เปิดไม่สวย!ผีพิการแค่เจ๊านิวในบ้าน

เปิดไม่สวย!ผีพิการแค่เจ๊านิวในบ้าน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชุดพิการเจอทีเด็ดนิวคาสเซิ่ลที่วันนี้เล่นดีสุดๆบุกมาฉกแต้มออกจากรังโอลด์แทรฟฟอร์ดโดยเด็กป๋าต้องพึ่งประตูตีเสมอเร็วของดาร์เรน เฟลทเชอร์เปิดสนามในฤดูกาล 2008-09 ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่

แมนฯยูฯ 1-1 นิวคาสเซิ่ล

สนาม :
โอลด์แทรฟฟอร์ด

ประตู : 0-1 มาร์ตินส์ น.22,1-1 เฟลทเชอร์ น.24


เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจำใจต้องส่งเจ้าหนูเฟเซอร์ แคมป์เบลล์ลงเป็นตัวจริงหลังคาร์ลอส เตเบซมีอาการบาดเจ็บจนไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรองส่วนเควิน คีแกนส่งแข้งใหม่อย่างโคลอชชินี่ยืมคุมหลังและยังมีแดนนี่ กัทธีและโจนาส กูเตียร์เรซอีกด้วยแต่อลัน สมิธเด็กเก่าผีมีชื่อแค่ตัวสำรองเท่านั้น

สัมผัสบอลแรกของโคลอชินี่แข้งใหม่นิวคาสเซิ่ลคือการพุ่งเสียบแคมป์เบลล์หน้าเขตโทษจนตัวลอยทำให้ยูไนเต็ดได้ฟรีคิกระยะ 20 หลาแต่ลูกยิงกิสก์อัดไปชนแขนมิลเนอร์แต่ไมค์ ไรลีย์ play on ให้เล่นต่อ

นาทีที่ 5 มาร์ตินส์ยึกยักตรงระยะ 25 หลาหลบเฟอร์ดินานด์ที่ปั๊มบอลไม่ดีก่อนตัดสินใจยิงไกลบอลพุ่งเป็นแสงวาบแต่เหินข้ามคานออกไป

อีก 2 นาทีต่อมาปิศาจแดงพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดายเมื่อไรกิกส์เปิดบอลโค้งจากปีกซ้ายให้เจ้าหนูเฟเซอร์ แคมป์เบลล์ทะยานโขกเป็นแมวน้ำใส่เต็มๆจากระยะ 6 หลาแต่เชย์ กิฟเว่นที่ไม่ได้ทำอะไรแถมหวาหลับตาหยีแต่บอลพุ่งชนกบาลกลายเป็นซูเปอร์เซฟหน้าตาเฉย

แต่อีกแค่นาทีเดียวมาร์ตินทำชิ่ง 1-2 กับกูเตียร์เรซที่วิ่งควบบึ่งจากกลางสนามทะลุเป็นเส้นตรงสู่กรอบโทษและจังหวะแตะหนีเข้าเขตโทษถูกวิดิชวิ่งมาชนกระเด็นแต่กรรมการทำปากเบะให้เล่นต่อ

ตอนนี้รูปเกมของสาลิกาไม่เป็นรองเลยแต่จังหวะเข้าทำของยูไนเต็ดคมและน่ากลัวกว่าชัดเจน

นาทีที่ 14 ยูไนเต็ดมาเป็นชุดจากจังหวะที่รูนีย์กลับตัวซัดในกรอบโทษแต่กิฟเว่นล้มตัวปัดก่อนจะโชว์ปฏิกริกยาลุกมาประสานมือปัดลูกซ้ำจ่อๆเผาขนของพอล สโคลส์จากระยะ 3 หลาอย่างสุดยอด

แต่แล้วนาที 22 ฟ้าผ่ากลางโอลด์แทรฟฟอร์ดเมื่อกัทธีเตะมุมย้อยมากลางประตูระยะ 8 หลาเป็นมาร์ตินที่กระโดดคนเดียวโล่งๆไร้คนประกบโหม่งบอลพุ่งไปชนสโคลส์ซึ่งยืนคุมเส้นและพยายามตีเข้าสกัดแต่บอลมาเร็วและแรงเลยเข้าประตูไป สาลิกาพลิกนำ 1-0

ดีใจได้แค่ 2 นาทีปิศาจแดงมาตีเสมอทันควันจากลูกที่ไรอัน กิกส์พาบอลเฉื่อยตรงริมกรอบโทษฝั่งซ้ายโดยมีมิลเนอร์จังก้าประกบอยู่แต่ก็ยังอัดอีซ้ายยัดเข้ามาตรงจุดนัดพบก่อนที่เฟลทเชอร์วิ่งมาแหย่ขาด้านนอกยิงตุงตาข่ายทะลุตัวกิฟเว่นเข้าไปไม่มีเหลือ

ตอนแรกทีมเยือนที่คาดว่าจะมาถูกถลุงข้างเดียวกลับกลายเป็นว่าสู้ได้ไม่เป็นรองโดยเฉพาะความว่องไวของมาร์ตินและกูเตียร์เรซที่เล่นงานจนแนวรับของเจ้าถิ่นป่วนใช้ได้เลย

ชมไม่ทันขาดคำนาที 37 นิวคาสเซิ่ลเกือบโดนหลังกิกส์ปาดบอลจากซ้ายเข้ามาตรงระยะ 6 หลาเป็นเบย์ที่ล้มตัวสกัดบอลเปลี่ยนทางเกือบเข้าประตูตัวเองดีที่กิฟเว่นยังว่องปัดทิ้งก่อนที่รูนีย์จะมาตีลังกาซ้ำบอลล้นออกหลังไป

