เรือดุยำปอมปีย์10ตัว3-1

เรือดุยำปอมปีย์10ตัว3-1

เรือดุยำปอมปีย์10ตัว3-1

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ฟอร์มแรงปลายซีซั่นหลังเปิดบ้านถองปอร์ทสมัธที่รอเล่นเอฟเอ คัพนัดชิงอย่างเดียวสบาย 3-1 โดยเดวิด เจมส์ทำเฟอะฟะจนทีมเสียประตูแรกก่อนจะมาเสียไฮร์ดาร์สสันที่ถูกไล่ออกให้ตกที่นั่งลำบากหนักเข้าไปอีก

แมนฯซิตี้ 3-1 ปอร์ทสมัธ

สนาม :
ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์

ประตู : 1-0 ดาริอุส วาสเซลล์ น.11,2-0 มาร์ติน เปตรอฟ น.13,2-1 จอห์น อูทาก้า น.24,3-1 เบนจานี่ เอ็มวารูวารี น.74

ผู้ชม : 40,205 คน


ออกสตาร์ตขึ้นมาเป็นทางปอร์ทสมัธ ที่ได้ทักทายก่อนจากบูบ้า ดิยอปที่ตะบันยิงไกลกว่า 30 หลา แต่ทว่าโจ ฮาร์ทยังไม่ได้ยืนเหม่อ เซฟเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

แต่ทว่าพอผ่านพ้นไปสิบนาทีปุ๊บ ก็เป็นทางทีมเรือใบสีฟ้า ที่สามารถยึดครองเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1 -0 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่เดวิด เจมส์ กับโซล แคมป์เบลล์ ไม่ยอมให้เสียงกัน จึงโดนเบนจานี่ โฉบแย่งบอลไปดื้อๆ ก่อนจ่ายต่อให้สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ชิ่งไปให้ดาริอุส วาสเซลล์ พุ่งเข้าชาร์จจากระยะ 2 หลาเข้าไปแบบหมูสุดๆ

และพอยิงประตูได้ปั๊บ ประตูก็ไหลมาเทมาทันที อีกแค่ 2 นาทีจากนั้น มาร์ติน เปตรอฟ ก็โชว์ทักษะล็อกหลบโลรอง เอตาเม่จนหัวทิ่ม ก่อนจะยิงเข้าไปกลางประตู บอลไปแฉลบแคมป์เบลล์เปลี่ยนทางเข้าตุงตาข่ายไปเลย ส่งผลให้สกอร์ขยับเป็น 2-0 แล้ว

อย่างไรก็ตามทีมปอมปีย์ยังไม่ถอดใจง่ายๆ และนาทีที่ 24 ก็มาทวงคืนได้หนึ่งเม็ด จากจังหวะที่นิโก้ ครานชาร์ ครอสบอลเข้า มากลางประตู เจอร์เมน เดโฟ โหม่งชิ่งต่อให้ จอห์น อูทาก้า วิ่งมาตวัดบอล ผ่านตัวโจ ฮาร์ท ที่กระโดดมาบล็อกเข้าไปหน้าตาเฉย ทำให้ตอนนี้ สกอร์กลายมาเป็น 2-1 แล้ว

ตอนนี้ปอร์ทสมัธเดินเครื่องมาเรื่อยๆ จนมีโอกาสจะได้จบสกอร์ตีเสมอหลายครั้ง แต่ทว่าเกมกลับพลิกรูปโฉมไปดื้อๆ จากจังหวะที่ เฮอร์มัน ไฮดาร์สสัน ไปทำโปรเฟสชันนอล ฟาวล์ใส่ดาริอุส วาสเซลล์ จึงทำให้ผู้ตัดสินมาร์ริเนอร์ เดินมาควักใบแดงไล่ไฮดาร์สสันออกจากสนาม ทันที

ซึ่งการโดนไล่ออกครั้งนี้ ทำให้ไฮดาร์สสัน จะไม่สามารถลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่เหลือได้เลยจนจบฤดูกาล ยกเว้นเสียแต่ว่าจะ อุทธรณ์ผ่าน

เข้าสู่ครึ่งหลัง เกมเดินหน้าเปิดแลกกันอย่างเมามันเลือดสาดสุดๆ โดยเป็นทางแมนฯซิตี้ที่ได้โอกาสก่อน ในนาทีที่ 55 จากการดูด บอลที่สวยงามของเบนจานี่ ก่อนวอลเลย์เปรี้ยงด้วยขวาก่อนบอลตกพื้น ทว่าดันคุมบอลไม่ดี ลูกเหินข้ามคานอยางน่าเสียดายสุดๆ

