เปิดโผคู่ชก‘บัวขาว’โหดทุกตัวศึก‘ท็อปคิง’รอบไฟนัลที่ฮ่องกง

นอกจาก ′แบล็กโกลด์′ บัวขาว (ป.ประมุข) บัญชาเมฆ ยอดมวยไทยแห่งยุคจะเป็น′เต็งหนึ่ง′และตัวชูโรงแล้ว คู่ต่อสู้ทั้ง 3 รายล้วนอันตรายไม่แพ้กัน

จากการเปิดเผยของ เสี่ยหนุ่ม นริศ ว่องประเสริฐการ โปรโมเตอร์ผู้จัดศึกแย้มพรายให้ทราบว่า ศึกครั้งนี้แม้บัวขาวจะเป็นตัวเต็งในรายการ แต่ต้องจับสลากประกบคู่ เพื่อคัดผู้ชนะเข้าสู่รอบชิงและชกรู้ผลในวันเดียวกัน ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับยอดมวยไทยในวัย 33 ปี เพราะตามกฎชก 3 ยก หากยังไม่รู้ผลแพ้ชนะจะต้องชกยกพิเศษเป็นยกที่ 4 ด้วย ขณะที่คู่ต่อสู้ทั้ง 3 รายนั้น ล้วนอันตรายพอๆ กัน

เริ่มจาก มารัต กรีกอเรียน (Marat Grigorian) นักชกเบลเยี่ยมเชื้อสายอาร์เมเนีย วัย 24 ปี สูง 176 ซม. สถิติชนะ 44 (น็อก 25) แพ้ 7 เสมอ 1 ล่าสุดคว้าแชมป์ เค-1 เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ที่ญี่ปุ่น ในรอบไฟนัลที่โตเกียว ด้วยการชนะคู่ต่อสู้วันเดียวกัน 3 รายรวด และเป็นการชนะน็อกคู่ชกทั้งสิ้น จากการเตะซ้ายน็อก โยฮิชิ ยามาซากิ (ญี่ปุ่น) ยก 2,ฮุคซ้ายลำตัว น็อก มากิฮิระ เคอิตะ(ญี่ปุ่น) ยก 2 และคว้าแชมป์ในรอบชิงชนะเลิศด้วยการต่อยน็อก จอร์แดน พิเกอร์(ฮอลแลนด์) แค่ยกแรกเท่านั้น แม้ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนเม.ย.จะเคยแพ้คะแนน ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ แบบโดนเตะจนแขนไหม้ในศึกคุนหลุนไฟต์ ที่เมืองจีนแล้ว ถือได้ว่ามารัตเป็นมวยอันตรายที่ก้าวขึ้นมาร้อนแรงอย่างสุดๆ ในยามนี้

ส่วนรายที่ 2 รีซ แม็กอัลลิสเตอร์ (REECE MCALLISTER) นักชกเครือจักรภาพ สถิติ ชนะ 46 แพ้ 6 เสมอ 1 ฝึกมวยไทยอย่างช่ำชอง ถึงขนาดสักชื่อ "ฟีนิกซ์" เป็นภาษาไทยที่เอวด้านขวา ดีกรีแชมป์ WMC ปี 2014 อายุ 24 ปี สูงยาวถึง 183 ซม. เป็นมวยผ่านการชกในศึก"กลอรี่"มีดีกรีอันดับ 18 แต่สไตล์การชก แม้จะสูงยาวทว่าออกอาวุธเตะต่อยได้หนักหน่วง ผ่านรอบ 3 ศึกท็อปคิง เวิลด์ ซีรี่ส์ ที่ฮ่องกง เมื่อ 20 ธ.ค.2014 ด้วยการชนะทีเคโอ มาร์ชีน ปาร์เชียต้า(โปแลนด์) แค่ยกแรกเท่านั้น

ด้านรายที่ 3 คาอัล ซานิเยฟ (Khayal Dzhaniev) นักชกรัสเซีย อายุ 21 ปี สูง 175 ซม. ชนะ 9 (น็อก 8) แพ้ 2 หุ่นหนาล่ำปึ้ก เดินชนไล่บดตลอด ชนะคะแนน นิคลาส ลาเซ่น จากเดนมาร์ก ในท็อปคิง เวิลด์ ซีรี่ส์ รอบ 3 ก่อนหน้านี้ ที่ผ่านมาเคยชนะคะแนน สิงห์เดช ศิษย์ยอดธง และแม้จะเคยแพ้หมดทางสู้ ธงชัย ศิษย์สองพี่น้อง มาก่อน แต่ชั่วโมงนี้ ถือเป็นมวย"ม้ามืด"ที่น่าจับตาและประมาทไม่ได้เลยทีเดียว

เสี่ยหนุ่ม โปรโมเตอร์ท็อปคิง กล่าวอีกว่า เมื่อเทียบกับบัวขาว ซึ่งผ่านการชกมาอย่างถี่ยิบในช่วง 3 ไฟต์ล่าสุด ถือว่า นักชกไทยจะประมาทไม่ได้อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะจับสลากพบกับใคร ที่สำคัญหากผ่านรอบแรก และเข้าชกในรอบชิง ถ้าการชกสูสีคู่คี่ บัวขาวอาจจะต้องชกยกพิเศษด้วย เมื่อรวมแล้วอาจต้องยืนระยะชกถึง 8 ยกในวันเดียว ถือเป็นเรื่องน่าหวั่นใจไม่น้อย อย่างไรก็ตาม การชกครั้งนี้ บัวขาวจะได้ค่าเหนื่อยกรณีพิเศษถึง 2.5 ล้านบาท หากได้แชมป์ในรอบไฟนัลนี้ ก็จะได้เงินรางวัลอีก 2 ล้านบาท รวมเป็นเงินล่อใจสูงถึง 4.5 ล้านบาท ซึ่งไม่มีนักมวยไทยคนใดเคยได้มากเช่นนี้