โบโร่รัว4-1พลิกเข้ารอบชาลเก้ใส,เซบีญ่าฉลุย

โบโร่ มิดเดิ้ลสโบรช์ จากอังกฤษที่ตกเป็นรอง 2 ประตูจากนัดแรก สร้างปาฏิหาริย์สุดเหลือเชื่อ เมื่อกลับมาเปิดรังถล่ม บาเซิ่ล จากสวิตเซอร์แลนด์ ไปแบบสุดมันส์ 4-1 รวมสองนั้นเฉือนชนะ 4-3 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศต่อไป ด้าน ราชันสีน้ำเงิน ชาลเก้04 ซึ่งได้เปรียบจากการบุกไปคว้าชัยในนัดแรก 3-1 ทำได้แค่เสมอ เลฟสกี้ โซเฟีย 1-1 แต่ยังเข้ารอบ ขณะที่ เซบีญ่า เจ๊า เซนิท เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก 1-1 เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-2


ฟุตบอลยูฟ่า คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน 2549

มิดเดิ้ลสโบรช์ (อังกฤษ) 4 - บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์) 1
(รวมผล 2 นัด มิดเดิ้ลสโบรช์ ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 4-3)


โบโร่ ที่ตกเป็นรอง 2 ประตูจากนัดแรก เปิดบ้านรับมือทีมแกร่งจากแดนนาฬิกาอย่างบาเซิ่ล โดยนัดนี้ สตีฟ แม็คลาเรน ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ แต่แดนกลางไม่มีกาอิซก้า เมนดิเอต้า ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ต้องส่งฟาบิโอ โรเชมบัค คอยคุมเกม ส่วนแดนหน้าเป็นหน้าที่ของอเย็กบินี่ ยาคูบู จับคู่กับมาร์ค วิดูก้า

ส่วนทีมเยือนเป็นผู้เล่นจากนัดที่แล้วเป็นส่วนใหญ่ โดยมีอาติอัส เดลกาโด้ กองกลางอาร์เจนไตน์ คอยปั้นเกม ในแดนหน้ามีเอดูอาร์โด้ คอยป่วนล่าตาข่าย


ช่วง 10 นาทีแรกทั้งสองทีมยังคงดูเชิงกันอยู่ ทำให้ไม่มีโอกาสลุ้นมากนัก

มาถึงนาทีที่ 11 เป็นทีมเยือน ได้เสียวจากจังหวะที่มลาเดน เปตริช กลับตัวยิงในกรอบเขตโทษ ยังดีที่บอลไปตรงตัวมาร์ค ชวาเซอร์ นายทวารเจ้าถิ่น

ถ้ดจากนั้นอีก 2 นาที เจ้าถิ่นน่าจะได้ลูกโทษถึง 2 ครั้ง 2 ครา โดยจังหวะแรกเป็นมาร์ค วิดูก้า โดนกระแทกล้ม ขณะที่จังหวะที่ 2 เป็นยาคูบู โดนดาเนี่ยล มาจสโตโรวิช เสียบล้มลง

กลับเป็นบาเซิ่ล ที่ครองเกม และบุกได้ดีกว่า ก่อนมาได้ประตูออกนำ 1-0

ในนาทีที่ 23 จากจังหวะฟรีคิก ที่บอริส สมิลยานิช โหม่งชงจากทางเสาสองเข้ามาหน้าประตูให้เอดูอาร์โด้ วิ่งเข้ามาซัดง่ายๆ ตุงตาข่ายให้ทีมเยือนได้เปรียบสุดๆ

หลังเสียประตูโบโร่ เปิดเกมบุกอย่างหนัก เพราะต้องการยิงถึง 4 ประตูถึงจะเข้ารอบ และความพยายามมาสำเร็จผลในนาทีที่ 33 จากการที่ยาคูบู ต่อบอลให้มาร์ค วิดูก้า กระชากฝ่าแนวรับบาเซิ่ล ก่อนสับไกยิงบริเวณกรอบเขตโทษเข้าไปตุงตาข่าย ให้สกอร์เสมอกันที่ 1-1

เจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูออกนำสุดๆ ในนาทีที่ 43 เมื่อวิดูก้า พักอกให้ยาคูบู หมุมตัวซัดในกรอบเขตโทษ ทว่าปาสกาล ซูเบอร์เฮาเซอร์ โชว์ซูเปอร์เซฟ ปัดออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด ทำให้จบ 45 นาทีแรกทั้งสองยังเสมอกันอยู่ที่ 1-1

ครึ่งหลัง สิงห์แดง อยู่นิ่งไม่ได้ ต้องเปลี่ยน จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ หัวหอกดัตช์ ลงมาแทน เจมส์ มอร์ริสัน และก็มามีโอกาสทำประตูขึ้นนำก่อน เมื่อ วิดูก้า เอาบอลลงได้สุดเส้นหลัง ก่อนตบย้อนกลับมาหน้าประตูให้ สจ๊วร์ต พาร์นาบี้ วิ่งเข้ามาซัด แต่ไปติดบล็อกกองหลังบาเซิ่ล อย่างน่าเสียดาย

โบโร่ มาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จนได้ในนาทีที่ 57 เมื่อ ยาคูบู อเย็กเบนี่ จ่ายบอลทะลุช่องให้กับ มาร์ค วิดูก้า หลุดเข้าไปลากหลบ ซูเบอร์บูห์เลอร์ ก่อนยิงหนีตัวคุมเส้นอีกคนเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม ให้โบโร่ แซงนำ และต้องการอีก 2 ประตูเพื่อการผ่านเข้ารอบ

ถึงนาทีที่ 67 เจ้าถิ่นต้องเปลี่ยนกองหน้าลงสนามอีกคน โดยให้ มัสซิโม มัคคาโรเน่ ลงมาแทน ฟร้องค์ เกอดรู

จากนั้นสถานการณ์ของ บาเซิ่ล ก็ต้องมาแย่ลงอีกในนาทีที่ 73 เมื่อ ดาเนี่ยล มาจ์สโตโรวิช กองหลังตัวเก่ง มาโดนใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดง ถูกไล่ออกจากสนาม เนื่องจากไปเล่นถ่วงเวลา

จนกระทั่งนาทีที่ 78 โบโร่ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 3-1 จนได้ เมื่อ จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ ตัวสำรองตั้งป้อมสับไกระยะ 25 หลาเต็มเหนี่ยวบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม

แต่ช่วงเวลาที่เหลือ โบโร่ ใช้ความได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่น จนมาประสบความสำเร็จ ในนาทีที่ 90 เมื่อ มัสซิโม่ มัคคาโรเน่ ซัดประตูปาฏิหาริย์ให้โบโร่ขึ้นนำ 4-1 ซึ่งถ้าหากจบสกอร์นี้โบโร่จะผ่านเข้ารอบทันทีด้วยประตูรวม 4-3

จากนั้น โบโร่ เล่นด้วยกำลังใจจนจบเกม มิดเดิ้ลสโบรช์ เอาชนะ บาเซิ่ล ไปได้ 4-1 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปอย่างเหลือเชื่อ โดยจะพบกับ สเตอัว บูคาเรสต์ ของโรมาเนีย ต่อไป


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

มิดเดิ้ลสโบรช์ : มาร์ค ชวาเซอร์, สจ๊วต พาร์นาบี้, คริส ริกก็อตต์, แกเร็ธ เซาธ์เกต, ฟร้องค์ เกอดรู, เจมส์ มอร์ริสัน, จอร์จ บัวเต็ง, ฟาบิโอ โรเชมบัค, สจ๊วต ดาวนิ่ง, มาร์ค วิดูก้า, อเย็กบินี่ ยาคูบู

บาเซิ่ล : ปาสกาล ซูเบอร์เฮาเซอร์, เรโต้ ซานนี่, ดาเนี่ยล มาจสโตโรวิช, บอริส สมิลยานิช, บรูโน่ เบอร์เนอร์, เดวิด เดเก้น, มาติอัส เดลกาโด้, ปาป้า มาลิค บา, มลาเดน เปตริช, มิเล่ สเตอร์ยอฟสกี้, เอดูอาร์โด้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์