แต่ทว่าโอกาสในนาทีถัดมาของปอร์ทสมัธยิ่งน่าเสียดายกว่านั้นมาก เมื่อซุลเลย์ มุนตารี ฉีกไปจนเจอช่องว่างให้ลองยิง ลูกพุ่งแรง ไปที่เสาแรก และก็ชนเสาโครมเบ้อเร้อ บอลไหลมาเข้าทางปืนอูทาก้า ได้ซ้ำอีกดอก แต่ลูกก็พุ่งไปชนโคนเสาอีกข้าง ออกหลังไปซะอีก

เกมของทั้งคู่อาจจะสูสีกันก็จริง แต่พอนานๆเข้า การเหลือสิบคนของปอร์ทสมัธก็เริ่มส่งผล และทำให้เกมรับเริ่มรวน จนมาถึงนาทีที่ 74 ก็ต้องเสียประตูที่ 3 จนได้ จากพรสวรรค์ของเบนจานี่ ที่ล็อกซิลแว็ง ดิสแต็ง จนถลำไปไกลเป็นเมตร ก่อนซัดเน้นๆเสียบเสาแรกอย่างสวย งาม ส่งให้เรือใบนำเป็น 3-1 แล้ว

จากจังหวะนี้ มีช็อตน่าประทับใจเล็กๆ คือเบนจานี่ ยิงทีมเก่าได้ ก็ไม่แสดงอาการดีใจเลยแม้แต่น้อย แค่เดินซึมๆกลับมาที่วงกลม กลางสนามเท่านั้น ซึ่งจากจังหวะนี้ก็เรียกเสียงเฮ จากแฟนๆทั้งสองทีมได้มากโขทีเดียว

พอสกอร์ขยับห่างสองลูกแมนฯซิตี้ก็เริ่มผ่อนเกมแล้ว ทำให้ปอมปีย์มีโอกาสได้ยิงจะจะอีกสองสามครั้ง จากมิลาน บารอส กับฌอน เดวิส แต่ทว่าโจ ฮาร์ทยังสกัดกั้นเอาไว้ได้ทั้งหมด

สุดท้ายหมดเวลา 90 นาที เรือใบจึงไล่อัดปอร์ทสมัธอย่างสบายๆ 3-1 ขึ้นแท่นมาอยู่อันดับ 8 จ่ออยู่ข้างหลังปอมปีย์แค่ 2 แต้มเท่า นั้น


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม/คะแนนความสามารถ

แมนฯซิตี้ :
โจ ฮาร์ท 7,เวดราน คอร์ลูก้า 7,ริชาร์ด ดันน์ 7(แซม วิลเลียมสัน 6 น.54),ไมเคิล บอล 6,เฟอร์นันเดส เกลสัน 6,สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ 7(จิโอวานนี่ 6 น.75),ไมเคิล จอห์นสัน 6,เอลาโน่ 6(เฟลิเป้ ไซเซโด้ 5 น.90),มาร์ติน เปตรอฟ 7,ดาริอุส วาสเซลล์ 8,เบนจานี่ เอ็มวารูวารี 8

สำรองไม่ได้ลงสนาม : อันเดรียส อิซาคส์สัน,เนรี่ คาสตีโญ่

ใบเหลือง : แซม วิลเลียมสัน

ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์ 5,โลรอง เอตาเม่ 6,โซล แคมป์เบลล์ 5,ซิลแว็ง ดิสแต็ง 5,เฮอร์มัน ไฮดาร์สสัน 4,จอห์น อูทาก้า 7(มิลาน บารอส 5 น.75),ซุลเลย์ มุนตารี่ 6,ลาซซาน่า ดิยาร์ร่า 6,ปาป้า บูบ้า ดิยอป 6(ลูเซียง อูเบย์ 5 น.75),นิโก้ ครานชาร์ 6(ฌอน เดวิส 6 น.83),เจอร์เมน เดโฟ 7

สำรองไม่ได้ลงสนาม : อัสเมียร์ เบโกวิช,เดวิด นูเจนท์

ใบเหลือง : โลรอง เอตาเม่

ใบแดง : เฮอร์มัน ไฮดาร์สสัน



ขอขอบคุณข่าวคุณภาพดีจากซ็อคเกอร์






















เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์