สัญญาณเตือนภัย

สัญญาณเตือนภัย

ความเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะครับ-ขอบอกดูอย่าง ลิเวอร์พูล นั่นปะไรหลังจากที่ คิงเคนนี่ กลับมา เด็กหงส์  ก็มีจิตวิญญาณและชีวิตชีวามากขึ้นผิดกับตอนที่ รอย ฮ็อดจ์สัน ยังเป็นผู้จัดการทีมดูเหมือนพวกเขาตกอยู่ในสภาพเหมือนผีดิบซอมบี้ เข้าสิงร่าง นั่นเพราะฤทธาบารมีบรมของผู้จัดการทีมคนใหม่ทำให้ผู้เล่นมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นกระทั่งบุกไปก่อวินาศกรรมที่เมืองหมาป่าอันเป็นชัยชนะนัดแรกของ   เคนนี่ ดัลกลิช นั่น ทำให้ ลิเวอร์พูล กลับมาอยู่ในความมั่นใจสุดขีดอีกครั้ง ฉะนั้นคืนนี้ที่จะต้อนรับการมาเยือนของฟูแล่ม จึงขอทายผลล่วงหน้าว่าหงส์แดงจะได้เริงร่าแน่นอนว่าชัยชนะจะช่วยให้ ลิเวอร์พูลมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นและยิ่งขึ้นลองมั่นใจแล้วขอบอกว่าน่ากลัวมาก เด็กหงส์นะครับ ไม่ใช่ ลิเวอร์พูล ฮ่า - ฮ่า - ฮ่า เพราะเมื่อมีความมั่นใจทำอะไรก็ดีไปหมดตัวอย่างล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา เชลซี ออกไปเยือน โบลตัน พร้อมความกดดัน เฉพาะอย่างยิ่งหลังจากคู่ขับเคี่ยวของตัวเองทั้ง แมน
ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล ต่างยัดเยียดความยับเยินให้
คู่แข่งอย่างน่าสยดสยองในรูปแบบของการระเบิดถังขี้
ตั้งแต่วันเสาร์ลูกทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ จึงจำเป็นต้องชนะให้ได้สถานเดียวแต่ท่านผู้ชมทางบ้านที่ดูถ่ายทอดสดคงจะเห็นเหมือนผมว่าในช่วง 6-7 นาทีแรกเป็นเจ้าบ้านที่บุกกระหน่ำอยู่ฝ่ายเดียวตอนนั้นหาก เชลซี ปล่อยให้คู่แข่งพังประตูนำไปก่อนบอกได้คำเดียวครับว่าฉิบหอย ปัญหาคือ โบลตัน ดันทำลายตาข่ายไม่สำเร็จจุดนี้คือความแตกต่างระหว่างวรรณะจากคุณภาพของผู้เล่น ขณะ โบลตัน ทำได้แค่เล้าโลม พลพรรคสิงห์บลูส์กลับไม่จำเป็นต้องเล้าโลมอะไรมาก เพียงได้รับโอกาสครั้งแรกจากความผิดพลาดของคู่แข่งก็สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้เลยประตูของ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ที่ตะบันเต็มเกือกจากระยะเกือบ 30 หลาทำให้ผู้เล่นของ เชลซี มีจิตใจที่คึกคักและฮึกเหิม นั่นหมายถึงความเชื่อมั่นแบบทะลักจุดแตกอย่างที่บอกแหละครับ คนเราลองมั่นใจทำอะไรก็ดีไปหมดนั่นคือเหตุผลบอกว่าทำไม แชมป์เก่า ถึงจัดหนักซะขนาดนั้น นิโกล่าส์ อเนลก้า กระทุ้งตาข่ายได้เป็นเกมส์ที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากที่ยิงไม่ได้ 10 นัด ก็เพราะความมั่นใจเช่นเดียวกับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา หรือ ฟรอรองต์ มาลูด้า ที่กระซวกประตูได้อีกครั้งจากชัยชนะนัดนี้พอจะบอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า...เชลซี กลับมาแล้ว! หลังจากพลาดท่าถูกพวกคนหอนจับถลกหนังหัวในพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 5 มกราคม อารมณ์นั้นความมั่นใจคงแหลกสลายกลายเป็นผุยผง แต่ฟ้ายังเมตตานะครับที่ส่งเกม เอฟเอ คัพ รอบ 3 มาขั้น แถมได้เจอทีมวรรณะต่ำกว่าหลายหน่วย อย่าง อิปสวิช ทาวน์ ในบ้านตัวเอง เชลซี จึงใช้โอกาสอันดีงามระเบิดความอัดอั้นตันตูด ประหนึ่งคนที่เก็บสะสมอุจจาระในลำไส้มาเป็นเวลานาน 3 เดือน โดยไม่เคยขับถ่าย เมื่อถึงขีดสุดก็ปลดปล่อยมันออกมาตูมเดียว