เกรียนกะลาเฮ!ลูคัสยิงแล้วแต่หงส์แพ้2-1

เกรียนกะลาเฮ!ลูคัสยิงแล้วแต่หงส์แพ้2-1



เหล่าเกรียนกะลาที่หลอกด่าเดอะค็อปด้วยกันอยู่ในมุมมืดร้องเฮลั่นเมื่อลูคัส เลว่าโชว์ว่าที่ตัวแทนชาบี้ อลอนโซ่ยิงประตูเรียกความมั่นใจแต่สุดท้ายหงส์แดงลิเวอร์พูลแพ้คาบ้านให้แอตเลติโก มาดริด 2-1 ปิดท้ายอุ่นเครื่องไม่สวย

แมทช์กระชับมิตร

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2552


ลิเวอร์พูล 1-2 แอต.มาดริด

ประตู : 0-1 อากูโร่ น.14,0-2 ฟอร์ลัน น.33,1-2 ลูคัส น.82


ครึ่งแรก

หงส์แดงเป็นฝ่ายกดดันบุกเอาใจเดอะค็อปเพื่อทิ้งทวนอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายและนาทีที่ 3 เคาท์เปิดบอลจากกรอบเขตโทษฝั่งขวาหมายจะให้ตอร์เรสแต่อาเซนโฆ่นายทวารตัวใหม่ลอยตัวปัดตัดหน้าก่อนเข้าหัวอดีตหอกพวกเขาเอง

วันนี้ฟอร์ลันเจอโห่ตลอดเพราะดันเป็นอดีตแข้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั่นเองและพอตราหมีตั้งหลักได้ก็เริ่มใช้เกมโต้กลับสู้แต่สถดท้ายเจอการเข้าบีบเร็วของแข้งเจ้าถิ่นทำให้ตอนนี้เกมจึงยังไม่จะแจ้งมากนัก 

โห...นาที 11 ลูคัสโชว์ทักษะสุดยอดเหมือนได้บอลคืนจากจอห์นสันแล้วเลี้ยงฝ่าด่านหลบสองผู้เล่นทีมเยือนที่เข้ามาแย่งอย่างสุดเทพก่อนแทงทะลุหมายจะให้ตอร์เรสแต่เจอดักนิดเดียว จังหวะนี้เกรียนในกะลาถึงกับร้องสะใจเลยทีเดียว

แต่อีกนาทีเดียวหงส์แดงเกือบพังเมื่อบอลยาวจากปีกซ้ายตรงกลางสนามเป็นอากูโร่พักบอลลงในกรอบแล้วหมุนตัวยิงแต่ตรงตัวเรน่าที่ยื่นมือปัดแต่ไลน์แมนยกธงฟ้องว่าใช้มือตอนเอาลงก่อนแล้ว

อย่างไรก็ตามนาที 15 ลิเวอร์พูลสังเวยประตูให้ตราหมีง่ายๆหลังอันโตนิโอ โลเปซได้บอลทางปีกซ้ายแบบไม่มีตัวประกบเลยมีเวลามองก่อนเปิดบอลพุ่งเข้ากรอบบอลเลยอยาล่าที่คุมหลวมเลยเอาหัวโขกสกัดไม่ทันปล่อยให้เอล กุนย่อตัวขวิดเหน่งๆเข้าไป จากนั้นคาร์ราเกอร์เล่นต่อไม่ไหวจนต้องเปลี่ยนซาน โฆเซ่ลงมาแทน

นาที 21 เจ้าถิ่นมาชุดใหญ่จากจังหวะที่มาสช์เก็บตกบอลในแดนตัวเองก่อนจ่ายให้เคาท์แทงทะลุให้เจอร์ราร์ดควบขึ้นมาก่อนครอสเข้ากรอบให้ตอร์เรสโขกย้อนให้เคาท์วิ่งมาแต่จังหวะไม่ดีเลยแปะให้เบนายูนวิ่งมาเติมตรงกรอบโทษฝั่งซ้ายและเกมเหมือนจะตันเลยป้ายตั้งให้ลูคัสที่ไม่รู้จะจ่ายให้ใครเพราะแข้งตราหมีลงมากันเพียบแต่สุดท้ายจ่ายให้ตอร์เรสพลิกเข้าเขตโทษแต่ดันจับยาวทำให้ตอนยิงสุดปลายขาแถมอาเซนโฆ่ปรี่ออกมาบล็อกทันนิดเดียว

อีก 3 นาทีต่อมาจอห์นสันลากจากปีกขวาตัดเข้าในหลบมาสองก่อนแทงทะลุให้เจอร์ราร์ดวิ่งสอดเข้าเขตโทษแล้วพลิกยิงเร็วตุงหน้าต่างแบบได้เสียว

