แลมพ์ซัดโทษ!สิงห์แซงฝังผี10ตัวระทึก2-1

แฟร้งค์ แลมพาร์ด สังหารจุดโทษ ช่วย สิงห์โตน้ำเงินคราม เชลซี พลิกแซง ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดระทึก 2-1 เก็บสามแต้มล้ำค่าทะยานแซงสเปอร์ขึ้นไปอยู่อันดับ4 ของตาราง ด้านผีแดง ยังคงรั้งจ่าฝูงต่อไปมี 60 คะแนน ห่างอันดับ2 อาร์เซน่อล 4 แต้ม แต่ผีแดงแข่งมากกว่า1นัด




สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์



     เกมบิ๊กแมตช์ระหว่างทีมที่มีลุ้นแชมป์ทั้งสองทีม เจ้าบ้าน เชลซี ที่รั้งอันดับ 5 ของตารางและมีคะแนนตามหลังจ่าฝูง แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง 15 แต้ม เกมนี้ถ้าหวังจะลุ้นแชมป์ต่อต้องชนะให้ได้ เกมนี้ อันเชล็อตติ กุนซือ ยังคงใช้ เฟร์นานโด ตอร์เรส จับคู่กับ นิโกล่าส์ อเนลก้า ในแดนหน้าเช่นเดิม แนวรับ ใช้ เดวิด หลุยซ์ คู่ จอห์น เทอร์รี่





     ด้านทีมเยือนและจ่าฝูง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากเกมที่ชนะ วีแกน 4-0 ในเกมลีกนัดล่าสุดถือว่าเป็นครั้งแรกใน 165 เกม กองหน้าส่ง ฮาเวียร์ ชิชาริโต้ เอร์นานเดซ จับคู่ เวย์น รูนี่ย์ เช่นเดิม แนวรับส่ง คริส สมอลลิ่ง เล่นคู่กับ เนมันย่า วิดิช กัปตันทีม





     เริ่มเกมแค่นาทีที่ 4 เท่านั้น เจ้าบ้าน เชลซี ได้โอกาสลุ้นจากจังหวะที่ นิโกล่าส์ อเนลก้า รับบอลจาก รามิเรส ทางฝั่งขวาก่อนปาดเข้ามาหน้าประตูให้ ฟลอร็องต์ มาลูด้า แปด้วยซ้ายเต็มๆแต่บอลไปตรงตัว เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ รับไว้ได้





     นาทีที่ 11 เจ้าบ้านได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง ฟลอร็องต์ มาลูด้า พาบอลขึ้นมาทางซ้ายแล้วไหลให้ ไมเคิ่ล เอสเซียงตรงกลางหน้ากรอบเขตโทษ แต่จับบอลไม่ดีแถมจังหวะยิงยังไปแฉลบกองหลังทีมเยือนออกไปซะอีก





     4 นาทีถัดมาทีมเยือนได้เสียวเล็กๆเมื่อบอลจาก ปาทริช เอวร่า เล่นชิ่งกับ ชิชาริโต้ ก่อนจะพาบอลไปสุดเส้นหลังแล้วปาดเรียดมาหน้าประตูแต่ รูนี่ย์ ชาร์จ เข้ามาไม่ทันบอลเลยไปที่ เฟล็ทเชอร์ แต่ก็เปิดบอลติดออกไปอีก





     เกมผ่านไปถึงนาทีที่ 29 ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ หลุยส์ นานี่ จ่ายบอลสั้นให้ เวย์น รูนี่ย์ หน้ากรอบเขตโทษไม่มีผู้เล่นเชลซี เข้ามากดดันก่อน ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ จะซัดด้วยขวาบอลพุ่งเรียดเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงามนับเป็นการยิงประตูให้ทีมเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน ให้แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำก่อน 1-0





     หลังจากโดนนำ เชลซี เจ้าบ้านก็เริ่มเร่งเกมเข้าใส่ ทีมเยือน บ้างแต่ก็ยังไม่มีโอกาสจนกระทั่ง นาทีที่ 40 เจ้าบ้านได้พรีคิกเยื้องมาทางขวาของเขตโทษ แฟร้งค์ แลมพาร์ด วิ่งเข้ามาซัดเต็มข้อ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดไว้ได้แต่มาเข้าทาง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช พุ่งเข้าไปซ้ำแต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังไวลุกมาปัดไว้ได้ปลายมือก่อนที่ เนมันย่า วิดิช จะวิ่งเข้ามาสกัดออกไปได้ทันเวลา





     ท้ายครึ่งแรก เชลซี พยายามบุกเพื่อไล่ตีเสมอให้ได้แต่ทำไม่สำเร็จ จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด นำ เชลซี อยู่ 1-0





     เริ่มเกมขึ้นหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นและก็เป็น เจ้าบ้าน เชลซี ที่เปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือนตั้งแต่ต้นครึ่งหลังทันทีแต่ หาจังหวะเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายไม่ดีเท่าที่ควร





