ลีซัดชัยผีเฉือนครูว์ 2-1

คีแรน ลี กองหลังดาวรุ่งวัย 18 ปี สวมบทฮีโร่ซัดประตูชัย


ให้ ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเฉือนชนะ ครูว์ อเล็กซานดร้า แบบหวุดหวิด 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ด้าน สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี บุกต้อนชนะ กุหลาบไฟ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ถึงรัง 2-0 ส่วน หงส์แดง ลิเวอร์พูล เกือบเสียท่าในบ้าน เฉือนชนะ เรดดิ้ง สุดมันส์ 4-3 ศึกคาร์ลิ่ง คัพ รอบสาม เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ดาริโอ เกรดี้ ผู้จัดการประสบการณ์สูงของครูว์


ยังยึดผู้เล่นชุดเดิมจากเกมลีกนัดพ่าย แบล็คพูล 1-2 เป็นแกนหลักต่อไปนำทีมโดย เบน วิลเลี่ยมส์ ผู้รักษาประตู แนวรับประกอบไปด้วย ฌูเลียง โบเด้ต์, นีล ค็อกซ์,โจน ออตเซโมบอร์ และ แอนดี้ เทย์เลอร์ ส่วน นิคกี้ เมย์นาร์ด และ ลุก วอร์นี่ย์ รับหน้าที่ล่าตาข่าย

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


จัดนักเตะดาวรุ่งลงร่วมทัพอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เดวิด เกรย์,เดวิด โจนส์,ริชชี่ โจนส์ และ ฟิล มาร์ช โดยมีนักเตะรุ่นพี่เข้ามาเสริม ได้แก่ กาเบรียล ไฮน์เซ่, มิกาเอล ซิลแวสต์ และ คีแรน ริชาร์ดสัน

คู่กองหน้าเป็น อลัน สมิธ และ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งรับหน้าที่เป็นกัปตันทีมด้วย

เปิดฉากเกมในครึ่งแรกได้เพียง 4 นาที


ครูว์ เริ่มเดินเครื่องเข้าใส่ทันที เมื่อ นีล คอกซ์ หยอดโค้งให้ เบน ริกซ์ ซึ่งยืนอยู่ตรงกลางเขตโทษได้ยิงด้วยขวาแต่ตรงตัว คูส์แซค ต่อมาในนาที 15 ครูว์น่าจะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ลุก วอร์นี่ย์ เข้าไปซ้ำของลูกยิงของ ออสบอร์น แต่ผู้ตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้า

ถัดมา 6 นาที เจ้าบ้านลุ้นจากลูกฟรีคิกแต่ ไรอัน โลว ซัดเหินข้ามคานบอลเลี้ยวออกไปด้านซ้าย

และแล้วนาที 26 แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำไปก่อน 1-0


จากจังหวะที่ ริชชี่ โจนส์ ลากบอลเดี่ยวขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวา เลี้ยงหลบกองหลังครูว์แล้วจ่ายผ่านหน้าเขตโทษให้ โซลชา ที่ยืนรอหน้าประตูแปด้วยซ้ายเข้าไปอย่างง่ายดาย ถัดมาอีก 1 นาที ริชาร์ดสัน ซัดด้วยขวาเต็มข้อแต่นายทวารพุ่งปัดชนคานออกไป

เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง เจ้าบ้านยังเดินหน้ารุกคืบเพื่อต้องการประตูตีเสมอ


และเกือบทำได้ในนาที 38 เมื่อ วอร์นี่ย์ เลี้ยงหลบกองหลังปิศาจแดง ถึงหน้าเขตโทษ ก่อนที่จะตัดสินใจซัดด้วยขวาบอลข้ามคาน จากนั้นในนาที 43 โซลชา โยนข้ามฟาก ฟิล มาร์ช รับบอลแล้วลองสับไกระยะ 25 หลา แต่ไม่เข้ากรอบ

เข้าสู่ท้ายของครึ่งแรก


เจ้าบ้านโหมเข้าใส่อย่างต่อเนื่องแต่ขาดความในจังหวะสุดท้าย ทำให้หมด 45 นาทีแรก แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0

ครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้น 15นาที ทั้งสองทีมผลัดกันแลกเกมบุกอย่างสนุก


โดยเฉพาะ ครูว์ ที่พยายามเล่นเร็วและเข้าตัดจังหวะของทีมเยือนไม่ปล่อยให้ขึ้นไปเล่นหน้าประตู ทว่าในนาที 73 แฟนบ้านเจ้าบ้านก็ได้เฮลั่น เมื่อ เมย์นาร์ด จ่ายบอลให้ วอร์นี่ย์ เลี้ยงหลบแล้วยิงแฉลบกองหลังทีมเยือนเข้าไป ตีเสมอ 1-1

ถัดมาไม่นานทั้งสองทีมต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นพร้อมกัน


เมื่อ แอนดี้ เทย์เลอร์ และ เดวิด เกรย์ กระโดดแย่งบอลพร้อมกันทำให้ศรีษะกระแทก โดยฝั่งเจ้าบ้านส่ง ลี เบลล์ ลงมาแทน เทย์เลอร์ และ ทีมเยือนส่ง คีแรน ลี แบ๊กซ้าย แทน เกรย์

ในนาที 77 ครูว์มาพลาดโอกาสทองเป็นอย่างยิ่ง


เมื่อ ทำชิ่งกับ วอร์นี่ย์ ได้ยิงมุมซ้ายหน้าเขตโทษแต่ คูส์แซค ล้มตัวเซฟติดขาและลุกคว้าบอลเอาไว้ได้ทัน ต่อมานาที 81 ลี ได้ซัดจ่อๆ หน้าประตูแต่ดันไปตรงตัวผู้รักษาประตู และในนาที 82 ปิศาจแดงมาพลาดได้ประตูสำคัญ เมื่อ ริชาร์ดสันวิ่งจากกลางสนามรับบอลจากโซลชา และขึ้นหน้าหลุดเดี่ยวแต่กลับยิงชนโคนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือเกมบุกก็ตกเป็นของแมนฯ ยูไนเต็ด จนกระทั่งหมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที เสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป 30 นาที

ช่วงแรกของการต่อเวลาพิเศษเริ่มต้นขึ้น


ในนาที 95 ไฮน์เซ่ โยนโด่งจากกลางสนามมาหน้าประตู โซลชา กระโดดเข้าชาร์จบอลโด่งข้ามคาน ต่อมานาที 102 เดวิด โจนส์ มีจังหวะซัดด้วยขวาระยะ 12 หลาแต่ติดเซฟผู้รักษาประตู

ครึ่งหลังของช่วงต่อเวลาพิเศษ แมนฯ ยูไนเต็ดทำชิ่งได้สวย


เมื่อโชลซา จ่ายให้ ริชาร์ดสันแต่บอลติดเท้ายิงไม่ถนัด กองหลังครูว์สกัดออกไป ทว่าในนาที 119 คีแรน ลี กระชากบอลเดี่ยวขึ้นมาทางริมเส้นขวาแล้วล็อกหลบกองหลังหนึ่งจังหวะก่อนซัดเรียดด้วยขวาเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม ปิศาจแดง ขึ้นนำ 2-1

และจบด้วยสกอร์นี้หมดเวลาการแข่งขัน 120 นาที ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบ 4 ต่อไป




สนับสนุนข้อมูลข่าว:


และภาพประกอบข่าวโดย:
ลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์