การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ เอมี่ ไวน์เฮาส์ นักร้องสาวแนวโซล แจ๊ส และคลาสสิคป๊อบ ด้วยวัยเพียง 27 ปี ทำให้เกิดกระแสหนึ่งขึ้นมาในอินเทอร์เน็ตว่า ดูท่าแล้วเลข 27 นี้จะเป็นอาถรรพ์สำหรับคนดังในวงการหรือเปล่า เพราะมีศิลปินหลายรายแล้ว โดยเฉพาะศิลปินที่ร้องเพลงแนวบลูส์ หรือร็อก ที่ต้องลาโลกไปทั้งที่ยังเป็นหนุ่มสาวในวัย 27 เท่านั้น โดยบนอินเทอร์เน็ตนั้นถึงกับมีการตั้งคลับที่เรียกว่า Forever 27 Club ซึ่งได้รวบรวมรายชื่อศิลปินที่ทั้งโด่งดังหรือแม้กระทั่งรู้จักในวงแคบ ๆ ที่เสียชีวิตด้วยวัย 27 ปี เอาไว้ โดยมี เอมี่ ไวน์เฮาส์ เป็นศิลปินคนล่าสุดที่มีชื่ออยู่ในลิสต์นี้
แม้ไม่อาจทราบได้อย่างแท้จริงว่า เลข 27 นี้มีอาถรรพ์เกี่ยวข้องกับการตายของเหล่าศิลปินทั้งหลายจริงหรือไม่ วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาคุณไปรู้จักกับบรรดาศิลปินที่จากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียง 27 ปี ทิ้งเอาไว้เพียงผลงานของพวกเขาให้เราได้จดจำกันเท่านั้น
นักร้องผิวดำ ชาวอเมริกัน โรเบิร์ต จอห์นสัน เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2454 เขาเป็นนักร้องเพลงบลูส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จนได้รับการเรียกขานว่าเป็น ราชาเพลงบลูส์ และถือว่าเขาเป็นบิดาของเพลงร็อกแอนด์โรลสมัยใหม่ด้วย นอกจากนี้เขายังถูกกล่าวถึงจากศิลปินดังอย่าง อีริค แคลปตัน ว่า เป็นนักร้องเพลงบลูส์คนสำคัญที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา เพลงฮิตของ จอห์นสัน ได้แก่ Come on in My Kitchen, Sweet Home Chicago และ Crossroad Blues แม้แผ่นของเขาจะขายไม่ดีนักในช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อได้รับการนำมาจัดจำหน่ายใหม่อีกครั้งในปี 2504 กลับได้รับความนิยมอย่างน่าตกใจ
นอกจาก โรเบิร์ต จอห์นสัน จะถูกกล่าวถึงในฐานะราชาเพลงบลูส์ แล้ว เขายังถูกกล่าวถึงในฐานะสมาชิกคนแรกของ Forever 27 Club ที่ได้รวบรวมรายชื่อศิลปินทั้งหลาย ซึ่งมักเป็นนักร้องเพลงร็อกและแนวบลูส์ ที่ลาโลกนี้ไปด้วยวัย 27 ปี มีเรื่องเล่าของจอห์นสันว่า เขาได้ขายวิญญาณให้กับซาตาน แลกกับความเป็นเลิศทางดนตรี โดยแรกเริ่มนั้นฝีมือการเล่นกีตาร์ของเขาจัดว่าธรรมดา แต่จู่ ๆ ความสามารถก็มาสู่ตัวเขาแบบที่คนใกล้ตัวยังประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงนี้ เมื่อเขาได้ความสามารถและประสบความสำเร็จตามต้องการ ในที่สุดซาตานก็กลับมาทวงวิญญาณเขาไปตามสัญญา เมื่อเขาอายุได้ 27 ปี เรื่องราวนี้ของเขายังถูกนำไปดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Crossroads ในปี 2529 อีกด้วย
จอห์นสัน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2481 ที่เมืองกรีนวูด รัฐมิสซิซิปปี้ ด้วยอาการทรมานจากยาพิษที่ถูกผสมในวิสกี้ ซึ่งว่ากันว่าถูกวางยาโดยสามีของสาวนางหนึ่งที่จอห์นสันได้ไปเกี้ยวพาราสี นับเป็นการปิดตำนานราชาเพลงบลูส์ และเป็นบทเริ่มต้นของความเชื่อ อาถรรพ์เลข 27 นี้เอง
