คนมันแรง!หัวขิงเบิ้ลหงส์ย้ำแค้นโอแอ็ม

"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลโชว์ลูกคัมแบ็คแซงเฮอีกแล้วหลังถูกโอลิมปิก มาร์เซย์ขึ้นนำไปก่อนแต่เจอทีเด็ดสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดกัปตันทีมเหมาสองประตูก่อนช่วยกันตั้งรับเกมบุกเป็นระลอกของเจ้าก่อนจนเบียดคว้าชัย 2-1 ประเดิมเปิดสนามแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างหวุดหวิด

บรรยายเกมโดยลูกแม่กิ่ง

มาร์กเซย์ 1-2 ลิเวอ์พูล

สนาม : สต๊าด เวโลโดรม

ประตู : 1-0 โลริค กานา น.23, 1-1 สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด น.26, 1-2 สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด น.32 (จุดโทษ)

เกมเริ่มต้นมาด้วยความรัดกุมของทั้งสองทีมที่ยังไม่ได้เดินเครื่องลุยกันเต็มตัว แต่ลิเวอร์พูลก็มาทักทายแบบสะกิดๆก่อนจากจังหวะลูกเตะมุมเจอร์ราร์ด เตะเข้ามามาร์กเซย์ โหม่งสกัดไม่ขาดมาเข้าหัวตอร์เรส โขกสวนแต่ลูกเบาเกินไปทำให้โดนมองดองด้า ปัดพ้นคานได้

ช็อตนี้กลายเป็นการเปิดสวิตช์เกมที่เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆและทั้งสองทีมก็น่าจะได้ประตูขึ้นนำ โดยเป็นทางมาร์กเซย์ที่ได้เสียวหนักๆก่อนจากจังหวะที่แนวรับลิเวอร์พูล เช็กล้ำหน้าพลาดทำให้เนียงได้หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับเรน่า แต่โดนมาสเคราโน่วิ่งไล่หลังมากดดันทำให้ยิงข้ามคานออกไป

หงส์แดง มาโต้กลับได้ดีในจังหวะที่เคาท์ชงบอลให้บาเบิล พลิกหลบตัวประกบได้สวยในเขตโทษก่อนจะซัดเต็มข้อแต่ลูกข้ามคานอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่เคาท์จะทำชิ่งเนียนๆให้เจอร์ราร์ด เติมมายิงอีกครั้งโดนมองดองด้า พุ่งปัดได้หวุดหวิด

เกมตื้อกันมาถึงนาทีที่ 23 ความผิดพลาดในแนวรับของทีมเยือนก็โดนลงโทษจนได้เมื่อลิเวอร์พูลเช็คล้ำหน้าพลาดอีกครั้งโดยเป็นคาร์ราเกอร์ ที่ยืนห้อยเป็นตัวสุดท้ายพยายามวิ่งย้อนขึ้นมาแต่ไลน์มันฟ้องชัดเจนทำให้โลริค กานา กัปตันโอแอ็มวิ่งสวนทะลุขึ้นไปรับลูกหยอดจากเชย์รู ก่อนเข้าไปยิงสวนตัวเรน่าง่ายๆให้มาร์กเซย์ขึ้นนำ 1-0

แต่อีกแค่ 3 นาทีต่อมา อดีตแชมป์ 5 สมัยก็มาไล่ตีเสมอได้ทันควันจากเกมสวนกลับเร็ว เมื่อตอร์เรส ฉกบอลได้ที่กลางสนามก่อนจะจ่ายให้เคาท์ ที่เติมขึ้นมาตบกลับถึงเจอร์ราร์ด โชว์ลูกยิงระดับเวิลด์คลาสด้วยการปั่นบอลโค้งมุดสามเหลี่ยมเสาไกลไปชนิดที่มองดองด้า ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรทั้งสิ้นนอกจากการไปเก็บบอลที่ก้นตาข่าย

