ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ห้องเครื่องแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ห้องเครื่องแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดโรคจิต ตื่นเต้นมากเวลาเกมใหญ่ๆ มาถึง เพราะจะได้ลงไปดวลแข้งกับเหล่ามิดฟิลด์ชั้นยอด ทั้ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เชส ฟาเบรกาส ชี้เคารพฝีเท้า แต่ไม่กลัว พลางยกย่อง ไรอัน กิ๊กส์ และ พอล สโคลส์ เป็นสุดยอดแบบอย่างของนักเตะรุ่นหลัง
ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กองกลางจอมขยันของทีม ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยความโรคจิตส่วนตัวว่า ชอบใจสุดๆ เวลาจะได้ลงไปปะทะแข้งกับเหล่ากองกลางชั้นยอดอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เชส ฟาเบรกาส ยอมรับ เคารพในความสามารถของทุกคน แต่ไม่เคยกลัวสักนิด เพราะชีวิตนี้ผ่านการซ้อมกับรุ่นพี่อย่าง รอย คีน และ พอล สโคลส์ มาแล้ว
จากเดิมที่ถูกนินทาว่าเป็นลูกบุญธรรมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลยได้เล่นสม่ำเสมอ ตอนนี้ เฟล็ทเชอร์ พิสูจน์คุณค่าตัวเองแล้วว่า มีดีเป็นตัวหลักของทีมเช่นกัน โดย ห้องเครื่องสกอตติช กล่าวว่า ผมไม่อยากให้มันฟังดูอวดดีอะไร แต่ผมไม่เคยเจอใครที่จะมาฉีกผมเป็นชิ้นๆ ได้ และมันเกิดขึ้นเฉพาะตอนซ้อมกับ รอย คีน และ พอล สโคลส์ เท่านั้นแหละ
ผมรู้ว่า แลมพาร์ด, ฟาเบรกาส และ เจอร์ราร์ด เก่งยังไง แต่เวลาลงสนามเจอกับพวกเขา ความคิดของผมคือ - เอาละ ขอดูหน่อยสิว่านายเก่งขนาดไหน ! ฉันจะสู้กับนาย และดูสิว่านายเป็นยังไง และเวลานายไม่ได้บอล ฉันก็จะไม่ทิ้งนาย และจะดูต่อไปว่านายเป็นยังไง ฉันจะถามนายว่า คิดฝันแบบนี้เอาไว้บ้างมั้ย ? นายว่ายังไงที่ฉันจะตามไม่ห่างตลอด 90 นาที นายได้บอลเมื่อไหร่ฉันจะอยู่ข้างหน้านาย นายจะต้องไม่ชอบแน่ๆ นายพร้อมกับเรื่องนี้มั้ย เพราะนี่แหละคือสิ่งที่จะเกิดขึ้น เฟล็ทเชอร์ ร่ายยาวอย่างโรคจิตสุดๆ
ยูไนเต็ด ผ่านการฟาดแข้งกับทีมร่วมกลุ่มบิ๊กโฟร์หมดแล้ว กว่าจะเจอกันอีกทีก็คือเกมกับ อาร์เซน่อล วันที่ 31 ม.ค. ปีหน้า โดย มิดฟิลด์วัย 25 ปี กล่าวต่อไปว่า ผมชอบเกมใหญ่ๆ ผมตื่นเต้น ไม่ประหม่า ผมตั้งใจเล่นให้ดีๆ และทดสอบความสามารถของตัวเอง ตอนแรกๆ ผมจะเล่นสบายๆ ในเกมเล็กๆ ปล่อยให้คนอื่นลุย ส่วนผมคอยหนุน แต่พอเกมใหญ่ๆ ผมจะขอบอลตลอดเวลา ผมต้องเรียนรู้ทุกเกม ทุกสัปดาห์ และในช่วง 2 ปีมานี่ที่ผมรู้ว่าต้องเล่นทุกเกมให้เหมือนเป็นเกมสุดท้าย ถ้าผมอยากอยู่ทีมนี้ ผมต้องเล่นแบบนี้
