สเปอร์ส : โกเมส,ไมเคิ่ล ดอว์สัน,เซบาสเตียน บาสซง,แกเร็ธ เบล,เวดราน ชอร์ลูก้า,ดาวิด เบนท์ลี่ย์(ครานชาร์ น.79),ทอม ฮัดเดิลสตั้น (กุ๊ดยอห์นเซ่น น.102),ลูก้า โมดริช,วิลสัน ปาลาซิออส,ปีเตอร์ เคร้าซ์,เจอร์เมน เดโฟ(พาฟลูเชนโก้ น.59)

ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์,สตีฟ ฟินแนน,ริคาร์โด้ โรช่า,ไมเคิ่ล บราวน์,เฮย์เดน มัลลินส์(ฮิวจ์ส น.119),อารอน โมโคเอน่า,ฮาสสาน เย็ปด้า(อูทาก้า น.87),เควิน ปริ๊นซ์ บัวเต็ง,มาร์ค วิลสัน,เฟรเดริค ปิกิยอน(ปาป้า ดิยุฟ น.112),อรูน่า ดินดาน










































 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์