10 แข้งทรยศเกินห้ามใจ

แม้เรื่องราวการย้ายทีมของ เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงเลือดเดือดจะจบลงแบบสวยงาม เพราะเจ้าตัวตัดสินใจกลืนน้ำลาย รวมทั้งต่อสัญญาใหม่ 5 ปี กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไป ส่งผลให้ละครน้ำเน่าจากฝีมือการกำกับของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ ผีแดง จบลงอย่างสวยงาม แต่ก็มีนักเตะหลายรายที่คิดคดทรยศอู่ข้าวอู่น้ำของตัวเองไปเล่นให้กับทีมอื่น บางคนก็ไม่ประสบความสำเร็จ บางคนก็ยิ่งใหญ่เกินห้ามใจ วันนี้ลองมาดูซิว่านักเตะคนไหนที่ย้ายไปแล้วต้องเจอกับวิบากกรรมยังไงบ้าง โดยเฉพาะคำสรรเสริญเชิญลงนรกจากแฟนบอลที่จ้องด่ากันตลอดเวลาอยู่แล้ว


10) อเล็กซานเดอร์ คเล็บ (บาร์เซโลน่า)
             จอมทัพทีมชาติเบลารุส เป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการจับตามองตั้งแต่สมัยที่ค้าแข้งกับสตุ๊ตการ์ท โดยเจ้าตัวตัดสินใจย้ายมาเล่นกับ อาร์เซน่อล เมื่อปี 2005 และทำผลงานได้อย่างสุดยอด ที่สำคัญยังช่วยให้ เดอะ กันเนอร์ ผงาดความแชมป์เมื่อซีซั่น 2007-08 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่เขาโชว์ฟอร์มขั้นเทพ และเป็นเหตุผลให้ บาร์เซโลน่า แสดงความต้องการอยากได้นักเตะมาร่วมทีม และสุดท้ายก็จัดการคว้าตัวมาได้สำเร็จ โดยเจ้าตัวมีแรงกระตุ้นที่จะทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนความเชื่อมั่นของ เจ้าบุญทุ่มแต่สุดท้ายทุกอย่างก็เป็นศูนย์ เพราะช่วงเวลาส่วนใหญ่ของ คเล็บ อยู่กับการวอร์มอัพที่ซุ้มม้านั่งสำรอง มากกว่าได้ลงไปโชว์ลีลาบนสนามหญ้า ที่สำคัญ ดาวเตะเลือดเบลารุส ยอมรับว่าเขาคิดผิดมหันต์ที่ย้ายไปค้าแข้งในลา ลีกา





9) โรนัลโด้ (ฟลาเมงโก้)
             อ้วนพลิ้ว ชื่อนี้รับประกันฝีเกือกว่ายิงกระจาย หากฟิตสมบูรณ์ และแม้อายุอานามจะมาก รวมทั้งน้ำหนักจะเยอะ แต่เจ้าตัวก็ยังเนื้อหอม โดยเฉพาะทีมในบราซิลบ้านเกิด ที่สนใจอยากได้ โรนัลโด้ ไปเสริมแกร่ง โดยช่วงเวลานั้น อ้วนโด้ ตัดสินใจที่จะกลับบ้านเกิดเมืองนอนเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ และพุ่งเป้าไปที่การเล่นให้ ฟลาเมงโก้ ช่วงเวลา 4 เดือนในปี 2008 อดีตสตาร์ อินเตอร์ มิลาน และ เรอัล มาดริด อยู่ฝึกซ้อมกับ อีแร้งมหาประลัย  เพราะเขาตั้งเป้าที่จะกลับมาสู่เส้นทางพ่อค้าแข้งที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม แฟนบอล ฟลาเมงโก้ ไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นเจ้าตัวโชว์ความพลิ้วในสีเสื้อดำ-แดง เพราะเขาตัดสินใจเซ็นสัญญากับ โครินเธียนส สโมสรคู่อริในลีกแซมบ้า แทน งานนี้ ซูเปอร์สตาร์ผู้นำ บราซิล คว้าแชมป์เวิลด์ คัพ 1994 และ 2002 โดนตราหน้าว่าเป็นไอ้ทรยศ แม้ว่าจะไม่เคยเตะบอลให้กับทีมรักในวัยเยาว์ก็ตาม ส่วนเหตุผลที่ โรนัลโด้ เซ็นสัญญากับ โครินเธียนส์ เพราะว่า ฟลาเมงโก้ ไม่เคยยื่นข้อเสนอดึงตัวเขาไปร่วมทีมนั่นเอง (เชื่อได้หรือเปล่าเนี่ยะ)