รูดี้ ลิวอิส เป็นนักร้องผิวสีแนวอาร์แอนด์บี จากวงอเมริกันนาม Drifters ซึ่งเป็นวงที่มีการเปลี่ยนตัวนักร้องนำอยู่เนือง ๆ โดย ลิวอิส ได้เป็นนักร้องนำให้กับ Drifters ในช่วงปี 2503-2506 ด้วยเสียงนุ่มทุ้มหวานของเขา จึงถูกนำไปเปรียบเทียบกับ เบ็น อี คิง นักร้องผิวดำอีกคน ที่มาร้องเพลงให้กับ Drifters เช่นกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ด้วยความที่มาทีหลังจึงทำให้ ลิวอิส ไม่ดังเปรี้ยงมากนัก อย่างไรก็ตาม ลิวอิส ได้สร้างเพลงฮิตอย่าง “On Broadway” และ “Up on the Roof” ให้กับวง
ลิวอิส เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2507 ด้วยการเสพยาเกินขนาด แต่เพื่อนของเขาบางคนก็กล่าวว่าลิวอิสน่าจะเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจขณะนอน เนื่องจากสำลักอาหารที่กินเข้าไป
ไบรอัน โจนส์ ผู้ก่อตั้งและกีตาร์ของวงร็อกชื่อดัง Rolling Stones เกิดเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2485 โจนส์ มีชื่อเสียงในฐานะสมาชิกวง Rolling Stones นอกจากนี้เขายังถือว่าเป็นนักดนตรีที่มีพรสวรรค์สูง โดย โจนส์ สามารถเรียนการใช้เครื่องดนตรีชิ้นหนึ่งได้อย่างรวดเร็วไม่ถึงชั่วโมง แม้เขาจะไม่เคยจับต้องเครื่องดนตรีชิ้นนั้นมาก่อนเลยก็ตาม โจนส์รวบรวมสมาชิกและก่อตั้งวง Rolling Stones ขึ้นในปี 2506 แต่ในปี 2512 เขาก็ถูกตัดออกจากการเป็นสมาชิกของวง ด้วยสาเหตุเรื่องการติดยาเสพติด และอารมณ์ที่ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่บ่อยครั้งจนเป็นปัญหาให้กับสมาชิกร่วมวงรายอื่น ๆ ทั้งในปีก่อนหน้านั้นเขายังถูกจับกุมเป็นครั้งที่สอง ด้วยข้อหามีกัญชาในครอบครองด้วย หลังถูกตัดออกจากการเป็นสมาชิกของวง โจนส์ เคยพยายามตั้งวงของตัวเองขึ้นใหม่ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
โจนส์ เสียชีวิตลงด้วยวัย 27 ปี เช่นเดียวกัน ศพของเขาถูกพบที่ก้นสระว่ายน้ำของตัวเอง ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2512 ตำรวจสรุปสาเหตุการตายของเขาว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่กระนั้นสาเหตุการตายที่แท้จริงของเขาก็ยังคงเป็นปริศนา บ้างเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุจริง ๆ แต่บ้างก็ว่าเขาจมน้ำตายเพราะมึนเมาสุราและสารเสพติด
จิมิ เฮนดริกซ์ หรือบางคนอาจรู้จักเขาในชื่อ มอริซ เจมส์ เป็นมือกีตาร์ นักร้อง นักแต่งเพลงชาวอเมริกัน โดยเขาได้ชื่อว่าเป็นมือกีต้าร์ไฟฟ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรีร็อก และมีอิทธิพลต่อดนตรีหลาย ๆ แนว ในยุคเดียวกับเขาด้วย เฮนดริกซ์ เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2485