นาที 27 คู่แร่ดแผลงฤทธิ์จนเรียงเสียงฮือฮาในแอนฟิลด์เมื่อตอร์เรสควบทำท่าจะพาบอลลากจี้ไปหน้ากรอบโทษแต่ดีดส้นคืนให้เจอร์ราร์ดวิ่งตามมาด้านหลังแถมดึงตัวประกบไปอีกแต่หัวขิงไม่เลี้ยงแต่แตะบอลออกให้เอล นินโญ่ที่หนีทำทางไปทางขวาก่อนล้มตัวปาดจะให้กัปตันทีมที่วิ่งไปรอที่จุดนัดพบแต่ถูกกองหลังสไลด์บล็อกนิดเดียว ถ้าเข้าจะเป็นการประสานงานที่สุดยอดคล้ายซึบาซะกับมิซากิเลยทีเดียว

แต่จังหวะสวนกลับลูกวางยาวขึ้นมาตรงปีกซ้ายซาน โฆเซ่เสียท่าเพราะวิ่งไม่ทันเอลกุนที่สปัดเร็วกว่าแถมทิ้งตัวสไลด์วัดดวงก็เอาไม่อยู่ทำให้หอกอาร์เจนไตน์ลากจี้เข้าเขตโทษไปดวลกับเรน่าแต่ดันหลอกยิงมุมแคบเลยติดบล็อกนิดเดียว

อย่างไรก็ตามนาที 33 ตราหมีมาขึ้นนำ 2-0 จากจังหวะที่แงะมาจากปีกขวาบอลต่อมาถึงซิเมาที่ได้บอลหน้ากรอบโทษแล้วทำท่าจะซัดไกลแต่ตอกส้นให้ฟอร์ลันสอดมาปั่นไซด์ย้อยข้ามมือเรน่าที่ออกมาจากเส้นประตูมากไปนิดเสียบหน้าต่างเข้าไปสุดงาม

แต่นาทีเดียวเจอร์ราร์ดดีดบอลไซด์ก้อยตรงกลางสนามตามสไตล์ทะลุเซนเตอร์ให้ตอร์เรสหลุดเดี่ยวไปล่อเป้ากับอาเซนโฆ่แต่จังหวะเลือกมุมยิงซัดไปจูบเสาบอลกระเด้งย้อนกลับเข้ามาในสนามแต่มาออกด้านข้างอีกฝั่งเลยทีเดียว

ต้องบอกว่าวันนี้เจ้าถิ่นน่าเป็นห่วงในแนวรับเพราะขาดตัวจริงไปหมดเกลี้ยงกลายเป็นซาน โฆเซ่คู่กับอยาล่าซึ่งงานนี้ราฟาเอล เบนิเตซต้องหาตัวเก๋าๆก่อนตลาดปิดเผื่อฉุกเฉินโดยด่วนเลยทีเดียว

ก่อนหมดเวลา 2 นาทีตอร์เรสอาศัยการจ่ายบอลผิดพลาดของแข้งทีมเยือนเลยฉกแล้วลากขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษแล้วแหวกแซนวิชสองคนเข้าในกรอบก่อนจะไหลตั้งให้เจอร์ราร์ดแต่ไม่รู้กันเลยถูกเคลียร์ทิ้ง

ครึ่งหลัง

เล่นมา 3 นาทีลิเวอร์พูลน่าจะตีไข่แตกได้จากจังหวะเตะมุมของเจอร์ราร์ดเป็นลูคัสวิ่งมาโขกที่เสาแรกตรงระยะ 5 หลาแต่โดนบางบอลผ่านหน้าเคาท์ที่ยืดขาไม่ทันแถมซาน โฆเซ่ก็ปรี่มาซ้ำไม่ทันบอลล้นออกหลังผ่านเสาไปนิดเดียว

อีก 2 นาทีเคาท์เปิดบอลตรงปีกขวาย้อยเป็นตอร์เรสโผนโขกแหวกคู่เซนเตอร์บอลย้อยเข้ากรอบแต่อาเซนโฆ่ถอยไปรับสบายๆ

นาที 54 ลิเวอร์พูลหวิดได้ประตูเหลือเกินและต้องชม GJ ที่ใช้ความขยันไปเบียดชนแย่งบอลกับกองหลังมาดริดที่เส้นหลังก่อนเอาชนะแล้วแทงไปตรงริมกรอบโทษให้เคาท์ที่ไปไม่ได้ก่อนแตะคืนให้ตอร์เรสตวัดเปิดบอลเร็วเป็นเจอร์ราร์ดสไลด์ล้มตัวแย่งกับฆัวนิโต้แต่บอลแฉลบออกข้างเสาแบบน่าเข้าเหลือเกิน

นาที 65 อยาล่าครองบอลหน้าเขตโทษเพลินมองไม่เห็นอากูโร่มาแย่งจากด้านหลังก่อนลากม้วนแล้วยิงไกลยังดีตรงตัวเรน่าพอดี