8)  แฮร์รี่ คีเวลล์ (ลีดส์ ยูไนเต็ด)
                คีเวลล์ ต้องมาเจอวิบากกรรมไม่ต่างอะไรกับ อลัน สมิธ กองหน้าเลือดเดือด ที่ทะลึ่งทิ้ง ลีดส์ ยูไนเต็ด ยามทีมหายนะตกชั้นในปี 2004 ด้วยการย้ายไปค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมชาติ งานนี้ก็เลยสร้างความเกลียดชังให้กับแฟนบอล ยูงทอง อย่างมาก โดย ดาวเตะออสซี่ ก็โดนแฟนบอลมอบตำแหน่งไอ้ทรยศให้ทันที หลังจากย้ายไปเล่นกับ ลิเวอร์พูล ในปี 2003 เพราะงานนี้มีการเปิดโปงว่าเอเยนต์ของนักเตะมีนอกมีในกับ หงส์แดง จนทำให้ซื้อ คีเวลล์ ในราคาถูกแสนถูก แต่สุดท้ายนักเตะก็ไม่รุ่งในถิ่นแอนฟิลด์อยู่ดี

               ยังไม่หมดแค่นั้น คีเวลล์ ได้สร้างความโกรธแค้นให้สาวก ยูงทองอีก เมื่อเขาย้ายจากลิเวอร์พูล ไปเล่นให้ กาลาตาซาราย ซึ่งรู้ๆ กันอยู่ว่า ลีดส์ กับ กาลาตาซาราย เป็นคู่แค้นกันมากๆ เนื่องจากแฟนบอล ลีดส์ ต้องสังเวยชีวิตในดินแดนตุรกี ก่อนเกมยูฟ่า คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่ทั้งสองทีมพบกันในปี 2000 งานนี้ขอบอกว่าลีดส์ไม่ปลื้มกับการกระทำในครั้งนี้ และถึงขนาดหมายหัว ดาวเตะจิงโจ้ เลยทีเดียว ในขณะที่ คีเวลล์ อ้างว่าการย้ายทีมในครั้งนี้อาจช่วยเยียวยาความรู้สึกของแฟนบอลทั้งสองสโมสร แต่สุดท้ายมันก็ไม่เป็นอย่างนั้น





7) มัททิอัส กิเมนเนส (ไทเกรส)
               หลังจากที่ใช้เวลา 6 ปีกับการค้าแข้งให้ ไทเกรส ปีกจอมลีลา เลือดอาร์เจนไตน์ ก็ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้ โบคา จูเนียร์ส เมื่อปี 2010 และเมื่อทั้งสองทีมต้องดวลแข้งกัน กิเมนเนส ก็แสนดีซัดประตูให้กับสโมสรใหม่ขึ้นนำ ซึ่งเป็นการตอบแทนบุญคุณสโมสรเก่าได้ดีจริงๆ ! ยังไม่พอแค่นั้น เพราะเจ้าตัวฉลองประตูแบบแสบสันต์รูทวาร ด้วยการกุมมือราวกับว่าจะพูดขอโทษที่ยิงประตูต้นสังกัดเก่า แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีพี่ท่านก็เข้าไปสวมกอดกับเพื่อนร่วมทีม โบคา สบายอุรา เป็นไงละแร่มไหม แล้วแบบนี้จะไม่โดนด่ายับได้ยังไง





6) เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (อาร์เซน่อล)
               มันคงไม่แฟร์ที่จะพูดว่า อเดบายอร์ ตีความของคำว่า จงรักภักดี ตรงกันข้ามกับที่ใครๆ เข้าใจกัน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สาวก เดอะ กันเนอร์ส จะเหม็นขี้หน้าหมอนี้ เพราะหลังจากที่เจ้าตัวได้รับความสนใจจาก เอซี มิลาน และหลายๆ สโมสร แต่ดาวยิงโตโก ยังคงซื้อใจแฟนบอลอาร์เซน่อลได้ยกเข่ง เมื่อเขาบรรจงยื่นริมฝีปากดำกร้านประทับเอาไว้ที่ตราสโมสรในช่วงเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่น ปี 2008 แต่หลังจากนั้นอีกหนึ่งปีเขาก็ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ที่แสบก็คือพี่ท่านยิงประตูได้ในแมตช์ที่ทั้งสองทีมพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และก็วิ่งแหกปากกว่าครึ่งสนามไปแสดงท่าดีใจต่อหน้าแฟนบอลทีมเก่า งานนี้ก็เลยโดยทั้งแบนทั้งปรับสบายอุรา แต่ดูเหมือนว่าเกมล่าสุด อเด หมดสิทธิ์แสดงพฤติกรรมแบบเดิม เพราะ เรือใบ โดน ปืนใหญ่ ยิงสลุต 3 ดอกแพ้สบายคาถิ่น ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์





