ผีเจ๊าเรือใบเกมดาร์บี้แมตช์โอเว่นไม่ยิงสาลิกาเสมอ

ผีเจ๊าเรือใบเกมดาร์บี้แมตช์โอเว่นไม่ยิงสาลิกาเสมอ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 กันยายน 2548 23:19 น.

ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านทำได้เพียงเสมอกับ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ในศึกดาร์บี้แมตช์ ส่วน ไมเคิล โอเว่น ประเดิมสนามแล้วแต่ไม่สามารถทำประตูได้ในเกมที่ สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เจ๊า ฟูแล่ม 1-1 ในศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์

ฟุตบอล พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำทัพ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกดาร์บี้ แมตช์ แมนเชสเตอร์ นัดที่ 144 เกมนี้ เฟอร์กี้ มีการสลับสับเปลี่ยนตัวผู้เล่นโดยพัก รอย คีน กัปตันทีมไว้ข้างสนาม พร้อมกับส่ง อลัน สมิธ ลงมารับหน้าที่ตัดเกมแดนกลางแดน ส่วนเกมรุกส่ง ปาร์ค จี ซอง มาช่วยงาน รุด ฟาน นิสเตลรอย และเวย์น รูนี่ย์

ด้านทีมเยือน สจ๊วร์ต เพียร์ซ ไม่มีปัญหาการจัดทัพแผงหลังได้ ซิลแว็ง ดิสแต็ง ฟิตสมบูรณ์ลงมายืนคู่กับ ริชาร์ด ดันน์ แดนกลางมี เคลาดิโอ เรย์น่า คอยคุมจังหวะของเกม ส่วนคู่กองหน้าเป็นหน้าที่ของ ดาริอุส วาสเซลล์ และแอนดี้ โคล ซึ่งกลับมาเยือนถิ่นเก่า

เริ่มเกมขึ้นมา แมนฯ ซิตี้ เดินเกมบุกสู้กับแมนฯ ยูไนเต็ด แบบไม่กลัวเหมือนกันแต่ผ่าน 10 นาทีแรก เจ้าบ้านเริ่มคุมเกมได้และก็มีโอกาสก่อนเมื่อ รูนี่ย์ ป้ายบอลให้ ปาร์ค จี ซอง หลุดไปยิงด้วยขวาบอลเหินข้ามคานแบบได้ลุ้น

แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 20 เมื่อโอเชีย เติมขึ้นมาโยนบอลจากฝั่งขวา สโคลส์ จับได้ในเขตโทษก่อนพลิกยิงด้วยซ้ายบอลหลุดเสาออกไป ผ่านครึ่งชั่วโมง เจ้าบ้านยังเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่าและก็มีโอกาสอีกครั้ง ฟาน นิสเตลรอย ได้กระดกบอลข้ามตัวเจมส์ แต่แรงเกินไปบอลเหินข้ามคาน

เข้าสู่ช่วงท้ายของครึ่งแรก แม้ว่าเจ้าถิ่นจะเป็นฝ่ายครองบอลได้เกือบจะทั้งหมดแต่รูปแบบการสร้างสรรค์เกมของแมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่หลากหลายเท่าที่ควร อีกทั้งผู้เล่นแมนฯ ซิตี้ เน้นลงไปตั้งรับในแดนตัวเองได้ดี แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แฟนๆ เจ้าบ้านได้เฮกันลั่นจากจังหวะที่ สโคลส์ ส่องไกลแฉลบเท้า ฟาน นิสเตลรอย ทำให้เจมส์ เสียจังหวะเล็กน้อยแต่ปัดได้ แต่ก็มาเข้าทาง ฟาน นิสเตลรอย ซ้ำด้วยซ้ายตุงตาข่ายให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0

เปิดฉากครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ ออกมาตั้งเกมบุกใส่เจ้าบ้านทันทีเนื่องจากมีประตูตามหลังอยู่ ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด เน้นใช้จังหวะสวนกลับ เนื่องจากยังไม่สามารถครองเกมได้แต่ในนาทีที่ 63 แฟนๆ เจ้าถิ่นเกือบจะได้เฮอีกครั้งเมื่อ รูนี่ย์ เขี่ยบอลให้ ปาร์ค จี ซอง หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่ดาวเตะทีมชาติเกาหลีใต้เลือกที่จะผ่านให้ สโคลส์ แทนที่จะยิงเอง ทำให้ดิสแต็ง เคลียร์บอลทิ้งไปได้ในจังหวะสุดท้าย

เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย เพียร์ซ แก้เกมให้แมนฯ ซิตี้ ด้วยการส่ง ซุน จี ไห่ และอองตวน ซิเบียร์สกี้ ลงมาเล่นแทน มิลล์ส และมูซัมป้า หลังจากบี้อยู่นานในที่สุด แมนฯ ซิตี้ ตามตีเสมอสำเร็จ 1-1 จากจังหวะที่ โคล วอลเล่ย์ไปติดเซฟ ฟาน เดอร์ ซาร์ กระเด้งมาให้ วาสเซลล์ ยิงซ้ำและก็เป็น บาร์ตัน แตะบอลเปลี่ยนทางตุงตาข่ายในนาทีที่ 76

เซอร์ อเล็กซ์ มีการแก้เกมเช่นกันหลังถูกตามตีเสมอส่ง รอย คีน ลงมาคุมเกมแดนกลางแทน เฟล็ทเชอร์ เช่นเดียวกับ ไรอัน กิ๊กส์ ที่ได้โอกาสมาทำเกมแทน ปาร์ค จี ซอง นาทีที่ 88 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูชัยเมื่อ กิ๊กส์ ได้ขวิดบอลจากลูกเปิดของรูนี่ย์ แต่บอลเฉี่ยวคานออกไปนิดเดียว ช่วงทดเจ็บ ทีมเยือนเกือบได้ประตูชัยเมื่อ ซินแคลร์ เปิดบอลให้โคล ยิงเต็มๆ แต่ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดทิ้งไปได้หวุดหวิด ครบ 90 นาที ดาร์บี้ แมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์ จบลงด้วยการเสมอกันไปแบ่งไปทีมละแต้ม

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , จอห์น โอเชีย , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , มิคาเอล ซิลแวสตร์ , กาเบรียล ไฮน์เซ่ , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , อลัน สมิธ , พอล สโคลส์ , ปาร์ค จี ซอง , รุด ฟาน นิสเตลรอย , เวย์น รูนี่ย์

แมนฯ ซิตี้ : เดวิด เจมส์ , แดนนี่ มิลล์ส , ริชาร์ด ดันน์ , ซิลแว็ง ดิสแต็ง , เบน แธตเชอร์ , เทรเวอร์ ซินแคลร์ , โจอี้ บาร์ตัน , เคลาดิโอ เรย์น่า , กิกี้ มูซัมป้า , แอนดี้ โคล , ดาริอุส วาสเซลล์

ส่วนผลการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ประจำวันเสาร์คู่อื่นๆ

โอเว่น ประเดิมแต่ยิงไม่ได้

เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 0-1 ชาร์ลตัน แอธเลติก
[0-1 : ดาร์เรน เบนท์ (น.15)]

เชลซี 2-0 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 : เฌเรมี่ เอ็นจิตั๊ป (น.54) , 2-0 : ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (น.82)]

เอฟเวอร์ตัน 0-1 ปอร์ทสมัธ
[0-1 : ดันแค่น เฟอร์กูสัน (ทำเข้าประตูตัวเอง น.60)]

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-1 ฟูแล่ม
[0-1 : ไบรอัน แม็คไบรท์ (น.13) , 1-1 : ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย (น.78)]

ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 0-0 ลิเวอร์พูล

เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนส์ 1-2 วีแกน แอธเลติก
[1-0 : โจนาธาน กรีนนิ่ง (น.26) , 1-1 : เดวิด คอนเนลลี่ (น.41) , 1-2 : จิมมี่ บูลลาร์ด (น.90)]

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์