ผีปึ้กข่มแมวดำไม่แพ้คารัง44ปี

'ผี'ปึ้กข่มแมวดำไม่แพ้คารัง44ปี

'ปีศาจแดง' รอเปิดบ้านข่ม 'แมวดำ' ศึกพรีเมียร์ลีก คืนวันที่ 15 ธ.ค. ขณะที่ 'เรือใบสีฟ้า' บุกเยือน 'สาลิกาดง' ส่วน 'หงส์แดง' เฝ้ารังรับ 'สิงห์ผงาด'

 

                        ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคมนี้ มีโปรแกรมฟาดแข้งทั้งหมด 6 คู่ เริ่มจาก "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง แข่ง 16 นัด มี 39 แต้ม เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ทีมอันดับ 15 แข่ง 16 นัด มี 16 แต้ม ในเวลา 22.00 น. เกมนี้ "เฟอร์กี้" เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือเจ้าถิ่นพร้อมจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงเล่นเหมือนเดิม เพราะไม่มีปัญหาเรื่องแข้งหลักได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม แถมยังมีลุ้นได้ตัว เนมันยา วิดิช กองหลังกัปตันทีมที่เพิ่งหายเจ็บพร้อมกลับมาช่วยแนวรับอีกด้วย เพื่อหวังเก็บชัยชนะพร้อมกับรักษาช่องว่างของคะแนนที่นำห่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี ทีมอันดับ 2 อยู่ถึง 6 แต้ม

                        คาดว่า ดาวิด เดอ เกีย น่าจะได้เฝ้าเสาเป็นนายทวารมือหนึ่งต่อไป ส่วนแนวรับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ พร้อมคู่คุมแผงหลังร่วมกับ จอนนี อีแวนส์, ราฟาเอล และปาทริซ เอวรา เหมือนเดิม แม้จะเพิ่งได้รับบาดเจ็บคิ้วแตกจากเกม "แมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมทช์" เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ก่อนก็ตาม ส่วนในรายของ วิดิช น่าจะเป็นเพียงแค่ตัวสำรองไปก่อน ขณะที่แดนกลางยังเป็นหน้าที่ของ ไมเคิล คาร์ริค, ทอม เคลเวอร์ลีย์, หลุยส์ อันโตนิโอ วาเลนเซีย และแอชลีย์ ยัง สำหรับคู่หัวหอกเป็นการประสานงานร่วมกันของ เวย์น รูนีย์ กับ "อาร์วีพี" โรบิน ฟาน เพอร์ซี เพื่อลุ้นสานต่อสถิติที่สุดข่มทีมเยือน เพราะไม่เคยเป็นฝ่ายแพ้ "แมวดำ" คาถิ่นของตัวเองมานานถึง 44 ปีแล้ว นับตั้งแต่หนล่าสุดที่เฝ้ารังแพ้ ซันเดอร์แลนด์ 1-2 ในศึกดิวิชั่น 1 เดิม เมื่อปี 1968    

                        ด้านทีมเยือนของ มาร์ติน โอนีล สามารถเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้อีกครั้ง หลังหยุดสถิติไม่ชนะใครมานานถึง 4 เกมได้สำเร็จ เพราะเพิ่งเปิดบ้านชนะ เรดดิง 3-0 เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะเหนื่อยล้ามาจากเกมดังกล่าว แต่คาดว่าพวกแข้งหลักอย่าง ไซมอน มิกโนเลต์, จอห์น โอเชีย, อดัม จอห์นสัน, สเตฟาน เชสเซญอง และสตีเวน เฟลทเชอร์ น่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเหมือนเดิม   

                        ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี ทีมอันดับ 2 แข่ง 16 นัด มี 33 แต้ม ต้องยกพลบุกไปเยือน "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ทีมอันดับ 14 แข่ง 16 นัด มี 17 แต้ม ที่เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ในเวลา 19.45 น. นัดนี้ "มันโช" โรแบร์โต มันชินี กุนซือทีมเยือนตั้งเป้าหวังเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อทำคะแนนไล่จี้ทีมจ่าฝูงต่อไป แม้จะต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ แวงซองต์ กอมปานี และเจมส์ มิลเนอร์ ที่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แต่สามารถใช้งานพวกดาวดังอย่าง โจ ฮาร์ท, กาเอล กลิชี, ยายา ตูเร, คาร์ลอส เตเบซ และ เซอร์จิโอ อเกโร ได้ทั้งหมด แถมยังพกสถิติข่มเจ้าถิ่นอีกด้วย เพราะไม่เคยบุกไป "สาลิกาดง" มานานถึง 7 ปีแล้ว นับตั้งแต่หนล่าสุดที่เฝ้ารังแพ้ นิวคาสเซิล 0-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2005     

                        ด้าน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 10 แข่ง 16 นัด มี 22 แต้ม พร้อมเปิดถิ่นแอนฟิลด์ต้อนรับ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลลา ทีมอันดับ 16 แข่ง 16 นัด มี 15 แต้ม ในเวลา 22.00 น. เกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือเจ้าบ้านยังต้องเช็กสภาพความฟิตของ โฆเซ เอนริเก ที่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน แต่จะสามารถใช้งาน หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงตัวเก่งที่เพิ่งพ้นโทษแบน 1 นัดได้ตามปกติ เช่นเดียวกับพวกแข้งหลักอย่าง โฆเซ เรนา, ดาเนียล แอ็กเกอร์, เกลน จอห์นสัน และ สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่ยังคงพร้อมลงเล่นตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเดิม

                        ส่วนโปรแกรมคู่อื่นลงเตะในเวลา 22.00 น. นอริช (12) พบ วีแกน (17), ควีนส์ปาร์ค (20) พบ ฟูแลม (13), สโตค (9) พบ เอฟเวอร์ตัน (4)


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์