วันที่ไทยไม่ใช่เจ้าลูกหนังซีเกมส์!!





     ซีเกมส์ ครั้งที่ 25 เวียงจันทร์ เกมส์ ซึ่งจัดขึ้นที่สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว เกมกีฬาแห่งมวลมนุษยชนชาวอาเซียน หนึ่งเกมกีฬาที่ได้รับความสนใจมากสุด และ เป็นไฮไลท์แน่นอนว่าหนีไม่พ้น ฟุตบอล ทีมชาย เช่นเดียวกันกับในครั้งนี้

     ทีมชาติไทย ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่ง เฉกเช่นการแข่งขันในทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา ด้วยศักดิ์ศรีแชมป์เก่า 8 สมัยติดต่อมันค้ำคอและอีกหนึ่งแรงส่งที่สำคัญคือลีกภายในที่ บูม! อย่างสุดขีด กูรูชี้นี่เป็นสะท้อนภาพที่บ่งบอกว่า เราพัฒนามาอีกขั้น แน่นอนความหวังของคนไทยทั้งชาติ อยากเห็นขุนพลแข้งทีมชาติขึ้นโพเดี้ยมคว้าเหรียญทอง ประกาศศักดา แชมป์สมัยที่ 9

     เมื่อความคาดหวังมีมาก ความกดดันก็ย่อมเกิด! ทีมชาติไทยลงสนามนัดแรกพบเวียดนาม หลายคนที่ได้ชมเกมการแข่งขันบ่นอุบออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า เราเล่นกันแบบนี้หรือ? ผลลงเอยเสมอกันไป 1:1 และก็ต้องบอกว่าเราพลาด 3 คะแนนสำคัญอย่างน่าเสียดาย จากการโดนจุดโทษที่ไม่น่าจะได้ของเวียดนาม มาเกมนัดที่ 2 ทีมชาติไทยต้องลงฟาดแข้งกับ กัมพูชา แน่นอนว่ามาตรฐานการเล่น เราเหนือกว่า ผลสกอร์ 4:0 เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้คือความไม่เข้าใจกันระหว่างผู้เล่น มองในมุมย้อนหากคู่แข่งไม่ใช่ กัมพูชา เป็นทีมไหนซักทีมที่เกรดบอลสูสีกับเรา ผลสกอร์อาจไม่ใช่อย่างที่เห็นก็เป็นได้!! นั่นคือการบ้านที่ที่สตาฟฟ์ต้องนำกลับมาขบคิด

     ทีมชาติไทยลงดวลกับ ติมอร์ ในเกมนัดต่อมาซึ่งปรากฏว่าเราชนะไปได้ขาดลอย 9:0 ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจกับผลสกอร์ที่ชนะอย่างถล่มทลาย แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมคือสปิริตของ ติมอร์ ที่แม้รู้ว่ามาตรฐานจะต่างจากบรรดาชาติสมาชิกอาเซียนชาติอื่นๆ หลายขุมแต่ก็พยายามรวมทีม ส่งเข้าร่วมการแข่งขัน










     นัดที่ 4 เป็นเกมตัดสิน ทีมชาติไทยลงสนามพบ มาเลเซีย อีกหนึ่งทีมที่ได้ชื่อว่าขับเคี่ยวกันกับเราในเชิงลูกหนังมาโดยตลอดไม่ว่าจะ พบกันในครั้งไหน...และในครั้งนี้ก็เช่นกัน

     ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน จากจังหวะสังหารฟรีคิกของ อาทิตย์ สุนทรพิธ ช่วงครึ่งหลัง ด้วยสถานการณ์ และมองกันแบบคนที่ดูกันทั่วไป มันทำให้เราเล่นง่ายขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเราจะเล่นกันง่ายเกินไป หากใครที่ได้ชมเกมจะเห็นว่าหลายจังหวะทีมชาติไทยพลาด ซึ่งมันไม่น่าจะเกิดขึ้น จนนำมาสู่จังหวะตามตีเสมอของ มาเลเซีย ให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1:1 ไม่พอเพียงเท่านั้น อวสานเส้นทางไล่ล่าแชมป์ซีเกมส์สมัยที่ 9 มีอันต้องจบลงเพียงรอบแรก เมื่อ มาเลเซีย มาได้ประตูช่วงทดเจ็บ เป็นประตูชัยการันตีการผ่านเข้ารอบ ส่งเรากลับบ้านด้วยสภาพที่บอบช้ำ เป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปีที่ต้องตกรอบแรก หยุดสถิติไร้พ่าย 53 นัดในกีฬาซีเกมส์ ...

     ที่ร่ายยาวมาหาใช่ว่าจะซ้ำเติม!! ด้วยความเข้าใจ นักเตะ รวมถึงสตาฟฟ์โค้ช ย่อมเสียใจ ไม่น้อยกว่าใครๆ ความพ่ายแพ้ ความผิดหวังในครั้งนี้ แน่นอนว่าทำร้ายจิตใจแฟนบอลชาวไทยทั้งประเทศ หลายคนเกิดความคิด เกิดปฎิกริยาที่ รับไม่ได้ เหมือนจะยิ่งตอกย้ำที่บางคนเคยพูดว่า หมดศรัทธา ทีมชาติไทยในฐานะเบอร์หนึ่งของอาเซียน ร่วงตกรอบกีฬาซีเกมส์ ขณะที่ทีมอย่าง ลาว ผ่านเข้ารอบแถมยังชนะ อินโดนีเซีย ทีมที่ใช่ว่าจะมีฝีเท้าดาดๆ...คำถามคือ..หลายทีมยกระดับขึ้นแล้วเราล่ะ ??

     มองในมุมกลับ บางทีความผิดหวัง ความล้มเหลวในครั้งนี้ อาจทำให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องกลับมานั่งคิด ทิศทางของฟุตบอลไทยกันบ้างว่าต่อจากนี้ไปจะเป็นเช่นไร มันอาจจะเป็นผลดีที่เกิดเหตุการณ์ ช็อก เผื่อบางที มันอาจจะทำให้เราได้เรียนรู้กับความเจ็บปวด มันไม่ใช่เรื่องที่ดูโสภานัก แต่หากล้มลงแล้วหันกลับไปมอง คุณสะดุดอะไรเข้าให้ แก้ไขมันทำให้ดีขึ้นแล้วก้าวต่อ บทเรียนสำคัญในครั้งนี้ มันอาจทำให้เราก้าวอย่างมั่นคงในคราต่อไป เชื่อเหลือเกินว่าหลายคนยังอยากเห็นวันที่ธงไทยปลิวไสวในสนาม รอบข้างยังตะโกนกึกก้อง ไทยแลนด์ สู้ สู้



ตาปี























เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์