ผี 10 ตัวน้ำตานอง!ร็อบเบนยิงอเวย์โกล์ชนะ 3-2 แต่ร่วง
วิมานโต๊ะจีนเข้ารอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพังทลายสุดช็อกหลังโชว์เทพยิงสลุตขึ้นนำ 3-0 แต่ถูกบาเยิร์น มิวนิคซัด 2 เม็ด+ราฟาเอลถูกไล่ออกแซงเข้ารอบหน้าตาเฉยด้วยกฏอเวย์โกล์หลังรวมผลสองนัดเสมอ 4-4 ส่งผลทำให้ทีมจากอังกฤษสูญพันธ์เหี้นทันที
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
วันพุธที่ 7 เมษายน 2553
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 – 2 บาเยิร์น มิวนิค
(รวมผลสองบาเยิร์น มิวนิคเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 4-4)
ประตู : 1-0 ดาร์รอน กิ๊บสัน น.3 , 2-0 หลุยส์ นานี่ น.7 , 3-0 หลุยส์ นานี่ น.41 , 3-1 อิวิก้า โอลิช น.43 , 3-2 อาร์เยน ร็อบเบน น.74 
ครึ่งแรก
ประตูสำคัญ!กิ๊บซี่ยิงไกลผีนำไก่โห่
เพียงแค่นาทีที่ 3 ของการแข่งขันโมเมนตั้มของเกมส์ตกมาอยู่ทางเจ้าบ้านเรียบร้อยแล้วหลังราฟาเอล ดา ซิลวาพาบอลมาถึงครึ่งสนามก่อนป้ายต่อให้กับรูนี่ย์ ที่แตะจังหวะเดียวส่งต่อให้กับดาร์รอน กิ๊บสันที่ควบหน้าตั้งมาก่อนง้างด้วยขวาและซัดจากบริเวณนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งต่ำและแรงเสียบเสาแรกส่งยูไนเต็ดขึ้นนำอย่างสวยงาม
ตามรอยหมาป่า!?นานี่ยิงอีกผีนำ 2-0แล้ว
ไปกันใหญ่แล้วสำหรับบาเยิร์น มิวนิคโดยนาทีที่ 7 เวย์น รูนี่ย์เปิดบอลยาวจากกลางสนามมาทางขวาให้กับวาเลนเซีย ก่อนปีกเท้าซ้ายเล็บขบจะล่อหลอกกองหลังบาเยิร์น มิวนิคและครอสเข้าในให้กับนานี่ ที่วิ่งมายิงไขว้เข้าประตู อย่างเหนือชั้น หมดปัญญาบุทท์จะเซฟได้
บุทท์เฟอะฟะพี่เสือเกือบโดนอีก
นาทีที่ 12 ฮัน จอร์ท บุทท์นายทวารบาเยิร์น มิวนิคหางานให้ตัวเอง หลังเพื่อนร่วมทีมส่งคืนหลัง และบุทท์จะเตะเปิดเกมส์ด้วยซ้าย แต่ดันโดนไม่ดีบอลพุ่งไปเข้าทางคาร์ริค ที่ล็อคหลอกกองหลังบาเยิร์นหนึ่งจังหวะก่อนจะยิงด้วยซ้ายแต่บอลบดออกหลังไป
เจ็บตรงไหน!?หมูโคตรบ้าไล่ทุกจังหวะ
14 นาทีผ่านไป หลายๆคนที่ได้ตามอ่านข่าวที่มดไบรท์แปลคงจะยืนงงกันเป็นไก่ตาแตก หลังเวย์น รูนี่ย์หัวหอกฟอร์มฮอตของเจ้าบ้านที่วันนี้ทำเซอไพรส์โดยการลงสนามเป็นตัวจริง วิ่งสู้ฟัดไล่บอลทุกจังหวะแถมยังมีล้มตัวสไลด์และอะไรต่างๆนาๆ ไม่เหมือนคนพึ่งหายจากอาการบาดเจ็บสักนิด
กิ๊บสันติดใจส่องไกลอีก
เกมส์มาถึงนาทีที่ 33 เจ้าบ้านได้ลุ้นจากการยิงไกลอีกและก็เป็นดาร์รอน กิ๊บสันคนเดิมที่รับบอลจากเวย์น รูนี่ย์ก่อนลากเข้าหาเขตโทษและยิงไกลจากระยะประมาณ 30 หลาบอลพุ่งโด่งก่อนจะมุดต่ำแต่ไม่ทันการข้ามคานออกไป
ราฟาเอลหลุดเดี่ยวเลือกยิงไม่ยอมจ่าย
นาทีที่ 34 แมนฯ ยูไนเต็ดพลาดการได้ประตูที่ 3 อย่างเหลือเชื่อหลังราฟาเอล ฝากบอลให้กับรูนี่ย์จากแดนหลัง ก่อนหัวหอกทีมชาติอังกฤษจะจ่ายต่อให้กับเฟล็ทเชอร์ ที่ชิ่งต่อหวังจะให้ราฟาเอลวิ่งตัดทันที บอลไปโดนขากองหลังบาเยิร์นที่ล้มตัวสกัดแต่กลายเป็นมาเข้าทางของราฟาเอล ที่เติมเกมส์ตามจังหวะ ลากบอลลุยเข้ากรอบเขตโทษไปดวลเดี่ยวกับบุทท์ แต่จังหวะยิงเน้นมากเกินไปบอลหลุดออกเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
โอลิชหลุดเดี่ยว – ฟาน เดอ ซาร์ช่วยชีวิต