ส้วมแทบแตก เคยไหมครับเวลาปวดขี้อย่างรุนแรงแล้วหาห้องน้ำไม่ได้ หรือมีคนใช้ห้องน้ำอยู่ อารมณ์นั้นมันอึดอัด งุ่นง่าน และกระวนกระวายใจจนอยากจะกระโดดถีบประตูเข้าไป กระทั่งห้องน้ำว่างนั่นแหละที่ให้ความรู้สึกว่าความจริงสวรรค์กับโถส้วมมันมีรูปร่างเหมือนกัน ว่าแล้วก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมกันพรวดเดียวนี่แหละที่เรียกว่าการจุดระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ หรือที่
ภาษาอังกฤษเรียกว่า   Big Bang  หลังจากจุดระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ใส่ อิปสวิช ทาวน์ ไปทั้งหมด 7 ดอก แม้จะไม่ใช่ชัยชนะที่ควรภาคภูมิใจอะไรมากมาย แต่มันช่วยให้ เชลซี มีความมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะกำราบ แบร็คเบริน 2-0  ตามมาด้วยสกอร์ 4-0 ในพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด สามนัดที่ผ่านมาลูกทีมของ พี่แจ้ ทำลายตาข่ายคู่แข่งแบบสิ้นซาก 13 ประตู โดยไม่เสียเลยสักดอก แถม 3 ประสานอย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา , นิโกล่าส์ อเนลก้า และ ฟรอรองต์ มาลูด้า ต่างยิงประตูกันอย่างสนุกสนาน กระทั่ง รามิเรส ที่ตอนแรกเหมือนไม่น่าไหวกับพรีเมียร์ลีกที่โต้ตอบกันเร็วก็ค่อยๆ ปรับตัวกลืนสภาพได้ดีแถมยังเบิกร่องประตูแรกได้แล้วอีกต่างหาก และนอกจากพลพรรคสิงห์บลูส์จะแสดงถึงความมั่นใจ ยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทั้งในเกมรุกและเกมรับเหมือนเมื่อตอนต้นฤดูกาลทันทีที่ได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ จอห์น เทอร์รี่ ในฐานะกัปตันทีมออกโรงมาไซโคปีศาจแดง ก่อนที่พวกเขาจะบุกไปเยือน บลูมฟิลด์ โร้ด เมื่อคืนนี้ด้วยเตือนความจำว่าอย่าลืมเชลซี ยังต้องห่ำหั่นกับ แมนยูไนเต็ด อีกถึง 2 นัด Should United be worried about us? I think so. ถามว่าผู้เล่นยูไนเต็ดเป็นกังวลกับเราหรือเปล่า ผมว่าพวกเขาเป็นนะ นี่คือคำพูดของ เจที ที่แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจแบบเต็มประดา บอกแล้วคนกำลังมั่นใจจะพูดทำอะไรก็ไม่ผิดเหมือนเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน ( 2008-09 ) ตอนที่ลิเวอร์พูล นำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก เจมี่ คาร์ราเกอร์ เคยมั่นใจมากถึงขนาดออกโรงมาประกาศทำนองว่า ใครก็ดร้ายยยย...ช่วยหยุดกรูที นั่นแหละครับ หลังจากประกาศอย่างมั่นใจได้ไม่นานพลพรรคหงส์แดงก็
สะดุด ไม่ชนะ 3 นัดติดต่อกันซะงั้นแน่นอนครับว่าการกลับมาของสิงห์บลูส์ย่อมทำให้ เด็กผี อดที่จะประสาทแดกส์ไม่ได้เหมือนกัน เพราะทีมอย่าง เชลซี หากปล่อยให้กลับมาเชื่อมั่นในตัวเองอีกครั้ง ถือว่าอันตรายเป็นอย่างยิ่ง ในมุมมองของผม เชลซี ยังคงเป็นทีมที่น่าเกรงขามกว่า อาร์เซน่อล หรือ แมนซิตี้ นะครับ เชื่อว่านับแต่นี้พวกเขาจะค่อยๆพาตัวเองขยับเข้าสู่เส้นทางแห่งการลุ้นแชมป์อีกครั้งแต่ในขณะเดียวกันการกลับมาของ เชลซี ก็มีข้อดีต่อ แมนยูไนเต็ด อยู่เหมือนกันคือมันไม่ต่างจากสัญญาณเตือนภัยเตือนว่า กูกลับมาแล้วนะ ฉะนั้นกรุณาอย่าประมาทหรือหลงระเริงจนเกินไป

    ขอต้อนรับการกลับมาของ เชลซี ครับ

เครดิต สตาร์ซ็อคเก้อร์ โดย บอ.บู๋

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์