ฉากถล่ม!เรือช้ำบุกพ่ายท๊อฟฟี่ 2-0

ฉากถล่ม!เรือช้ำบุกพ่ายท๊อฟฟี่ 2-0

ฉากที่บอร์ดบริหารแมนเชสเตอร์ ซิตี้จัดให้โรแบร์โต้ มันชินี่ล้มครืนซะแล้วหลังบุกมาเจอทีเด็ดเอฟเวอร์ตันไล่ถองกลับบ้านไม่ถูก 2-0 จากฟรีคิกสุดสวยของพีนาร์และจุดโทษของซาฮายัดเยียดความปราชัยนัดที่ 3 ให้ทีมเยือนและนัดแรกของโรแบร์โต้ มันชินี่อีกด้วย


พรีเมียร์ ลีก

วันศุกร์ที่ 16 มกราคม 2553


เอฟเวอร์ตัน 2-0 แมน ซิตี้

ประตู :
1-0 สตีเฟ่น พีนาร์ น.36,2-0 หลุยส์ ซาฮา(จุดโทษ) น.45


โดยก่อนการแข่งขันทั้งสองทีมมีการยืนไว้อาลัยให้แก่อดีตนักเตะของเอฟเวอร์ตันก่อนแข่ง

ครึ่งแรก

ซานต้าอย่างเปราะ
เตะได้ไม่ถึง 5 นาทีโรเก้ ซานตา ครูซก็มีอาการบาดเจ็บที่ต้นขา ทำให้มันชินี่เซ็งไม่น้อย และต้องเปลี่ยนเอาโรบินโญ่ลงไปเล่นแทน ทั้งที่นี่เป็นโอกาสการลงตัวจริงของซานตา ครูซ แต่กลับมาเจ็บซะได้

เรือใบทักทายก่อน
เกือบ 10 นาทีถึงมีโอกาสยิงจะ ๆ ครั้งแรก โดยเปตรอฟได้บอลทางฝั่งขวา ก่อนที่จะล็อคเข้าซ้ายของตัวเองบริเวณกรอบเขตโทษ แล้วซัดปั่นไซร้บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ฮาวเวิร์ดปัดออกไปได้

บิญโญ่เกือบ
แมน ซิตี้ยังบุกต่อเนื่อง โดยได้โอกาสอีกครั้ง เมื่อเปิดบอลเข้ากลางเขตโทษ ก่อนที่เตเบซจะกระโดดโหม่งเช็ดไปที่เสาสอง โรบินโญ่ยืนรอคนเดียว แต่บอลมาค่อนข้างโด่งไปนิด ทำให้ก่ะจังหวะยิงได้ยาก ซัดข้ามคานออกไป

โดโนแวนแค่เสียว
เอฟเวอร์ตันได้โอกาสบ้าง หลังจากที่แมน ซิตี้คืนบอลสั้นไปหน่อย ทำให้ซาฮาสไลด์แย่งส่งต่อให้กับโดโนแวนหลุดไปทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษ มีเคฮิลล์รออยู่ตรงกลาง แต่ไม่รู้จัดส่งหรือยิง ปาดบอลผ่านหน้าประตูออกไป เคฮิลล์ถึงกับโวยแหลกทีเดียว

ท๊อฟฟี่เกือบ
เอฟเวอร์ตันเ่ล่นไปเล่นมาชักจะดีกว่าแมน ซิตี้ซะแล้ว โดยมีโอกาศลุ้นอีกครั้งจากเฟไลนี่ จากแถวสอง หลังเก็บบอลที่กระฉอกออกมาได้ ซัดด้วยซ้ายแต่บอลหลุดกรอบออกไป เพราะโดนเด ยองเข้ามาบีบเสียก่อน

กิฟเว่นโคตรเซฟ
โดนกดดันหนักในช่วงเกือบครึ่งชั่วโมงสำหรับแมน ซิตี้ โดยเอฟเวอร์ตันเปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษจากฝั่งขวา ก่อนที่จะโหม่งสกัดออกไปได้ แต่บอลไปเข้าทางบิลยาเล็ตดินอฟที่วิ่งมาเก็บบอล ก่อนจะจี้เข้ากรอบเขตโทษแล้วซัดด้วยซ้ายเต็ม ๆ บอลพุ่งแรงเกือบแสกหน้ากิฟเว่น แต่มือยังไวปัดออกหลังไปได้

คราวเคราะห์ เตฟเจ็บอีก
ไม่รู้ว่าเป็นวันซวยอะไรของแมนซิตี้หรือเปล่า หลังซานต้า ครูซเจ็บไปตั้งแต่ช่วง 5 นาทีแรกจนต้องเปลี่ยนโรบิญโญ่ลงมาแทนแล้ว นาทีที่ 31 เตเบซก็เดินกระเผลกและดูเหมือนว่าจะเล่นต่อไม่ไหว มันโช่ไม่มีทางเลือกสั่งให้เบนจานี่เตรียมตัวลงแทน แต่ดูเหมือนเตเบซจะพยายามฝืนเล่นต่อ น่าเสียดายสำหรับแมน ซิตี้หากเตเบซเจ็บจริง ๆ เพราะเจ้าตัวกำลังฟอร์มแรงสุด ๆ เพิ่งซัดแฮตทริกไปเมื่อนัดก่อนด้วย