นาทีที่ 39 บาเยิร์น มิวนิคน่าได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะสวนกลับ โดยเป็นมุลเลอร์ ที่ลากจี้เข้าหากองหลังเจ้าบ้าน ก่อนจะจ่ายบอลสุดสวยมาให้กับโอลิชในกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่ฟาน เดอ ซาร์ยังไวพุ่งออกมาตัดบอลไว้ได้
ซูเปอร์บัง!นานี่เบิ้ลผีทิ้ง 3-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโชว์ความโหดเหี้ยม ใช้ทุกโอกาสให้เป็นประตู โดยนาทีที่ 41 ราฟาเอล ทุ่มบอลจากแดนขวาให้กับวาเลนเซียวิ่งตาม ก่อนจะโชว์เทพกระดกข้ามหัวเดมิเคลิส และลากจี้เข้าเขตโทษก่อนจะยัดบอลเข้าในผ่านหน้าเวย์น รูนี่ย์ไปและเป็นหลุยส์ นานี่วิ่งมาแปด้วยขวาเต็มๆ บอลพุ่งเสียบคานเข้าไปอย่างสวยงาม
พี่เสือยังไม่ยอม!โอลิชยิงไล่1-3
บาเยิร์น มิวนิคไม่ยอมง่ายๆ โดยนาทีที่ 43 อาร์เยน ร็อบเบนชิพบอลโด่งมาให้กับมุลเลอร์ ก่อนที่มุลเลอร์จะโขกทำทางให้กับโอลิช ที่วิ่งเบียดเอาชนะคาร์ริคล้มลง และยิงด้วยซ้ายบอลผ่านหน้าฟาน เดอ ซาร์เสียบเสาสองเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม
เสือมาอีกร็อบเบนปั่นน้าซาร์ซูเปอร์เซฟ
นาทีที่ 46 บาเยิร์น มิวนิคเกือบได้ประตูสำคัญหลังอาร์เยน ร็อบเบนรับบอลจากเพื่อนทางด้านขวาก่อนลากเลี้ยงหลบกองหลังแมนยู และล็อคเข้าซ้ายข้างถนัดก่อนปั่นตามสูตร บอลลอยกำลังจุเสียบเสาสองแต่ฟาน เดอ ซาร์พุ่งมาปัดออกหลังไปได้ในวินาทีสุดท้าย
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรกแมนฯ ยูไนเต็ดนำบาเยิร์น มิวนิคสุดมันส์ 3-1 
ครึ่งหลัง
ผีงานเข้า!รา”ฟาย”เอลรับเหลือง 2 โดนไล่ชอกช้ำ
ประสบการณ์ต่ำจริงๆ ไม่รู้ปีนึงจะโดนใบแดงกี่ใบ หลังนาทีที่ 50 ราฟาเอล ดา ซิลวาไปฉุดกระชากริเบรี่ที่กำลังได้บอลเลี้ยงลุยเข้าเขตโทษอย่างน่าเกลียด จนกรรมการควักใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจาสนามไป
บุทท์ง่อยเกือบโดนบัง – หมูออกแล้ว
นาทีที่ 55 แมนฯ ยูไนเต็ดเกือบได้ประตูขึ้นนำ 4-1 จากความผิดพลาดของบุทท์ที่ออกมาตัดบอลได้ไม่ดี ไปเข้าทางของนานี่ที่ยืนอยู่นอกกรอบเขตโทษเอาบอลลงหนึ่งจังหวะ ก่อนจะฮาล์ฟ-วอลเล่ย์แต่ชูไวน์สไตเกอร์ยังเข้ามาบล็อกไว้ได้ทัน นอกจากนี้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันตัดสินใจส่งจอห์น โอเชียลงสนามแทนเวย์น รูนี่ย์เรียบร้อยแล้ว
ริเบรี่วอลเล่ย์ น้าซาร์เซฟอีก
นาทีที่ 59 บาเยิร์น มิวนิคที่กำลังได้ใจมาอีกระลอก โดยเป็ร็อบเบนที่ครอสบอลเข้าในกรอบเขตโทษ ก่อนกองหลังยูไนเต็ดสกัดบอลไม่ดี ลอยมาเข้าทางของริเบรี่ตั้งป้อมวอลเล่ย์เต็มๆด้วยขวาบอลพุ่งเป็นปืนกล แต่ก็ต้องชมความยอดเยี่ยมของฟาน เดอ ซาร์ที่ปัดออกไปได้อีกครั้ง
นานี่หลุดเดี่ยว บุทท์เซฟเยี่ยม
นาทีที่ 63 แมนฯ ยูไนเต็ดได้ลุ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นเฟล็ทเชอร์ ที่ผ่านบอลทะลุช่องจากกลางสนามมาให้กับนานี่วิ่งหลุดเดี่ยวเพราะกองหลังทีมเยือน ดันขึ้นไปสูงกันหมด ก่อนอาบังจะลากเข้าเขตโทษแต่โดนกองหลังของทีมเยือนที่วิ่งตามมากดดัน ไม่มีมุมจะยิงจนต้องอัดด้วยขวาเข้าเสาแรกแต่บุทท์ยืนเอามือข้างเดียวปัดบอลออกไปได้
โกเมซขึ้นโขกเช็ดคาน!