จิมิ เฮนดริกซ์ โด่งดังกับวงของเขา The Jimi Hendrix Experience ที่ก่อตั้งในปี 2503 โดยมีเขาควบตำแหน่งนักร้อง มือกีตาร์ และแต่งเพลง เรียกได้ว่าเขามีความสามารถรอบด้าน และแม้ว่าสมาชิกของวงจะขอแยกตัวออกไปจนต้องยุบวงในปี 2506 แต่ เฮนดริกซ์ ก็ได้ฟอร์มวงใหม่ขึ้นมาในชื่อ Band of Gypsys ซึ่งใช้เวลาในการอัดเพลงเพื่อทำอัลบั้มแรกและอัลบั้มสุดท้ายของวงเพียง 2 คืนเท่านั้น คือ คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2512 และ 1 มกราคม 2513 ซึ่งอัลบั้มที่ปล่อยออกมาก็ไต่อันดับได้ถึงอันดับที่ 5 ในสหรัฐฯ และอันดับที่ 6 ในอังกฤษ ก่อนที่ เฮนดริกซ์ จะเสียชีวิตลงในวันที่ 18 กันยายน 2513 ในลอนดอน จากการดื่มไวน์ผสมกับเวสพาแรกซ์ (Vesparax) ซึ่งเป็นยานอนหลับ และไม่สมควรดื่มร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นอย่างยิ่ง เฮนดริกซ์ อาเจียนออกมาอย่างหนักจนสำลักและขาดอากาศหายใจ ถึงแก่ชีวิตในที่สุด
นักร้องชาวอเมริกัน จานิส จ็อพลิน เกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2486 เธอเป็นนักร้องนำของวง Big Brother and the Holding Company ชื่อเสียงของเธอเป็นที่รู้จักดีในนาม ราชินีเพลงร็อกแอนด์โรล และการร้องเพลงแบบหลอน ๆ ด้วยน้ำเสียงหลอนเศร้าลึกของเธอ เธอมีเพลงฮิตอย่าง Down on Me และ Ball and Chain จากปี 2510 แม้ในภายหลังเธอจะออกจากการเป็นสมาชิกของวง แต่เธอก็ยังได้ฟอร์มวงของตัวเองขึ้นมาใหม่อีก 2 วง คือ Kozmic Blues Band และ The Full Tilt Boogie Band ศิลปินสาวมีปัญหาเรื่องการใช้ยาเสพติด และติดแอลกอฮอล์อย่างหนัก ท้ายที่สุดเธอก็เสียชีวิตลงในวันที่ 4 ตุลาคม 2513 ร่างของเธอถูกพบนอนอยู่ที่พื้นข้างเตียง ในบ้านพักของตัวเองที่ ลอส แองเจลิส ตรวจสอบสาเหตุการตายเกิดจากการเสพเฮโรอีนเกินขนาด และพบว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย กลายเป็นศิลปินอเมริกันที่ลาลับไปด้วยวัย 27 ปี อีกหนึ่งราย
จิม มอร์ริสัน นักร้องและนักกวี เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2486 เป็นนักร้องนำและผู้แต่งเนื้อร้องให้กับวงอเมริกันร็อก The Doors มอร์ริสัน นับเป็นที่กล่าวขานในด้านพรสวรรค์เรื่องการแต่งเพลง เนื้อเพลงของเขาไพเราะราวบทกวี ทั้งยังแฝงความหมายลุ่มลึกกล่าวถึงด้านมืดในจิตใจของมนุษย์ ตัวเขาเองก็สะท้อนภาพลักษณ์ขบถของสังคมด้วย ส่วนการแสดงบนเวทีนั้นก็โลดโผนมันส์หยดเป็นที่ชอบใจของบรรดาแฟนเพลง จนทำให้ มอร์ริสัน ในฐานะยังคงถูกล่าวขวัญถึงจากแฟนเพลงขาร็อคในปัจจุบันนี้ ทั้งนี้เขายังได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร Rolling Stone ให้อยู่ในอันดับที่ 47 จาก 100 นักร้องยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ส่วนเพลงอมตะที่โด่งดังของ The Doors อย่าง Light My Fire ยังถูกศิลปินหลายรายนำมาโคเวอร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะเป็น เชอร์ลี่ย์ บาสซี่ หรือ วิล ยัง