พีนาร์ปั่นโคตรงามเสียบเสา
เอฟเวอร์ตันเอาจนได้หลังนวดอยู่นาน โดยได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้ายประมาณ 25 หลา หลังซาบาเลต้าไปทำฟาวล์ซาฮา พีนาร์รับหน้าที่ปั่นด้วยเท้าขวา บอลโค้งผ่านกำแพง ก่อนจะมุดลงเสียบเสาพอดี เชย์ กิฟเว่นพุ่งสุดตัวแต่ก็ไม่สามารถป้องกันไว้ได้ ท๊อฟฟี่ออกนำก่อน 1-0

เรือใบเกือบพังอีกเม็ด
ยิ่งเล่นยิ่งออกทะเลสำหรับทีมเรือใบ หลังเอฟเวอร์ตันบอมม์ยาวจากกลางสนาม เคฮิลล์ใช้ตัวพิงกองหลังของแมน ซิตี้ก่อนจะพักอกต่อให้กับบิลยาเล็ตดินอฟที่เติมขึ้นมา ซัดด้วยซ้ายแต่บอลถากเสาสองออกไปนิดเดียว

เบลลามี่ได้ยิง
แมนซิตี้ได้โอกาสจากความผิดพลาดที่เคฮิลล์ที่เสียบอลกลางสนาม โต้ขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่โรบินโญ่จะจ่ายต่อไปให้กับเบลลามี่ที่เติมขึ้นมาทางซ้าย เจ้าตัวล็อคเข้าขวา ก่อนที่ปั่นก่ะให้เสียบเสาสอง แต่บอลโดนปลายนิ้วของฮาวเวิร์ดปัดออกไปได้

จุดโทษ!
ซิตี้ดูเหมือนจะทำอะไรก็ไม่ดีไปซะหมด หลังริชาร์ดไปดึงซาฮาบริเวณนอกกรอบเขตโทษ แต่สงสัยจะลืมปล่อยเพราะซาฮาพาบอลกระชากเ้ข้าเขตโทษแต่ไมก้าร์ยังไม่ยอมปล่อย ทำให้ไลน์แมนส่งสัญญาณให้กับผู้ตัดสินให้เป็นลูกจุดโทษทันที แม้ผู้เล่นแมน ซิตี้จะพยายามประท้วง แต่ก็ไม่เป็นผล หลุยส์ ซาฮารับหน้าที่สังหารเข้าไป เอฟเวอร์ตันนำห่าง 2-0 ก่อนหมดครึ่งแรก

หลังเขี่ยบอลกรรมการเป่าหมดเวลาครึ่งแรกทันที ทำให้เรือใบตามท๊อฟฟี่สีน้ำเงินอยู่ 2-0 ช่วงพักครึ่งมันชินี่มันงานหนักรออยู่แน่นอน เพราะเกมส์ของพวกเขาในครึ่งแรกแทบจะเรียกได้เลยว่าสู้ทางเจ้าถิ่นไม่ได้เลย และเตเบซก็ยังคงอยู่ในสนาม แม้จะดูไม่เต็ม 100%

ครึ่งหลัง

มันโช่แก้เกมส์ทันที
ไม่แก้คงไม่ได้ หลังเกมส์ในครึ่งแรกโดนนวดอยู่ข้างเดียว โดยมันชินี่ส่งเบนจานี่ลงไปแทนเปตรอฟที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยฟิตเท่าไร และหายไปจากครึ่งแรกเลย แต่น่าแปลกใจตรงที่ว่าอาการของเตเบซไม่เป็นอะไรแน่แล้วหรือยังไง

เรือใบยังไม่ดีขึ้น
แม้จะพยายามแก้เกมส์มาแล้วในช่วงพักครึ่งก็ตาม แต่เกมส์ของแมนซิตี้ก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไร โดยโอกาสได้ยิงยังไม่ค่อยมีและการครองบอลก็ยังไม่ดีเหมือนกับในครึ่งแรก โดยช่วงนาทีที่ 50 กว่าพีนาร์โดนศอกของนักเตะแมน ซิตี้ลงไปนอนกองด้วย แต่ยังลุกขึ้นมาสู่ต่อไว้

จบข่าว บินโญ่ต่อโดนเปลี่ยน
อนาคตของโรบินโญ่ในถิ่นแมนเชสเตอร์ สเตเดี๊ยมมืดมนลงเรื่อย ๆ หลังเพิ่งเปลี่ยนลงไปแทนโรเก้ ซานตา ครูซเมื่อต้นเกมส์ แต่กลับทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่สามารถช่วยเหลือทีมได้ ทำให้มันโช่ส่งฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ลงไปแทนเขาในนาทีที่ 60 เจ้าตัวทำหน้าบ่งบอกความรู้สึกได้เป็นอย่างดี ว่าเซ็งแค่ไหน แมนซิตี้เปลี่ยนครบ 3 คนแล้ว