นาทีที่ 68 บาเยิร์นพลาดโอกาสทอง หลังฟิลิป ลาห์มลากบอลขึ้นมาทางด้านขวาก่อนจะครอสบอลให้กับมาริโอ โกเมซตัวสำรองลอยตัวเอาชนะเฟอร์ดินานด์ถึงบอลก่อนสะบัดหัวโขก บอลลอยโด่งไปนิดเดียวเช็ดคานออกไป
พี่เสือมาแว้ว!ร็อบเบนวอลเล่ย์บอลเสียบเสา
นาทีที่ 74 ทุกๆอย่างกลับมาเข้าทางทีมเยือนอีกครั้งหลังได้ประตูสำคัญจากจังหวะที่ริเบรี่เปิดลูกเตะมุมยาวมาให้กับร็อบเบน ยืนรออยู่บริเวณเสาไกลด้านขวาและแข้งทีมชาติฮอลแลนด์วอลเล่ย์ด้วยซ้ายทันที บอลพุ่งเป็นจรวดเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม หากเกมส์จบลงด้วยสกอร์นี้บาเยิร์นจะเข้ารอบด้วยประตูทีมเยือนทันที
ริเบรี่ยิงไกลเกือบฝัง
นาทีที่ 87 บาเยิร์น มิวนิคหาโอกาสจบสกอร์หลังครองบอลเป็นเวลานานเกือบ 2 นาที ริเบรี่ลากบอลจากฝั่งซ้ายตัดเข้าในก่อนยิงด้วยขวาเต็มๆบริเวณ 25 หลาบอลพุ่งเกือบเสียบเสาหลุดออกไปนิดเดียวเท่านั้น
ช่วงเวลาที่เหลือบาเยิร์น มิวนิคครองเกมส์ไว้ได้อย่างเด็ดขาด บุกมาพ่ายแมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 แต่เข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน ส่วนเจ้าบ้านอีกความหวังเดียวจากประเทศอังกฤษต้องตกรอบอย่างน่าเจ็บปวด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ 6.5,เนมันย่า วิดิช 5.5, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5.5, ปาทริซ เอฟร่า 5.5, ราฟาเอล ดา ซิลวา
5, ไมเคิ่ล คาร์ริค 4(ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 4.5 น.79), ดาร์รอน กิ๊บสัน
6(ไรอัน กิ๊กส์ 5 น.80), ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ 6, หลุยส์ นานี่ 7.5, อันโตนิโอ วาเลนเซีย 6.5, เวย์น รูนี่ย์ 5.5(จอห์น โอเชีย 6 น.55)
บาเยิร์น มิวนิค : ฮัน จอร์ท บุทท์, 6 มาร์ติน เดมิเคลิส 5.5, ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น 5.5, โฮลเกอร์ บาตสตูเบอร์ 5, ฟิลิป ลาห์ม 5.5, บาสเตียน ชูไวน์สไตเกอร์ 7, มาร์ค ฟาน บอมเมล 7, ฟร็องค์ ริเบรี่ 7.5, อาร์เยน ร็อบเบน* 8(ฮามิต อันติลท็อป 6 น.76), อิวิก้า โอลิช 6.5(มิลาเร็ม พรานยิช - น.84), โธมัส มุลเลอร์ 6(มาริโอ โกเมซ 7 น.46) 
_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