แต่ชีวิตขาร็อกอย่าง มอร์ริสัน ก็เริ่มย่ำแย่ลงด้วยเรื่องยาเสพติด นอกจากแอลกอฮอล์แล้ว เขายังติดยาเสพติดอย่างหนัก โดยเฉพาะโคเคน และถูกจับเนื่องด้วยคดีเกี่ยวกับยาเสพติดถึง 3 ครั้งด้วยกัน จนทำให้ภาพลักษณ์ของวงย่ำแย่ลง และถูกแบนจากผู้จัดคอนเสิร์ตอยู่หลายงาน ท้ายที่สุดในเดือน มีนาคม 2514 เขาหลีกหนีความวุ่นวายของชีวิตไปอยู่ที่ปารีส ฝรั่งเศส กับ พาเมลา คอร์สัน แฟนสาวคนสุดท้าย ระหว่างนั้นเขาโกนหนวดเคราที่เคยไว้รุงรัง ทั้งรูปร่างยังผ่ายผอมลงจากที่เคยเป็น มอร์ริสัน ใช้เวลาช่วงนั้นแต่งบทกวีอย่างที่เขาชอบ แต่วาระสุดท้ายของชีวิตก็มาถึง เมื่อเขาถูกพบเป็นศพในอ่างอาบน้ำ ที่บ้านพักในปารีส เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2514 ทั้งนี้ไม่มีการสืบสวนถึงสาเหตุการตายอย่างเป็นทางการ แต่แฟนสาวของเขาได้พูดคุยกับผู้จัดการวง The Doors คนหนึ่งในภายหลังว่า การตายของ มอร์ริสัน เกิดจากการเสพเฮโรอีนเกินขนาด กลายเป็นตำนานที่ลาลับไปด้วยวัยหนุ่มเพียง 27 ปี อีกคนหนึ่งนั่นเอง และที่น่าแปลกใจคือ พาเมลา คอร์สัน เองก็เสียชีวิตลงในอีก 3 ปีให้หลัง ด้วยการเสพเฮโรอีนเกินขนาด ในวัย 27 ปีเช่นเดียวกัน
เชื่อว่าแม้จะเป็นขาร็อกรุ่นใหม่ แต่คงไม่มีใครไม่รู้จัก เคิร์ท โคเบน นักร้องนำสุดหล่อแห่งวงกรันจ์ร็อก สัญชาติอเมริกันอย่าง Nirvana ที่มีเพลงดังอย่าง Smells Like Teen Spirit ที่กลายเป็นยี่ห้อของวงโคเบน เกิดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2510 เขาฉายแววศิลปินตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ทั้งความสนใจด้านศิลปะและดนตรี แต่ก็มีปมเรื่องครอบครัวเมื่อพ่อกับแม่เขาแยกทางกัน เมื่อ โคเบน อายุย่าง 7 ขวบ และส่งตัวเขาไปอยู่กับญาติ โคเบนฟอร์มวง Nirvana ในปี 2530 และมี Bleach อัลบั้มแรกที่เป็นที่รู้จักออกมาในปี 2532 และมาดังเปรี้ยงปร้างในอัลบั้ม Nevermind ที่ออกมาในอีกสองปีให้หลัง กับเพลง Smells Like Teen Spirit เพลงร็อก 4 คอร์ดที่ฮิตติดลมจนเอ็มวีเพลงนี้ยังถูกฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าทางช่องเอ็มทีวี ด้วยความเป็นที่นิยมของเพลงนี้ช่วยให้อัลบั้ม Nevermind ได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำขาวถึง 3 รางวัล เรียกได้ว่า โคเบน ประสบความสำเร็จสุด ๆ ตั้งแต่อายุเพียง 20 ต้น ๆ เท่านั้น
นอกจากด้านอาชีพที่ประสบควาสำเร็จแบบพลุแตกแล้ว โคเบน ได้แต่งงานกับร็อกเกอร์สาวจากวง Hole คอร์ทนีย์ เลิฟ และมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนคือ ฟรานเซส โคเบน แต่ด้วยความสำเร็จที่ได้มาอย่างรวดเร็ว ก็ทำให้นักร้องหนุ่ม ไม่สามารถตั้งรับกับมันได้ โคเบน แบกรับความกดดันจากอาชีพการงาน ความสับสนจากการถูกคาดหวังในฐานะศิลปินและตัวตนที่แท้จริง เขาเริ่มติดยาเสพติดอย่างหนัก โดยในบางบทสัมภาษณ์ โคเบน ได้ยอมรับว่าบางครั้งเขาใช้ก็เฮโรอีนเพื่อรักษาอาการปวดท้องเรื้อรัง