5) ฟร้องค์ ริเบรี่ (บาเยิร์น มิวนิค)
               เรื่องวุ่นของ ริเบรี่ มีมาตลอดระยะเวลา 2 ปีในช่วงระหว่างปี 2007-2009 เขาประสบความสำเร็จกับ เสือใต้ มากมาย และคำยืนยันความฮอตของเฮียบากก็คือการที่เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกเลยทีเดียว และช่วงเวลาที่ ดาวเตะเฟร้นช์แมน อยู่ในถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า ก็มีความสุขล้นเหลือคณานับ อย่างไรก็ตาม ริเบรี่ ต้องเจอกับข่าววุ่นๆ กับ เรอัล มาดริด ที่จ้องจะหยิบนักเตะไปร่วมทีม จนกลายเป็นข่าวลือทั้งในและนอกสนามมาตลอด และก็จบลงด้วยการที่ไม่มีมูลความจริงทุกครั้ง 

                 อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาดังกล่าว ริเบรี่ ยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะหนีดินแดนไส้กรอก เขาเคยหยอดประโยคเด็ดเอาไว้ว่า - เรอัล มาดริด เท่านั้น- เจอแบบนี้เข้าไป บาเยิร์น มิวนิค ก็เลยใช้ไม้โหดกัน ราชันชุดขาว ด้วยการตั้งราคาค่าตัวเบาะๆ 100 ล้านยูโร คิดเป็นเงินไทยยุคน้ำท่วมเมืองก็ราวๆ 4,000 ล้านบาท เจอแบบนี้ก็ช็อกซิก๊า 

                  แต่สุดท้าย สตาร์ทีมชาติฝรั่งเศส ก็ต้องเจอวิบากกรรมมีปัญหาบาดเจ็บ รวมทั้งโดนแฉเรื่องส่วนตัวที่แอบไปโขยกสาวขายบริการยังไม่บรรลุนิติภาวะ เล่นเอาชีวิตแทบพัง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้นักเตะจรดปากกาต่อสัญญาใหม่แล้ว โดย อูลี่ เฮอเนส ประธานสโมสร เผยว่า -ฟร้อง เป็นหนึ้บุณคุณเรา เขารู้ตัวเองดี-





4) โม จอห์นสตัน (กลาสโกว์ เซลติก)
                 ให้ตายเหอะโรบิ้น เพราะเรื่องนี้ทำเอาวงการลูกหนังแดนน้ำเมาสั่นสะท้านเลยทีเดียว โดยเมื่อปี 1989 อดีตฮีโร่ขั้นเทพของ กลาสโกว์ เซลติก ได้แก่ โม จอห์นสตัน ตัดสินใจผ่าไฟแดงย้ายข้ามฝากฝ่าดง TEEN ด้วยการสลัดน้ำหมึกเซ็นสัญญากับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส คู่อาฆาตไม่นับญาติ จะว่าไปแล้วก่อนหน้านี้ จอห์นสตัน เคยพูดว่า เซลติก เป็นสโมสรเดียวเท่านั้นที่เขาต้องการเล่น แต่สุดท้ายกลับย้ายไปซบ เดอะ ไลท์บลูส์ ซะง้าน และเมื่อถึงคราวที่นักเตะต้องกลับมาเยือนถิ่นเซลติก พาร์ค สิ่งที่เขาต้องเจอก็คือเสียงโห่ถล่มทลาย