     นาทีที่ 54 เจ้าบ้านมาตามตีเสมอสำเร็จจากจังหวะที่กองหลังทีมเยือนโหม่งสกัดไม่ดีไปเข้าทาง ไมเคิ่ล เอสเซียง ก่อนจะโยนเข้ามาหน้าประตูให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช โหม่งเช็ดบอลมาถึง ดาวิด หลุยซ์ กองหลังที่เติมขึ้นมาเอี่ยวตัววอลเล่ย์บอลพุ่งเบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงามให้เจ้าบ้านตีเสมอเป็น 1-1 และเป็นประตูแรกของเจ้าตัวกับเชลซีอีกด้วย





     เกมครบหนึ่งชั่วโมงเจ้าถิ่น เชลซี เปลี่ยนตัวผู้เล่นเป็นคนแรกโดยส่ง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ลงมาแทน นิโกล่าส์ อเนลก้า





     ถัดมาอีก 3 นาที เวย์น รูนี่ย์ พาบอลหลุดไปทางซ้ายของเขตโทษก่อนจะพาบอลเข้าไปให้เขตโทษแต่จังหวะยิงไม่ดี บอลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย





     เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แก้เกมบ้าง นาทีที่ 70  ส่ง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และ ไรอัน กิ๊กส์ ลงมาแทน ฮาเวียร์ ชิชาริโต้ เอร์นานเดซ และ พอล สโคลส์ ที่ดูเงียบๆไปในช่วงครึ่งหลัง ด้าน เชลซี ก็ส่ง ยูริ ชีร์คอฟ ลงมาแทน ฟลอร็องต์ มาลูด้า





     นาทีที่ 74 ทีมเยือนได้ลุ้นบ้างเมื่อ เวย์น รูนี่ย์ รับบอลในเขตโทษก่อนจะพลิกยิงแต่บอลไปตรงตัวปีเตอร์ เช็ก รับไว้ได้ไม่ยาก





     นาทีที่ 79 เจ้าถิ่นมาได้ลูกจุดโทษเมื่อ คริส สมอลลิ่ง ไปสกัด ยูริ ชีร์คอฟ ล้มลงไปในเขตโทษ และเป็น แฟร้งค์ แลมพาร์ด ซัดเข้าไปไม่พลาดให้ เชลซี แซงขึ้นนำ 2-1





     ช่วงทดเวลาเจ็บ แมนฯยู เหลือผู้เล่น10คน จากจังหวะที่  เนมันย่า วิดิช ไปดึง รามิเรส นอกกรอบเขตโทษด้านข้าง กรรมการชักใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนามไป





     ช่วงท้ายเกม ทีมเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างหนักแต่ไม่สามารถเจาะแนวรับ เชลซี ที่ลงไปรับลึกได้จบเกม เชลซี พลิกแซงกลับมาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ 2-1 รับสามแต้มเต็มมี 48 คะแนนแซง สเปอร์ขึ้นไปอยู่อันดับ 4 มีลุ้นพื้นที่ยูฟ่าฯ ด้านแมนฯ ยู ยังรั้งจ่าฝูงมี 60 คะแนนเท่าเดิม ห่างอันดับ2 อาร์เซน่อล 4 แต้มแต่ผีแดงแข่งมากกว่า 1 นัด



ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด หลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, ไมเคิ่ล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส

     สำรอง : รอสส์ เทิร์นบูลล์, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, จอห์น โอบี มิเกล, โชเซ่ โบซิงวา, ยูริ ชีร์คอฟ, ซาโลมง กาลู,  โจชัว แม็คเอแคร็น




เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเช, คริส สมอลลิ่ง, เนมันย่า วิดิช, ปาทริช เอวร่า, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, พอล สโคลส์, หลุยส์ นานี่, ฮาเวียร์ ชิชาริโต้ เอร์นานเดซ, เวย์น รูนี่ย์

     สำรอง : โทมัส คุสแช็ค, เวส บราวน์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ไรอัน กิ๊กส์, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, ราฟาเอล ดา ซิลวา, ดาร์รอน กิ๊บสัน





     ผู้ตัดสิน :
 มาร์ติน แอ็ตกินสัน 






เวย์น รูนี่ย์ ซัดประตูให้ผีแดงขึ้นนำสิงห์โตน้ำเงินครามไปก่อน 1-0



ดาวิด หลุยซ์ ยิงประตูสุดสวยให้ตัวเองและเชลซีตามตีเสมอผีแดง 1-1




แลมพาร์ด ซัดจุดโทษให้ทีมพลิกขึ้นนำ 2-1





เนมันย่า วิดิช ถูกใบเหลือที่สองเป็นใบแดงไล่ออกในช่วงท้ายเกม



เฟร์นานโด ตอร์เรส ยังคงไม่สามารถเบิกสกอร์แรกในสีเสื้อใหม่ได้



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์