และยังติดยานอนหลับบางขนานอีกด้วย ในที่สุดโคเบนก็ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการยิงตัวตาย หลังจากพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้งในช่วงสัปดาห์นั้น ร่างไร้ลมหายใจของเขาถูกพบที่บ้านพักที่ซีแอตเติล โดยช่างไฟที่เข้ามาติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2537 หลังจากที่โคเบนหลบหนีจากสถานบำบัดผู้ติดยาที่ ลอส แองเจลิส กลับมาที่บ้านพักของตัวเอง โคเบน เสียชีวิตด้วยใช้อาวุธปืนยิงศรีษะตัวเอง จากการสืบสวน คาดว่าโคเบนน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน สามวันก่อนร่างของเขาจะถูกพบ นอกจากนี้จากการชันสูตรศพยังพบเฮโรอีนและยานอนหลับอย่างเข้มข้นในร่างกายของเขาอีกด้วย
คริสติน มารี พาฟฟ์ เป็นมือเบสหญิงแห่งวง Hole วงเดียวกับที่มี คอร์ทนี่ย์ เลิฟ แฟนสาวของ เคร์ท โคเบน เป็นนักร้องนำ พาฟฟ์ เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2510 ช่วงรุ่งโรจน์ของชีวิต พาฟฟ์ ดูจะเป็นช่วงปี 2536 ที่เธอได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองซีแอตเติลเพื่อทำเพลงกับวงของเธอ และเป็นช่วงเดียวกันที่ความสนิทสนมระหว่างเธอ กับ อีริค เออแลนด์สัน มือกีตาร์ของวง, คอร์ทนีย์ เลิฟ นักร้องนำ และ เคิร์ท โคเบน แฟนหนุ่มของเลิฟ เป็นไปอย่างเหนียวแน่น ในที่สุดเธอก็ได้คบหากับ เออแลนด์สัน แม้จะหวานชื่นอยู่เพียงไม่นาน แต่ทั้งคู่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันหลังจากที่เลิกรากันไป และอาจเป็นเพราะซีแอตเติ้ล ตั้งอยู่ในรัฐวอชิงตัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของยาเสพติดอย่างเฮโรอีนนั่นเอง พาฟฟ์ จึงเริ่มมีปัญหาหนักขึ้นเรื่องการใช้ยาเสพติด
จากคำบอกเล่าของ เออแลนด์สัน แฟนหนุ่มในขณะนั้น กล่าวว่า แม้เธอจะเคยมีประวัติการเสพยามาบ้างก่อนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกของวง แต่ก็ถือว่าเสพในปริมาณที่น้อยมาก แต่หลังจากที่เธอย้ายมาอยู่ที่ซีแอตเติล พาฟฟ์ เริ่มตัดขาดจากสิ่งอื่นใดทั้งหมด เธอสร้างสังคมขึ้นใหม่ ทั้งเพื่อนใหม่และยาเสพติด เธอก็เสพมันหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนข่าวการตายของโคเบนดูจะกระตุ้นเธอให้ตื่นขึ้นจากโลกที่เธอสร้างขึ้นมาได้ช่วงหนึ่ง พาฟฟ์ ลาออกจากการเป็นสมาชิกของวง และย้ายจากซีแอตเติลกลับไปอยู่ที่มินนีแอโพลิส ในรัฐมิเนโซตาตามเดิม แต่อย่างไรก็ดี เพียงปีต่อมา ในวันที่ 16 มิถุนายน 2537 ก็พบว่าเธอเสียชีวิต ที่อพาร์ทเม้นต์ของเธอเอง โดยพบถุงใส่ไซริงก์ และยาที่มีส่วนผสมของฝิ่น อยู่ข้างตัว ตำรวจสรุปสาเหตุการตายของเธอว่าเกิดจาก อาการฝิ่นเป็นพิษแบบเฉียบพลัน ซึ่งพรากชีวิตศิลปินสาวไปด้วยวัย 27 ปีอีกคน
