ซูดานหวังสร้างสันติภาพบ้านเกิด

เต้ โบล นักบาสเกตบอลชาวซูดานที่สูงที่สุดตลอดกาลของ เอ็นบีเอ แสดงเจตนารมณ์ขอยื่นมือเข้าไปมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตให้เด็กๆ ในประเทศบ้านเกิด ด้วยการสร้างโรงเรียนเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตอนาคตของชาติในวันข้างหน้า หลังต้องทนทุกข์จากสงครามกลางเมืองตลอด 20 ปีที่ผ่านมา

มานูเต้ โบล อดีตนักยัดห่วงชาวซูดาน ซึ่งเป็นเจ้าของตำแหน่งนักบาสเกตบอลที่สูงที่สุดที่เคยเล่นในเอ็นบีเอ ด้วยความสูง 7 ฟุต 7 นิ้ว (ประมาณ 2.31 เมตร) แสดงความหวังที่จะสานสันติภาพในแถบตอนใต้ของประเทศบ้านเกิด ซึ่งผู้คนกว่า 2 ล้านชีวิต ต้องรับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
อดีตนักแม่นห่วงสังกัด วอชิงตัน บูลเล็ตต์ส, โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส, ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส และ ไมอามี่ ฮีต กล่าวว่า ความฝันของผมคือการสร้างโรงเรียนในซูดานใต้ เพราะว่าการศึกษา ทำให้คุณมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีงานทำ และพัฒนาตัวเองได้ แต่พวกเราต้องสนับสนุนผู้คนใน ดาร์ฟูร์ ด้วย เพราะเหมือนกับพวกเราแหละ พวกเขาต้องทนทุกข์มากเหลือเกิน
อดีตผู้เล่นร่างโย่งวัย 46 ปี ได้รับการชักชวนจากโค้ชเกมแม่นห่วงระดับมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ซึ่งประทับใจฟอร์มการเล่นของเขาเมื่อครั้งไปเยือนหมู่บ้านเล็กๆ ในซูดาน แล้วชักชวนให้เดินทางมาในแดนสันติภาพ หลังจากนั้น เขาก็ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามในการเล่นบาสเกตบอลแดนลุงแซมตลอดเวลากว่า 10 ปี ตรงกันข้ามกับความขมขื่นของการสู้รบระหว่างกลุ่มกบฎทางใต้ในบ้านเกิด กับรัฐบาลซูดาน ซึ่งต้องสู้รบฆ่าฟันกันตลอดระหว่างปี 1983-2005
ในวันนี้ องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คาดการณ์ว่า สถานการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในดาร์ฟูร์ ซึ่งนองเลือดมาตลอด 6 ปี คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 300,000 ราย และทำให้ประชาชนกลายเป็นผู้ไร้บ้านอีกกว่า 2.7 ล้านคน สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเราทางตอนใต้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้คนใน ดาร์ฟูร์ เวลานี้ โบล กล่าว
ทั้งนี้ สงครามใน ดาร์ฟูร์ ทำให้เกิดมีผู้อพยพหลายพันคนย้ายถิ่นฐานไปตั้งรกรากในทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งพวกเขาได้รับการช่วยเหลือจากหลายองค์กร อย่างเช่น ซูดาน ซันไรซ์ ซึ่งรวบรวมอาสาสมัครจากมหาวิทยาลัย ไปช่วยสร้างโรงเรียนที่ถูกทำลายล้างจากสงครามระหว่างชนเผ่าทางเหนือ และใต้ ตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา
สำหรับ โบล เขาไม่เคยเข้าเรียนในโรงเรียน โดยในวัยเด็ก เขาทำได้แต่เลี้ยงวัว จนกระทั่งความสามารถในเชิงกีฬาบาสเกตบอลฉายแสงออกมา และจากการตรวจสอบของยูเอ็น พบว่ามีเด็กๆ ในซูดานใต้เพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่จบชั้นประถม เด็กๆ เป็นอนาคตของ ซูดาน โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าพวกเขามาจากชนเผ่าไหน อดีตนักบาสเกตบอลร่างโย่ง ทิ้งท้าย