เรือใบดีขึ้น
แมนซิตี้หลังจากเปลี่ยนไรท์ ฟิลลิปส์ลงมาก็ทำเมส์ได้ดีขึ้น และมีโอกาสจากจังหวะที่ไรท์ ฟิลลิปส์ลากบอลผ่านครึ่งสนาม หลบผู้เล่นของเอฟเวอร์ตันไปสองคน ก่อนที่จะเปิดให้กับซาลาเลต้าที่อยู่ทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา แล้วตบกลับไปให้กับเบลลามี่ได้วอลเล่ย์เต็ม ๆ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป

เรือเกือบพังยับ
แม้จะเล่นได้ดีขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำประตูได้ ทำให้เอฟเวอร์ตันได้โอกาสจากลูกเตะมุมของโดโนแวนที่เปิดอย่างแม่น บอลพุ่งเข้าหัวเฟไลนี่ที่ขึ้นได้สูงกว่าใคร โหม่งเต็ม ๆ บอลกำลังจะเสียบใต้คาน แต่เชย์ กิฟเว่นยังไวปัดชนคานออกไปได้ บิลยาเล็ตดินอฟได้ซ้ำแต่เหินข้ามคานออกไป เป็นอีกครั้งที่กิฟเว่นช่วยแมนซิตี้เอาไว้ในเกมส์นี้ ไม่งั้นคงสกอร์อาจจะไหลมากกว่านี้แล้ว

ผ่านไปไม่ถึง 5 นาทีเอฟเวอร์ตันเกือบโดนอีก จากลูกโหม่งของเคฮิลล์ที่ได้โหม่งเต็ม ๆ กิฟเว่นหมดสิทธิ์รับไปแล้วเพราะโดนโหม่งย้อนศร แต่บอลชนคานเด้งออกไป แมนซิตี้เกือบแย่แล้ว

เฟไลนี่เทิร์น!
ทำอะไรก็ดูดีไปหมเสำหรับเอฟเวอร์ตัน โดยเฉพาะมารูยาน เฟไลนี่ที่นัดนี้เล่นเด่นมากทั้งเกมส์รุก และรับ โชว์การแย่งบอลจากเบลลามี่ที่แตะบอลยาวจนเกินไปตรงกลางสนาม ก่อนจะหมุนตัวโชว์ เฟไลนี่ เทิร์น หลบเบลลามี่ไปหนึ่งดอก ได้รับเสียงปรบมือจากแฟน ๆ ในสนามกันระงม

ท้ายเกมส์แมน ซิตี้พยายามเร่งเกมส์ให้มากขึ้น แต่ก็ยังทำได้ไม่ดี และโดนเอฟเวอร์ตันโดนสวนอยู่เนือง ๆ แม้จะมีโอกาสได้ยิงฟรีคิกในช่วงทดเวลาก็ตาม แต่เบลลามี่ก็ซํดไปติดกำแพง ก่อนที่แมน ซิตี้จะซ้ำโด่งข้ามคานออกไป

ทำให้จบ 90 นาทีเอฟเวอร์ตันโชว์ฟอร์มหรูเฝ้าบ้านเอาชนะแมน ซิตี้ที่กำลังฟอร์มแรงไปได้ 2-0 ทำสถิติไม่แพ้ใครมา7 นัดติดต่อกันแล้ว ส่วนแมน ซิตี้ต้องหยุดสถิติชนะ 4 นัดรวดเอาไว้ที่กูดิสันพาร์ค และยังเป็นความปราชัยครั้งแรกของมันชินี่นับตั้งแต่มาคุมทีมบนเกาะอังกฤษอีกด้วย

ส่งผลให้เอฟเวอร์ตันขยับอันดับขึ้นที่ 10 แทนโสต๊ค ซิตี้ ส่วนแมน ซิตี้อยู่ที่ 5 โดนสเปอร์สแย่งอันดับที่ 4 ไปซะแล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด 7,ไฮติงก้า 7,ดิสแตง 7(โคลแมน 6 น.70),เลจตัน เบนส์ 7,ฟีล เนวิลล์ 7,เคฮิลล์ 8,มารูยาน เฟไลนี่ 9,สตีเฟ่น พีนาร์ 9,บิลยาเล็ตดินอฟ 8,แลนดอน โดโนแวน 7(บาคเตอร์ 6 น.90),หลุยส์ ซาฮา 7(วอร์น 7 น.85)

แมน ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น 8,แวงซ็อง กอมปานี 6,ไมก้า ริชาร์ด 6,พาโบล ซาบาเรต้า 7,การ์ริโด้ 7,เกเร็ธ แบร์รี่ 5,ไนเจล เด ยอง 6,โรเก้ ซานตา ครูซ 5(โรบิญโญ่ 3 น.9 (ไรท์ ปิลลิปส์ 8 น.61),คาร์ลอส เตเบซ 6,เคร็ก เบลลามี่ 5,มาร์ติน เปตรอฟ 8(เบนจานี่ 7 น.45)





























_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์