ตอนนี้เกมเจ้าถิ่นชักสเปะสปะแดนกลางเก็บบอลไม่ได้แถมยังไม่สามารถตั้งเกมจากแดนหลังที่มีแต่ดาวรุ่งเกือบหมด

นาที 67 ตอร์เรสโชว์การเล่นแบบวินนิ่งชัดๆเมื่อได้บอลตรงข้างๆก่อนเขตโทษแล้วเจอรุมสามก่อนม้วนแล้วยกบอลข้ามโลเปซทะลุลากเข้าเขตโทษตรงเส้นหลังแล้วแตะรอดขาไฮติงก้าเลาะเส้นจะหลบอาเซนโฆ่อีกคนแต่เจอสกัดก่อนเคลียร์ทิ้งทัน

ตราหมีดูจะเนือยๆลงไปเพราะไม่อยากเร่งมากหลังสกอร์นำอยู่ 2-0 เลยเน้นสวนกลับค่อยๆหาโอกาสทำประตูไปเรื่อยๆซึ่งผิดกับฝั่งหงส์แดงที่ลุยเป็นบ้าเป็นหลังเพราะไม่อยากแพ้คาบ้าน

นาที 73 อินซิวเปิดบอลจากปีกซ้ายเข้ากรอบโทษเป็นตอร์เรสกระโดดเบียดกับตัวประกบก่อนเขกเน้นๆแต่อาเซนโฆ่ปฏิกริยายังไวล้มตัวเซฟหวุดหวิด

อีกนาทีเดียวต่อมาเจ้าถิ่นเกือบเสียประตูแบบบอลถมเมื่ออยาล่าอยู่ในเขตโทษแล้วหันหลังคืนสั้นให้เรน่าที่ทำเก๋ากระชากหนีอากูโร่ที่วิ่งมาบีบเร็วแต่เจออ่านทางบอลได้ยังดีที่ล้มตัวสไลด์ตัดล่างโดนบอลรอดตัวไป

นาที 78 ลิเวอร์พูลน่าจะได้ซักทีหลังเบนายูนตัดบอลได้ก่อนกระชากห้อหน้าตั้งขึ้นมาทางขวาก่อนจี้ไปหน้ากรอบโทษแล้วเจอร์ราร์ดวิ่งทำทางอ้อมให้จนแข้งอิสราเอลแตะให้แต่หัวขิงตบกลับเข้าในสั้นทำให้เบนายูนเข้าไม่ถึง

อีกนาทีเศษๆตอร์เรสมาล้วงบอลตรงริมกรอบโทษฝั่งซ้ายก่อนแตะให้เข้าขวาแล้วตะบันยิงจากมุมนั้นเลยแต่อาเซนโฆ่ยืนปิดมุมดีประสานมือทุบออกมาอีก

นาที 81 หงส์แดงมาตีไข่แตกได้สำเร็จจากจังหวะที่เจอร์ราร์ดบรรจงจ่ายเบียดจากระยะ 35 หลาให้ตอร์เรสที่บอลเลยไปถึงลูคัสซึ่งห้อยเดี่ยวไม่ล้ำหน้าก่อนหลุดเข้าไปล่อเป้าในเขตโทษแล้วเลือกมุมยิงคล้ายซัดจุดโทษเสียบเสาเข้าไปง่ายๆ

อีก 3 นาทีต่อมาลิเวอร์พูลเกือบตีเสมอจากลูกที่อาเซนโฆ่

จากนั้นไม่นานลูคัสเกือบเป็นโคตรซูเปอร์ฮีโร่หลังโวโรนินไหลทะลุเข้าเขตโทษให้แต่ตอนจับวิ่งไปเล่นในเขตโทษเชื่องช้าทำให้ไฮติงก้าสไลด์ทั้งตัวสกัดเส้นยาแดงผ่าแปด ไม่งั้นหลุดไปยิงเข้านี่ฮากันทั่วโลกแน่นอน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า,เกล็น จอห์นสัน(เคลลี่ น.74),เจมี่ คาร์ราเกอร์(ซาน โฆเซ่ น.16),อยาล่า,เอเมเลียโน่ อินซิว,ลูคัส เลว่า,มาสเคราโน่(สเปียร์ริ่ง น.79),เดิร์ก เคาท์(61),ยอสซี่ เบนายูน(โวโรนิน น.79),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,เฟร์นานโด ตอร์เรส(เอ็นก็อก น.82)

แอต.มาดริด : อาเซนโฆ่,อันโตนิโอ โลเปซ,จอห์นนี่ เฮติงก้า,โธมัส ลูฟาลูซี่,เอัสซุนเซา,ซิเมา,ฆัวนิโต้,ราอูล การ์เซีย(ซานตาน่า น.56),แซร์จิโอ อากูโร่,ฟอร์ลัน,มักซี่ โรดริงเกวซ(ปงโกลล์ น.77)























 

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์