ได้คืนมาเร็วแบบนี้ลิเวอร์พูลก็มั่นใจมากขึ้น และอีก 6 นาทีต่อมาก็มาได้ประตูแซงขึ้นนำ 2-1 จากเกมสวนกลับเร็วอีกครั้ง โดยเป็นเรน่า ที่เตะจากประตูสวนตูมเดียวมาให้บาเบิล เก็บบอลได้ก่อนจะลากจี้แล้วสับขาหลอกซูบาร์จนหลงทางก่อนจะโดนหวดร่วง และเป็นสตีวี่จีเจ้าเก่าที่ขออาสายิงเอง โดยลูกแรกยิงมุมขวาชนเสาเข้าไปแต่ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่ แต่ไร้ผลเพราะเจอร์ราร์ด ก็ยังยิงเข้ามมุเดิมอยู่ดี หมดครึ่งแรกทีมเยือนบุกมานำอยู่ 2-1

เข้าสู่ครึ่งหลังความพยายามของเจ้าถิ่นได้เพิ่มแรงกดดันต่อลิเวอร์พูลที่เริ่มทำอะไรไม่ถูกนอกจากลงไปตั้งรับอย่างเดียวจนเกือบเสียท่าโดนตีเสมอ 2 ครั้งจากลูกโขกของฮิลตัน ที่ตรงตัวเรน่า ก่อนที่ซิยานี่ ตัวสำรองจะตอกส้นคืนมาให้วัลบูเอน่า เติมมาซัดด้วยขวาเน้นๆข้ามคานออกไป

ราฟาพยายามแก้เกมด้วยการถอดเจอร์ราร์ดกับตอร์เรส ที่ไม่ค่อยฟิตออกไป ซึ่งช่วงนี้หงส์แดงโงหัวแทบไม่ขึ้นก็จริงแต่ก็เกือบจะได้ประตูหนีห่างอีกจากจังหวะที่ริเอร่า กระชากหลุดไปทางซ้ายก่อนเปิดมากลางประตูเบนายูนชาร์จไม่ทัน มาเข้าทางบาเบิลหน้าปากประตูได้ซัดเต็มๆแล้วแต่กลับยิงไปติดมองดองด้าแบบเหลือเชื่อ

ช่วงเวลาที่เหลือหงส์แดงก็ยังคงเน้นการอุดแล้วสวนกลับเอาอย่างเดียวเท่านั้น ขณะที่มาร์กเซย์ก็เล่นอย่างอดทนและน่าจะตีเสมอได้จากลูกโขกจ่อๆของเนียงจากระยะ 6 หลาเท่านั้นแต่ก็พลาดไปอีก

โอแอ็มไม่ยอมแพ้ และควรจะได้ประตูตีเสมอมากที่สุดในช่วงนาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บจากเนียง คนเดิมที่ได้บอลโขกชงมาเข้าทางก่อนที่จะอัดเรียดด้วยขวาแต่ดันตรงตัวเรน่าที่เตะทิ้งออกไปได้หวุดหวิด ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดให้ "หงส์แดง" ได้หายใจทั่วท้องอีกครั้งหลังโดนยำจนน่วมไปหมด

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

มาร์กเซย์ : สตีฟ มองดองด้า 7, โลร็องต์ บงนาร์ต 7, โรนัลด์ ซูบาร์, วิตอริโน ฮิลตัน 7, ตาเย ตาอิโว 6, โลริค กานา 7.5, เบอนัวต์ เชย์รู 8, บาการี่ โคเน่ 7.5(มามาดู ซามาสซ่า น.75,6) , โมเดสต์ เอ็มบามี่ 5.5(มาติเยอ วัลบูเอน่า น.41) , ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา 6(คาริม ซิยานี่ น.57,6) , มามาดู เนียง 7

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ มานูเอล เรน่า 8.5*, อัลบาโร่ อาร์เบลัว 7, มาร์ติน สเคอร์เทล 6.5, เจมี่ คาร์ราเกอร์ 8, อันเดรีย ดอสเซน่า 6.5, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ 6.5, ลูคัส ไลวา 6, เดิร์ค เคาท์ 7(ร็อบบี้ คีน น.86) , สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 7.5 (ยอสซี่ เบนายูน น.69,5.5) , ไรอัน บาเบิล 7, เฟร์นันโด ตอร์เรส 6(อัลเบิร์ต ริเอร่า น.65,6)

ผู้ตัดสิน : คอนราด เพลาตซ์