เวย์น รูนี่ย์ แข้งทรงคุณค่าของยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ

หลังจากจบซีซั่นแรกของ เวย์น รูนี่ย์ ในฐานะเด็กฝึกหัดที่ เซนเตอร์ ออฟ เอ็กเซลเลนซ์ ของ เอฟเวอร์ตัน, แอนดี้ วินด์เซอร์ โค้ชทีมรุ่นอายุไมเกิน 10 ปีได้ทำแบบฟอร์มประเมินความสามารถย่างเป็นทางการให้แก่สโมสร บรรยายว่า เจ้าหนูคนนี้เป็นยังไงบ้าง พอมีแววที่จะแจ้งเกิด และเติบโตในฐานะนักเตะอาชีพมั้ย

ในหัวข้อ ทัศนคติ วินด์เซอร์ บอกว่า รูนี่ย์ เชื่อฟัง แต่ฝันถึงการยิงประตู และทำทุกอย่างเพื่อส่งลูกไปกองก้นตาข่าย .... ผ่านมาวันนี้ รูนี่ย์ อายุ 24 ปี และมันไม่เปลี่ยนไปเลย

ความดีใจที่แสดงออกทางสีหน้าของ รูนี่ย์ หลังจากโขกพังประตู แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อหน้าแฟนบอลใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ช่วยยืนยันว่าเขารักการยิงประตูมากขนาดไหน ขณะเดียวกัน ประตูตามสไตล์ศูนย์หน้าอังกฤษ ลูกโขกทรงพลังของ รูนี่ย์ ไม่เพียงพา ปีศาจแดง ตบเท้าไป เวมบลีย์ เพื่อป้องกันแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ กับ แอสตัน วิลล่า เท่านั้น แต่มันยังบ่งชี้ถึงทิศทางใหม่ของ รูนี่ย์ ด้วย ... ไม่ใช่การย้ายไปเล่นทีมใหม่ แต่ รูนี่ย์ ได้แสดงให้เห็นว่า เขารักชีวิตใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่างหาก

เหมือนกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เพื่อนรุ่นพี่คนสนิทร่วมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ที่ติดครอบครัว, รูนี่ย์ ไม่ใช่นักเตะประเภทที่ใฝ่ฝันอยากย้ายไปเล่นต่างแดน (แม้เล่นได้) ผลการเรียนภาษาสเปนของเขาในชั้นเรียน คะแนนคือศูนย์สนิท แม้ในความเป็นจริง พอล สเตรทฟอร์ด ที่ปรึกษาของเขา สามารถเจรจาสัญญาสุดงามกับทีมไหนก็ได้ในโลก โดยเฉพาะถ้าเขามีศึกฟุตบอลโลกที่สุดยอด

อนาคตของ รูนี่ย์ แทบไม่สงสัยเลยว่ายังไงก็ต้องอยู่กับ ยูไนเต็ด และยิ่งจินตนาการว่าทีมจะแย่ลงขนาดไหนหากไม่มีเขาอยู่ สัญญาที่น่าจะเกิดขึ้นจากประตูในเกมกับ ซิตี้ คือ ทิศทางใหม่แบบถาวรในสนาม

รูนี่ย์ เป็นนักเตะที่เล่นเพื่อทีม มีความหลากหลาย เขารับผิดชอบได้หลายบทบาททั้งกับสโมสร และทีมชาติ ซึ่งโดยปกติแล้วเขาจะเป็นหน้าต่ำ และ รูนี่ย์ เองก็พูดบ่อยๆ ว่าชอบเล่นต่ำ เพราะทำให้เขาได้เล่นบอลมากขึ้น และเกมกับ ซิตี้ ก็ยิ่งช่วยยืนยันว่า เขาเล่นได้หมดไม่ว่าจะเป็นนักเตะหมายเลข 9 หรือเลข 10

ดูตามสถิติแล้ว การเล่นหน้าเป้าคนเดียวไม่ใช่แท็กติกที่เวิร์กสำหรับ รูนี่ย์ กับทีมชาติอังกฤษ เขาปิดฉากบอลโลกหนล่าสุดอย่างน่าอับอาย ถูกไล่ออกเพราะย่ำ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เนื่องจากเขาหัวเสียกับการถูกประกบ ตอดนิดตอดหน่อยตลอดเวลา ขณะที่การเล่นที่ดีที่สุดของ รูนี่ย์ ในยุค ฟาบิโอ คาเปลโล่ มาจากการเล่นกับ เอมิล เฮสกี้ ที่รับหน้าที่เป็นตัวชนให้ รูนี่ย์ ในการสู้กับคู่เซนเตอร์ทีมคู่แข่ง และสิ่งที่ตามมาคือสิ่งที่ คาเปลโล่ บอก รูนี่ย์ ว่าให้เขาอยู่ในกรอบเขตโทษเยอะๆ

