พี่เสือล้างแค้น!ซัดทดเจ็บโค่นผีช็อก 2-1

พี่เสือล้างแค้น!ซัดทดเจ็บโค่นผีช็อก 2-1

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดช็อกตาตั้งหลังเวย์น รูนีย์ยิงเบิกร่องตั้งแต่ไก่โห่แต่กลับแผ่วปลายถูกบาเยิร์น มิวนิคยิงแซง 2 ลูกรวดจากฟรีคิกของฟร้องก์ ริเบรี่และลูกทดเจ็บของโอลิชลงท้ายพ่าย 2-1 ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้ายเลกแรก

ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกแรก

วันอังคารที่ 30 มีนาคม 2553


บาเยิร์น มิวนิค 2 - 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประตู :
0-1 เวย์น รูนี่ย์ น.2,1-1 ฟรองค์ ริเบรี่ น.76,2-1 โอลิซ น.90+2

พี่เสือขาดทั้งร็อบเบน,ชไวนี่-ผีเน้นรัดกุม
งานนี้แฟน ๆ เสือใต้ คงต้องลุ้นกันเหนื่อยมากกว่าทางทีมเยือน เพราะขาดนักเตะสำคัญอย่างอาร์เยน ร็อบเบน และชไวสไตน์เกอร์ ส่วนทางแมนฯยูใช้แผนรัดกุม หมูคืนหน้าเป้า และเซอไพร์เล็กน้อยที่เซอร์ อเล็กซ์ เลือกดรอปวาเลนเซียในเกมนี้

ครึ่งแรก

พี่เืสือช็อค!หมูยิงหายแค่นาทีกว่า
แค่นาทีกว่า ๆ แมนฯยูก็มาได้ประตูขึ้นนำแบบช็อคเจ้าบ้านสุด ๆ หลังจากเดมิเชลิสไปทำฟลาวน์นานี่ ก่อนที่ปีกอาบังจะลุกขึ้นมาเปิดฟรีคิกจากฝั่งขวาเกือบมุมธง บอลไปแฉลบกำแพงในจังหวะแรก ทำให้เกมรับของบาเยิร์นก่ะจังหวะบอลไม่ได้โถมไปเสาแรกหมด ก่อนที่บอลจะลอยมาหน้าประตู เวย์น รูนี่ย์ที่หลุดขึ้นมาเดี่ยว ๆ แปด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย แมนฯยูนำโคตรไว 1-0

ผีเกือบพลาดเอง
นาทีที่ 12 อยู่ดี ๆ แมนฯยูก็เกือบมาเล่นกันพลาดเอง เพราะจ่ายบอลกันอยู่บริเวณกรอบหน้าเขตโทษของตัวเอง แล้วไปพลาดให้ทางบาเยิร์นตัดบอลได้ แต่ยังดีที่วิดิชบล็อคได้ทันในจังหวะสุดท้าย

ผีสวน-หมูได้ซัด
นาทีที่ 15 แมนฯยูใช้จังหวะสวนกลับจากการวาลบอลของสโคลส์ให้รูนี่ย์วิ่งควบไปเอาบอล ก่อนจะล็อคหลบในกรอบเขตโทษ แต่จังหวะช้าไปนิดทำให้ยิงไปติดกองหลังของบาเยิร์น

ก่อนที่นาทีต่อมานานี่ จะได้โอกาสหลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ หลุดเสาแรกออกไปนิดเดียวเท่านั้น

หน้าบากยิงแฉลบ-น้าซาร์คว้าสวย
นาทีที่ 20 ฟรองค์ ริเบรี่ได้โอกาสซัดด้วยซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไปแฉลบผู้เล่นของแมนฯยูก่อนในจังหวะแรก ทำให้ฟาน เดอร์ ซาร์พุ่งไปคว้าได้ทัน

นานี่เปิดชนคาน
นาทีที่ 21 นานี่ก็เกือบจะมีโชคได้ประตูจากกานเปิดบอลทางฝั่งขวาของเขา เพราะลูกมันลอยโค้ง และย้อยไปตรงกรอบ แต่ชนคานก่อนที่จะออกไปอีกฝั่งหนึง

อัลตินทอปจับพลาดนิดเดียว
นาทีที่ 23 บาเยิร์นพลาดโอกาสลุ้นตีเสมอไปนิดเดียวเท่านั้น หลังจากริเบรี่เปิดบอลข้ามกองหลังไปให้กับอัลตินทอปได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่เจ้าตัวเกี่ยวบอลไม่ติด ทำให้ฟาน เดอร์ ซาร์รับเอาไว้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วจังหวะนี้น่าจะได้ยิงเหน่ง ๆ แน่นอน หากจับจังหวะแรกดี