ช่วงท้ายเกมยูไนเต็ดพยายามจะยิงประตูขึ้นนำให้ได้แต่สุดท้ายต้องชมความขยันของแข้งสาลิกาทำให้หมดครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ 1-1

ครึ่งหลังเริ่มมา 5 นาทีนิคกี้ บัตต์อดีตเด็กผีวางบอลยาวจากแดนตัวเองให้มาร์ตินดูดเอาลงทางปีกซ้ายก่อนลากตัดเข้าขวาข้างไม่ถนัดแล้วส่องไกลแต่ฟาน เดอร์ ซาร์ยืนตำแหน่งดีรับเข้ามือพอดี

นาที 57 เจ้าหนูแคมป์เบลล์แสดงให้คนทั้งโลกเห็นว่าทำไมป๋าถึงไว้ใจส่งลงสนามหลังได้บอลแล้วล็อกหลอกแนวรับนิวคาสเซิ่ลม้วนสองตลบก่อนยิงไกลนอกเขตบอลพุ่งเลียดกะเสียบเสาแรกแต่กิฟเว่นพุ่งปัดทิ้งออกหลังนิดเดียว

นานๆทีนิวคาสเซิ่ลจะขึ้นมาลุ้นยิงประตูและก็ได้เสียวจากลูกยิงไกลของมาร์ตินส์และมิลเนอร์โดยคนหลังลุ้นซัด 20 หลาในนาที 61 แต่แฉลบเฉี่ยวคานจากนั้นลูกเตะมุมเป็นยูไนเต็ดที่คุมไม่ดีปล่อยให้มาร์ตินส์ได้โขกเหน่งๆแค่ 6-7 หลาแต่คราวนี้เหินข้ามคานออกไปเอง

ถัดมาอีกนาทีเดียวเอวร่าเปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายบอลย้อยมาเข้าหัวเจ้าหนูแคมป์เบลล์แต่ต้องถอยหลังทำให้บอลออกแนวย้อยๆเข้ามือกิฟเว่นสบาย

ยูไนเต็ดเหนื่อยกว่าที่คาดเพราะการที่แดนหน้าไม่มีตัวเปลี่ยนทำให้รูปเกมที่แม้ยังหาจังหวะบุกเรื่อยๆแต่การจบสกอร์เริ่มห่างไกลความจริงเข้าไปทุกขณะจิตแล้ว

นาที 73 เจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูขึ้นนำสุดๆเมื่อลูกเตะมุมเป็นวิดิชกระโดดขี่ตัวประกบโหม่งบอลเด้งพื้นข้ามหัวมิลเนอร์ตัวคุมเสาแล้วแต่บอลดันไปจูบคานอย่างน่าเสียดาย

ยิ่งเวลาหมดไปความร้อนรนของเจ้าถิ่นก็มีสูงขึ้นเรื่อยๆเพราะจังหวะสวนกลับของนิวคาสเซิ่ลเรียกฟาว์ลได้บ่อยครั้งโดยนาที 82 เวส บราว์นมารับใบเหลืองต่อจากแคมป์เบลล์อีกคน

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 แฟนนิวสะดุ้งกันเป็นแถวหลังนิคกี้ บัตต์ไปหัวราฟาเอล ดา ซิลวาบนเส้นโทษจนหัวขมำผู้ตัดสินชี้ให้เป็นฟรีคิก 18 หลาและเป็นโอกาสสุดท้ายของปิศาจแดงแต่รูนีย์ปั่นไซด์อ้อมกำแพงแต่บอลไม่เลี้ยวหลุดออกข้างตาข่ายแบบหลอกให้เสียวเล็กน้อย

ต้องบอกว่าไอเดียของปิศาจแดงหมดเอาดื้อๆเพราะไม่มีตัวสร้างสรรค์เกมอย่างคริสติอาโน่ โรนัลโด้,คาร์ลอส เตบซ,นานี่และอันแดร์สันก่อนยอมรับสภาพแบ่งแต้มกับนิวคาสเซิ่ลกันไป

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :

แมนฯยูฯ :
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6,เวส บราว์น 6,เนมันย่า วิดิช 7,ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7,ปาทริซ เอวร่า 7,ดาร์เรน เฟลทเชอร์ 7,ไมเคิ่ล คาร์ริค 5,พอล สโคลส์ 5,ไรอัน กิกส์ 6(พอสเซนบอน น.63,6),เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ 6 (ราฟาเอล ดา ซิลวา น.80),เวย์น รูนีย์ 7

สำรองไม่ได้ลงสนาม : คูสแซ็ค,แกรี่ เนวิลล์,อีแวนส์,กิบสัน

นิวคาสเซิ่ล : เชย์ กิฟเว่น 8,ฮาบิบ เบย์ 6,สตีเฟ่น เทย์เลอร์ 7,ฟราบริซิโอ โคลอชชินี่ 8,ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบียร์ 6,เจมส์ มิลเนอร์ 8,นิคกี้ บัตต์ 6,แดนนี่ กัทธรี 6,โจนาส กูเตียร์เรซ 9*,ดาเมี่ยน ดัฟฟ์ 7,โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ 8

สำรองไม่ได้ลงสนาม : ฮาร์เปอร์,โฆเซ่ เอ็นริเก้,บาสซง,อลัน สมิธ,เฌเรมี่,เอ็ดการ์,โดนัลด์สัน

































 

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์