จริงอยู่ว่า เฮสกี้ ช่วย รูนี่ย์ ได้มากตามแท็กติกของ คาเปลโล่ แต่มันก็น่าสนที่จะลองเหมือนกันถ้าเปลี่ยนให้ รูนี่ย์ เล่นหน้า โดยมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นตัวสนับสนุน ซึ่งเกมอุ่นเครื่องกับ อียิปต์ ที่ เวมบลีย์ เดือนมีนาคมนี้เป็นเวทีทดสอบที่น่าลอง และนี่จะเปิดช่องให้ อังกฤษ สามารถใช้ตัวริมเส้นอย่าง โจ โคล หรือ เจมส์ มิลเนอร์ ทางซ้าย และ ธีโอ วัลค็อตต์ ทางขวา ขณะที่ตรงกลางเป็นหน้าที่ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กับ แกเร็ธ แบร์รี่

ผลงานของ รูนี่ย์ (ยังไม่นับเกมกับ อาร์เซน่อล) ตลอด 4 เกมหลังสุด เขาซัดไป 6 ลูก ยิง 22 ลูกจาก 34 เกมในซีซั่นนี้ (รวม คอมมูนิตี้ ชิลด์ และทีมชาติ) ในส่วนทีมชาติ รูนี่ย์ ยิง 25 ลูกจาก 55 นัด และถ้ารวมประตูกับทีมชาติด้วย รูนีย์ ยิงอย่างน้อยซีซั่นละ 20 ลูกมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ในวัย 24 ปี ช่วงเวลาสำคัญของ รูนี่ย์ ในเส้นทางอาชีพ ล้วนเกี่ยวพันกับการยิงประตู ประตูที่ยิงให้ เอฟเวอร์ตัน ในเกมกับ อาร์เซน่อล ทำให้เขาเป็นที่รู้จักของโลก, ลูกชิพของเขาในการซ้อมทีมชาติอังกฤษครั้งแรกทำให้นักเตะทีมชาติรวมถึง เดวิด เบ็คแฮม ยังต้องทึ่ง หรือจะเป็นการยิง 4 ลูกในยูโร 2004 ไปจนถึงการยิง 3 ลูกในเกมแรกกับ ยูไนเต็ด ชีวิตของ รูนี่ย์ มีแต่ประตู ประตู และประตู

ความประทับใจเบื้องต้นของ วินด์เซอร์ ที่มีต่อ เจ้าหนูรูนี่ย์ ถูกต้องตรงเผง ในซีซั่นนั้น (1995-96) รูนี่ย์ ยิง 114 ลูกจาก 30 นัด (เขียนไม่ผิดหรอก 114 ลูกจริงๆ) ที่รวมถึงการยิง 8 ลูกในเกมกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และลูกโอเวอร์เฮดคิก ระยะ 20 หลา ทำให้ครอบครัวทีมคู่แข่ง ยังต้องปรบมือให้เขาจากข้างสนาม มันเลยเป็นเรื่องเข้าใจได้ง่ายมากสำหรับการประเมินของ วินด์เซอร์ ที่ยกย่องเจ้าหนูวัย 9 ขวบว่า กองหน้าธรรมชาติที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น และ วินด์เซอร์ ยังบอกด้วยว่า รูนี่ย์ เป็นคนที่มี แรงจูงใจสูง

เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ผ่านมา 14 ปี และ รูนี่ย์ ยังว่างเป็นยิงเหมือนเดิม ขณะที่ระบบการเล่น 4-5-1 ก็นำมาซึ่งความอิ่มเอมใจของทุกคนใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยกเว้น ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กับ ไมเคิ่ล โอเว่น ด้วยระบบนี้ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดแผงกลางลงไปได้เยอะแยะ เพราะทำให้ทีมมีเปอร์เซ็นต์ครองเกมสูง และสามารถถ่ายบอลออกริมเส้น ตามสไตล์ของ ยูไนเต็ด ขณะเดียวกัน รูนี่ย์ ไม่ได้มีหน้าที่ยิงประตูอย่างเดียว แต่สไตล์การเล่น และพละกำลังที่เหลือเฟือของเขา ช่วยเปิดช่องให้ผู้เล่นคนอื่นๆ มีพื้นที่เล่น และส่งบอลมากขึ้น

นี่คือระบบการเล่นที่ถูกทำให้เข้า และเหมาะสมกับผู้เล่น ปีศาจแดง ด้วยคนๆ เดียวคือ รูนี่ย์ อย่างไรก็ตาม ในรายงานปี 1995-96 วินด์เซอร์ ได้ทิ้งท้ายเอาไว้อย่างน่าสนใจคือ ผมหวังว่าเขาจะไม่เล่นฝืนตัวเองมากเกินไป