ศิลปินสาวคนล่าสุดที่กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของ อาถรรพ์ เลข 27 เอมี่ ไวน์เฮ้าส์ เกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2526 ในครอบครัวชาวยิวที่รักดนตรีแจ๊ส ในย่านลอนดอนเหนือ ประเทศอังกฤษ โดยมีบิดาเป็นคนขัยแท็กซี่ และมารดาเป็นเภสัชกร เอมี่ รักเสียงเพลงมาตั้งแต่เด็ก และมักจะโดนคุณครูตำหนิเรื่องร้องเพลงในห้องเรียนอยู่เสมอ เธอมีอัลบั้มชุดแรกของตัวเองเมื่อปี ตุลาคม 2546 ในชื่อชุดว่า Frank โดยมีเพลงดังอย่าง Stronger Than Me ซึ่งได้รับรางวัลเพลงร่วมสมัยยอดเยี่ยมจาก ไอวอร์ โนเวลโล อวอร์ด ของอังกฤษ รวมทั้งอัลบั้ม Frank ยังติดชาร์ตอัลบั้มขายดีของอังกฤษในอันดับต้น ๆ ด้วย
อัลบั้มที่สองและอัลบั้มสุดท้ายของเธอ คือ Back to Black ซึ่งออกมาในเดือนตุลาคม 2549 ติดอันดับ 1 ในชาร์ตอัลบั้มขายดีของอังกฤษ และอันดับ 7 จาก 200 อัลบั้มขายดีในอเมริกา บรรจุเพลงดังอย่าง Rehap และ You know I'm no good รวมทั้งยังเป็นอัลบั้มที่เรียกได้ว่าได้รับความสำเร็จสูงสุดของเธอ เพราะสามารถกวาดรางวัลจาก แกรมมี่ อวอร์ด ไปได้ถึง 5 รางวัล ซึ่ง กินเนสส์ เวิลด์ เร็คคอร์ด ได้บันทึกไว้เมื่อปี 2552 ว่าเธอคือศิลปินหญิงชาวอังกฤษที่สามารถกวาดรางวัลจาก แกรมมี อวอร์ด ไปได้มากที่สุดด้วย
แม้ชีวิตในวงการเพลงของเธอดูจะประสบความสำเร็จ แต่เรื่องชีวิตส่วนตัวเธอกลับดูล้มเหลว ทั้งปัญหาเรื่องติดสุราเรื้อรังและใช้ยาเสพติดหลายประเภท รวมทั้งยาเสพติดร้ายแรงอย่าง โคเคน และ เฮโรอีน จนทำให้เธอต้องเดินเข้าออกสถานบำบัดอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ส่วนเรื่องชีวิตคู่ก็เหลวไม่เป็นท่าเมื่อเธอได้หย่ากับ เบลค ฟิลเดอร์ ซีวิล ผู้เป็นสามีในปี 2552 หลังจากแต่งงานกันได้เพียง 2 ปี นอกจากนี้ทั้งคู่ยังเคยถูกจับ ในข้อหามียาเสพติดในครอบครองด้วย ความล้มเหลวในชีวิตส่วนตัวเริ่มลุกลามมาถึงชีวิตการงาน เมื่อเธอถึงกับถูกคนดูโห่ไล่ เมื่อขึ้นแสดงคอนเสิร์ตที่เบลเกรดช้าไปถึง 1 ชั่วโมง และยังขึ้นไปบนเวทีในสภาพเดินโซเซ และร้องเพลงผิด ๆ ถูก ๆ เรียกได้ว่า เอมี่ ไวน์เฮาส์ เป็นที่กล่าวถึงทั้งเรื่องผลงานควบคู่ไปกับข่าวฉาวเช่นนี้เรื่อยมา จนในที่สุดนักร้องสาวก็เสียชีวิตลง ด้วยวัย 27 ปี ร่างไร้ลมหายใจของเธอถูกพบในห้องที่บ้านพักย่านลอนดอนเหนือ ในช่วงบ่ายของวันที่ 23 กรกฎาคม 2554 ที่เพิ่งผ่านมา โดยสาเหตุการตายกำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวน
ไม่ว่าอายุ 27 จะเป็นตัวเลขอาถรรพ์ ที่ทำให้ศิลปินหลายคนต้องคำสาป และจบชีวิตลงด้วยวัยเพียงน้อยนิดเท่านี้จริงหรือไม่ หรืออาจเป็นเพียงความบังเอิญและอุปาทานที่ผู้คนต่างคิดกันไปเอง จะอย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีลมหายใจอยู่เพื่อรังสรรค์งานเพลงให้เราได้ฟังกันอีก แต่ผลงานของพวกเขาจะเป็นอมตะ และถูกกล่าวขานต่อ ๆ ไปอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดนี้ เราก็ขอให้พวกเขาหลับสบายไปตลอดกาล...
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