3) นิโก้ ครานชาร์ (ดินาโม ซาเกร็บ)
                 การย้ายจาก ดินาโม ซาเกร็บ ไปเล่นให้ ไฮจ์ดุ๊ค สปลิท ไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้เลยถ้าคุณต้องการใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบๆ ในโครเอเชีย ดาวเตะท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เดินตามรอยเท้าปะป๋าด้วยการเล่นให้กับสโมสรท้องถิ่น ดินาโม และก็ได้สวมปลอดแขนกัปตันทีมในวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น แต่หลังจากที่มีปัญหากับสโมสร เจ้าตัวก็ถูกลือให้แซดว่าจะย้ายไปเล่นออกประเทศ อย่างไรก็ตาม ครานชาร์ กับสร้างเรื่องเซอร์ไพรส์เมื่อตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งกับ ไฮจ์ดุ๊ค สปลิท หนึ่งในศัตรูตัวฉกาจของ ดินาโม ซาเกร็บ ก็เลยสร้างความโกรธแค้นให้กับแฟนบอลอย่างมาก และหลังจากนั้นไม่กี่เดือนเอเยนต์ส่วนตัวของเขา ก็โดนฆ่าตายอย่างอนาถ 
                 เรื่องนี้ทำเอา ครานชาร์ ฟอร์มสะดุดไม่เป็นอันเล่นฟุตบอล แต่ผลงานแบบนี้ทำเอาแฟนบอล ซาเกร็บ หัวเราะเยาะ แถมยังพูดจาถากถางตลอด เดชะบุญเหมือนสวรรค์เห็นใจ เมื่อส่งนายตาปรือ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ กุนซือจอมเก๋า ขอซื้อตัวเขาไปเล่นให้ พอร์ทสมัธ (จากนั้นก็เก็บข้าวของหนีตามไปอยู่กับ สเปอร์ส) จะว่าไปแล้วที่ เดอะ ปอมปีย์ ก็มีอีกหนึ่งแข้งทรยศ (ณ เวลานั้น) อยู่ด้วยอีกคน ได้แก่ โซล แคมป์เบลล์ ปราการหลังจากแกร่ง ที่หักดิบย้ายจาก สเปอร์ส ไปเล่นกับ อาร์เซน่อล จนได้รับฉายา จูดาส (จอมทรยศ) ประดับตัวไปจนตาย





2) หลุยส์ ฟิโก้ (บาร์เซโลน่า) 
                 ฟิโก้ ย้ายมาเล่นให้ บาร์เซโลน่า ในปี 1995 เพราะการเจรจาย้ายไปเล่นกับ ยูเวนตุส และ ปาร์ม่า ล้มเหลว โดยตลอดระยะเวลา 5 ปีเขากลายเป็นพระเจ้าของชาวคาตาลุนญ่า โดยพา เจ้าบุญทุ่ม คว้าแชมป์เป็นว่าเล่น ฟิโก้ได้รับรางวัล บัลลง ดอร์ ในปี 2000 และปีเดียวกันนี้ ฟิโก้ ก็ทำเรื่องที่สุดแสนทำร้ายจิตใจสาวกบาร์ซ่า ด้วยการย้ายไปค้าแข้งกับเรอัล มาดริด และเพียงแค่ชั่วข้ามคืนจากความผูกพันราวกับเป็นลูกชายของ บาร์เซ่ กลายสภาพเป็นซาตานน่ารังเกียจไปในบัดดล ความรู้สึกแบบนี้ยังคงอยู่เพราะในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เมื่อต้นปีนี้ อดีตสตาร์ทีมชาติโปรตุเกส ยังโดนแฟนบอล บาร์ซ่า ตะโกนด่าอยู่เลย





1) เวย์น รูนี่ย์ (เอฟเวอร์ตัน) 
                  ครั้งหนึ่ง เด็กเวร เอ๊ย เวย์น เคยกล่าวประโยคสุดคลาสสิคชนิดที่ทำเอาชาวทอฟฟี่เมนน้ำตาคลอเบ้าว่า -ครั้งหนึ่งเคยเป็นสีน้ำเงิน และจะเป็นสีน้ำเงินตลอดไป- แต่เพียงไม่กี่ปีจากเด็กหนุ่มวัยกระเต๊าะกลายเป็นนักเตะเนื้อหอมขวัญใจชาวเอฟเวอร์โตเนี่ยน และกลายสภาพเป็นคนน่ารังเกลียดไปในทันที เมื่อเจ้าตัวประกาศลั่นขอย้ายทีม และได้ไปสวมเสื้อสีแดงเพลิงกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2004 งานนี้สาวก ทอฟฟี่สีน้ำเงินโกรธกริ้วอย่างมาก และยิ่งเพิ่มความเกลียดชังเป็นทวีคูณ เมื่อดาวยิงกบาลเถิก ดันทะลึ่งจูบตราสโมสร ปีศาจแดง หลังจากที่เขายิงประตูช่วยให้ แมนฯ ยูฯ ชนะ เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสัน พาร์ค 4-2 เมื่อเดือนสิงหาคม 2007



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์