เฟล็ทเชอร์ ยังบอกอีกว่า การย้ายออกไปของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้นักเตะคนอื่นในทีมยกระดับความสามารถของตัวเองขึ้นมาชดเชย อย่างในเกมล่าสุดที่ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-0 ประตูทั้งหมดมาจากกองกลาง ผมหวังว่าทีมเราจะมีความครบเครื่องมากขึ้น และนักเตะคนอื่นๆ จะยกระดับเกมตัวเองขึ้นมาชดเชยการย้ายออกไปของ คริสเตียโน่
ตอนนี้เราเริ่มเห็นแบบนั้นแล้ว นอกจาก เวย์น รูนี่ย์ แล้ว เราต้องการประตูมากขึ้นจากแผงกองกลาง และจากนักเตะทุกคน นั่นจะทำให้เรามีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะแสดงว่าเราไม่ใช่ทีมที่พึ่งพานักเตะคนใดคนหนึ่ง ทีมต้องปรับตัวเมื่อมีนักเตะย้ายออกไป คริสเตียโน่ ทำผลงานให้ทีมมากมายเท่าไหร่ ทีมก็เสียสละเพื่อเขามากเท่านั้น เฟล็ทเชอร์ กล่าว
นอกจาก รอย คีน แล้ว เฟล็ทเชอร์ ยังเอ่ยถึงที่ได้เรียนรู้จาก พอล สโคลส์ และ ไรอัน กิ๊กส์ ว่า พวกเราบางคนประสบความสำเร็จกันคนละนิดละหน่อย แต่ กิ๊กซี่ ได้แชมป์มามากมายนับไม่ถ้วน เราอิจฉาเขา และอยากได้แชมป์เยอะๆ แบบเขา เราอยากได้แชมป์เท่าเขา เขาเป็นคนที่มีความสมดุลมาก เขาร่ำรวย และสนุกกับชีวิต แต่เขาไม่อวดใคร เขาไม่ได้ตกเป็นข่าวด้วยเหตุผลผิดๆ ทุกสัปดาห์ เขาเป็นแฟมิลี่แมน อุทิศตัวเองเพื่ออาชีพ และเป็นตำนานของ ยูไนเต็ด เขาเล่นมากกว่าใครในประวัติศาสตร์ ได้แชมป์มากกว่าใคร และยิงในพรีเมียร์ลีกทุกซีซั่น
เมื่อคุณเป็นแค่ดาวรุ่ง การมีนักเตะแบบนี้เป็นแบบอย่างเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก ผมมองดูเขา และไม่เห็นอีโก้เลย ถ้าคุณมี มันจะถูกเตะออกไปทันที นักเตะบางคนย้ายมาอย่างมั่นใจ แต่ก็แค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นแหละ ผมไม่เข้าใจเลยว่า นักเตะอย่าง สโคลซี่ ไม่มีชื่อชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีได้ยังไง ที่เขาไม่ได้รับรางวัลพวกนี้น่าจะเป็นเพราะพอซ้อมเสร็จเขาก็หายตัว ไม่ได้ให้สัมภาษณ์อะไร
คุณมองดูนักเตะต่างชาติหลังจบเกมถ้วยยุโรปสิ พวกเขาอยากแลกเสื้อ กิ๊กส์ กับ สโคลส์ ทั้งนั้น และมันตลกมากตอนเห็น (อีบัน) เด ลา เปนย่า ก่อนเกมกับ เอสปันญ่อล ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เขาดูทึ่ง สโคลซี่ สุดๆ และมองเขาราวกับเป็นพระเจ้า เขาจัดแจงเรื่องการแลกเสื้อตั้งแต่ก่อนเกม สโคลซี่ ดูจะอายๆ นักเตะเก่งๆ รู้ว่าใครสุดยอด และเคารพพวกเขา ผมซ้อมกับ สโคลซี่ ทุกวัน ผมรู้ว่าเขาเก่งขนาดไหน ผมไม่ได้เสี้ยวเขาด้วยซ้ำ
กระทู้เด็ดน่าแชร์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