พี่เสือพลาดเองเห็นๆ !!
นาทีที่ 28 น่าจะเป็นจังหวะตีเสมอของบาเยิร์นโดยแท้ จากจังหวะที่ริเบรี่พลิกหนีแกรี่ เนวิลล์มาได้ ก่อนจะเปิดเข้ากลางแล้วฟาน เดอร์ ซาร์ชกบอลออกไปเข้าทางอัลตินทอปที่ซัดจังหวะแรก บอลพุ่งตรงมาทางโอลิชที่ยืนโล่ง ๆ อยู่คนเดียว แต่เหมือนไม่พร้อมทำให้เข้าไม่ถึงบอล

นี่น่าจะเป็นโอกาสเหน่ง ๆ ที่สุดสำหรับทางเจ้าบ้านแล้วนับตั้งแต่เริ่มเกมมา

หมูซัดจ่อ ๆ ติดบุตต์
นาทีที่ 39 แมนฯยูพลาดโอกาสทองบ้าง หลังจากต่อบอลจากแดนกลางขึ้นมาสวย ก่อนที่เฟล็ทเชอร์จะเปิดเข้ากลาง แล้วเดมิเชลิสโหม่งพลาด บอลตกลงเท้ารูนี่ย์ แต่ดูเหมือนจะพยายามบรรจงเกินไป จึงทำให้บุตต์ออกมาบล็อคลูกยิงเอาไว้ได้

คาร์ริคได้วอลเล่ย์นอกกรอบ
ก่อนจะเข้าทดเจ็บ คาร์ริคได้โอกาสซัดวอลเล่ย์ด้วยซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งไปติดเซฟของบุตต์ที่ล้มตัวรับไว้ได้ทัน

จบ 45 นาทีแรก แมนฯยูบุกมานำบาเยิร์น มิวนิคไปก่อน 1-0 โดยในช่วงครึ่งแรกเจ้าถิ่นได้ครองบอลบุกซะมาก แต่ก็พลาดโอกาสที่จะยิงประตูตีเสมอไปหลายครั้ง

ครึ่งหลัง

ผีงานเข้าตั้งแต่นาทีแรก
เริ่มเขี่ยมา ก็เป็นทางบาเยิร์นที่บุกขึ้นมาลุ้นทำประตูทันที จากจังหวะที่ริเบรี่ ไหลให้กับโอลิชได้ซัดมุมแคบ ก่อนที่จังหวะต่อมาบาเยิร์นจะได้ซัดในกรอบเขตโทษอีก แต่แฉลบผู้เล่นของแมนฯยูก่อนจะออกหลังไป

ในจังหวะเตะมุม พี่เสือ แม้จะพอได้โอกาสยิง แต่ก็ยังไม่สามารถทำประตูได้ ทำให้ ปีศาจแดง เอาตัวรอดไปได้แบบหวุดหวิด

มุลเลอร์ซัดแฉลบ
นาทีที่ 50 มุลเลอร์ได้โอกาสยิงจากนอกกรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบวิดิชทำให้ลูกเปิดทาง ฟาน เดอร์ ซาร์ต้องตะเขียกตะกายไปปัดไว้ได้สุดปลายมือ ก่อนที่จะตามเก็บจังหวะสองได้

อัลตินทอปสุดยอด
นาทีที่ 56 อัลตินทอปโชว์เทคนิคเหลือร้าย หลังลากเลื้อยฝ่าผู้เล่นของแมนฯยูทีุ่รุมล้อมอยู่ 3-4 คน พลิกเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษได้ แต่บอลตรงตัวฟาน เดอร์ ซาร์ที่ทุ่มบอลทิ้งออกมา

ผีจ่ายบอลกันอย่างมั่ว
เข้าสู่นาทีที่ 60 แมนฯยูก็ยังคงจ่ายบอลกันสะเปะสะปะเหมือนในครึ่งแรก ทำให้จังหวะที่จะทำเกมบุกสวนทางบาเยิร์นขึ้นไปนั้น หากประสิทธิภาพแทบจะไม่ได้เลย

เจ้าถิ่นยังได้ครองบอลต่อเนื่อง
เข้าสู่นาีทีที่ 70 บาเยิร์น มิวนิคยังคงได้ครองบอลทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังหาโอกาสจะแจ้งไม่ได้ ส่วนทางแมนฯยูที่คอยสวนกลับก็ยังคงจ่ายบอลกันได้ไม่ค่อยดีเท่าไร

ป๋าปรับทัพสู้พี่เสือ
นาทีต่อมา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันก็เปลี่ยนเอาเบอร์บาตอฟ และวาเลนเซียลงมา โดยถอดเอาคาร์ริคที่วันนี้จ่ายบอลได้ต่ำกว่ามาตรฐาน และปาร์คจีซุงที่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมออกไป

น้าซาร์เซฟเสาแรก!
นาทีที่ 71 โอลิชได้โอกาสซัดอีกครั้ง จากจังหวะที่ได้บอลตอกส้นจากเพื่อนในกรอบเขตโทษ ก่อนจะตัวจะซัดเลียดไปที่เสาแรก แต่ฟาน เดอร์ ซาร์ยังไวล้มตัวปัดออกหลังไปได้

ริเบรี่ซัดฟรีคิกแฉลบ-เสมอแล้ว!!!
นาทีที่ 76 บาเยิร์นมาได้ประตูแบบง่ายดายเหลือเกิน หลังแกรี่ เนวิลล์ไปทำแฮนบอลจนเสียฟรีคิก ก่อนที่ริเบรี่จะรับหน้าที่ซัดฟรีคิกไปแฉลบกำแพง ทำให้บอลเปลี่ยนทางพุ่งเข้าเสาแรกไป ฟาน เดอร์ ซาร์หมดสิทธิ์รับ บาเยิร์นบดจนตีเสมอได้แล้ว

ป๋าส่งกิ๊กส์ลงกู้สถานการณ์
นาทีที่ 82 หลังจากโดนบดจนเสียประตูตีเสมอ เซฮร์ อเล็กซ์ก็จำเป็นต้องส่งไรอัน กิ๊กส์ลงมาเล่นแทนนานี่ เพื่อคุมจังหวะเกมให้นิ่งกว่านี้

วิดิชโขกชนคานเต็ม ๆ
ลงมาได้แค่ 2 นาที กิ๊กส์ก็เกือบได้แอสซิสต์ หลังจากเปิดเตะมุมทางฝั่งซ้าย บอลลอยโค้งเข้าไปในกรอบเขตโทษ วิดิชสอดเข้าไปโหม่งถึงก่อนโกเมซ แต่บอลพุ่งเป็นชนคานดังสนั่น

น้าซาร์ซูเปอร์เซฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
ในช่วงทดเวลา แมนฯยูน่าเสียประตูสุด ๆ หลังจากโกเมซได้หลุดไปยิงจ่อ ๆ แต่น้าซาร์ปัดเอาไว้ได้อย่างสุดยอด

โอลิชสุดยอดดดดดดดด!!!
นาทีสุดท้าย แมนฯยูน้ำตาแตก หลังเจอโกเมสพาบอลทะลุทะลวงกองหลังที่อยู่กันเพียบ แต่มัวแต่เงอะงะกับง๊องแง๊งอยู่นั่น จนทำบอลล้นแล้วปล่อยให้โอลิซโฉบพาบอลเข้าไปยิงประตูชัยผ่านฟาน เดอร์ ซาร์เข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้บาเยิร์นพลิกเอาชนะไปได้ 2-1 อย่างสุดยอดดดดดดดด

หลังจากโดนยิงแล้วยังระทมไม่พอ แมนฯยูก็ต้องมาเสียเวย์น รูนี่ย์ที่วิ่งหวังไปสกัดบอล แต่ดันเบรคตัวเองจนผิดธรรมชาติ ทำให้เจ็บจนต้องให้แพทย์ถึง 2 คนมาพยุงออกจากสนามไป

จบเกมบาเยิร์น มิวนิคโชว์การคัมแบ็คได้สมกับเป็น เสือใต้ แห่งเมืองเบียร์ พลิกกลับมาเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปได้ 2-1 และถือว่าเป้นการล้างแค้นการโดนยิงในช่วงทดเจ็บคืนจากรอบชิงชนะเลิศในปี 99 อีกด้วย

แม้จะติดนิดหนึงตรงเสียอเวย์โกล แต่ยังไงก็ยังได้เปรียบอยู่ก่อนที่จะเิดินทางไปเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ดในสัปดาห์หน้า

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บาเยิร์น มิวนิค : ฮัน ยอร์ค บุตต์,มาร์ติน เดมิเชลิส,ดาเนียล ฟาน บุยเต็น,ฮอลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ,ฟิลิปป์ ลาห์ม,ดานิเจล พรานยิช(ทีโมชุค น.89),มาร์ค ฟาน บอมเมล,ฟรองค์ ริเบรี่,ฮามิต อัลตินทอป(โคลเซ่ น.86),อิบิก้า โอลิช ,โธมัส มุลเลอร์(โกเมส น.73)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,เนมันย่า วิดิช,ริโอ เฟอร์ดินานด์,ปาทริช เอฟร่า,แกรี่ เนวิลล์ ,พอล สโคลส์ ,ไมเคิ่ล คาร์ริค(วาเลนเซีย น.70),ดาร์รเรน เฟล็ทเชอร์,จี ซุง ปาร์ค(เบอร์บาตอฟ น.70),นานี่(กิ๊กส์ น.82),เวย์น รูนี่ย์


































_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์