ฟรีเดลซูเปอร์เซฟ! ผีเซ็งดีสุดแค่ไล่เจ๊ากุหลาบสุดมัน

แบร๊ด ฟรีเดล ร่ายลีลาซูเปอร์เซฟระดับโลกให้ดูเป็นบุญตานับไม่ถ้วนในเกมที่ "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ทำประตูออกนำ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนจะช่วยกันต้านทานสุดชีวิตแม้สุดท้ายจะพลาดโดนคาร์ลอส เตเวซ ไล่ตีเสมอก่อนหมดเวลาแค่ 2 นาทีก็ตาม


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (19 เม.ย.2551)

แบล็คเบิร์น 1-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
สนาม : อีวู้ด ปาร์ค
ประตู : 1-0 โรเก้ ซานตา ครูซ น.21, 1-1 คาร์ลอส เตเวซ น.88


"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จัดทัพชุดใหญ่เต็มๆลงสนามแบบไม่มีกั๊กแม้จะมีเกมแชมเปี้ยนส์ ลีกกับบาร์เซโลน่าให้ห่วง เนื่องจากต้องการโกยแต้มหนีเชลซีที่ไล่มาเหลือ 2 แต้มออกไปให้ได้มากที่สุด โดยยังได้เนมันย่า วิดิช กองหลังตัวหลักกลับมาอีกครั้งด้วย
 
เริ่มเกมมาก็มันทันทีเมื่อทางแบล็คเบิร์นเกือบจะมีโอกาสได้ประตูขึ้นนำไปก่อน เมื่อเจสัน โรเบิร์ตส ได้บอลกระฉอกมาเข้าทางจนหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับโทมัส คุสแซ็ค ก่อนโดนเข้ามาดักร่วงลงไปในเขต แต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าเป็นจุดโทษ
 
จังหวะถัดมาแมนฯ ยูไนเต็ดสวนกลับทันทีเอวร่า กระชากบอลมาจากแดนตัวเองก่อนให้รูนี่ย์ซัดไปแฉลบกองหลัง ลูกมาเข้าทางโรนัลโด้ ยิงด้วยซ้ายแฉลบกองหลังอีกครั้งลูกเปลี่ยนทางจนฟรีเดลหลงไปแล้ว แต่ยังดีที่ลูกหมุนช้าทำให้วิ่งกลับมาตะครุบได้ทัน
 
ปีศาจแดงยิ่งโถมหนักและมีโอกาสกดดันจนแนวรับทีมเจ้าบ้านออกอาการกระอักกระอ่วนเหมือนกันโดยเฉพาะการขึ้นเกมทางริมเส้นที่อันตรายสุดๆ หมายจะเบิกสกอร์แรกให้ได้โดยเร็วที่สุด
 
ทีมเยือนบุกมาแต่ละช็อตน่ากลัวสุดๆ รูนี่ย์ ได้บอลวางตัดจากคาร์ริคเข้ามาในเขตโทษก่อนจะปาดมากลางประตูให้เตเวซ เข้าชาร์จแต่จิ้มวืดไปนิดเดียวเท่านั้น
 
แต่แล้วในนาทีที่ 21 แฟนๆโรเวอร์สและแฟนเชลซีก็ได้เฮพร้อมกัน เมื่อความผิดพลาดในเกมรับของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่สกัดบอลกันพลาดจนลูกมาเข้าทางซานตา ครูซ เก็บส้มหล่นกินง่ายๆให้แบล็คเบิร์นพลิกล็อกนำ 1-0
 
จ่าฝูงเจอลูบคมไปก่อนก็โหมบุกหนักแต่เกือบโดนทีเด็ดจากลูกยิงไกลของเดวิด เบนท์ลี่ย์ ที่ลากมาซัดจากระยะกว่า 30 หลาแต่คุสแซ็คยังปัดออกไปได้
 
แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามจะฟ้องเอาจุดโทษในจังหวะที่รูนี่ย์โดนสตีเฟ่น รีด รวบล้มในเขตโทษแต่ผู้ตัดสินก็ไม่เป่าให้เหมือนกัน ก่อนที่น่าจะได้ประตูตีเสมอสุดๆในช่วงท้ายจากลูกที่โรนัลโด้ เทคตัวขึ้นขวิดบอลจ่อๆหน้าประตูแต่ฟรีเดล ยังเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้จบครึ่งแรกเจ้าบ้านก็เลยนำอยู่ 1-0
 
ทว่าครึ่งแรกที่ว่ามันแล้วก็สู้ครึ่งหลังไม่ได้ เมื่อเกมตลอด 45 นาทีสุดท้ายในอีวู้ด ปาร์ค ทวีความเร้าใจยิ่งกว่าหนังแอคชั่นฮอลลีวู้ดดีๆซักสิบเรื่องเสียอีก
 
เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่งนานี่ลงมาแทนไรอัน กิ๊กส์ ปีกจอมเก๋าที่หมดฟอร์มในวันนี้แต่ดูเหมือนจะยังไม่เป็นผลเท่าไหร่เนื่องจากแบล็คเบิร์นยังสู้กับจ่าฝูงได้อย่างสนุกสูสี
 
จนเข้าสู่นาทีที่ 65 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ก็เกือบช่วยตีเสมอให้กับแมนฯ ยูไนเต็ดได้ เมื่อเก็บบอลได้ที่ระยะ 25 หลาก่อนเกร็งขาตะบันด้วยอีซ้ายเน้นๆ ลูกพุ่งกระดอนพื้นก่อนไปชนเสากระดอนออกไปอย่างน่าเสียดาย
 
แบล็คเบิร์นยังรอดตัวในจังหวะต่อมาเมื่อรูนี่ย์ ที่ดูเหมือนมีอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้โขกไปโดนขาของเนลเซ่นจนบอลเปลี่ยนทางแต่ฟรีเดล ก็ยังไวพอที่จะเซฟได้
 
ถัดมาอีก 2 นาที เจ้าบ้านก็เกือบได้บ้างในจังหวะขึ้นโขกของซานตา ครูซ ที่เทคตัวเหนือปาทริซ เอวร่า คุสแซ็คเกือบเสียทีในจังหวะนี้แต่ก็ยังเอาตัวรอดไปได้
 
แฟนๆโรเวอร์สในสนามเกือบได้เฮอีกครั้งในนาทีที่ 74 เมื่อพีเดอร์เซ่นได้ลากบอลหลุดเข้าไปถึงในกรอบเขตโทษแล้วแต่กลับตัดสินใจยิงมุมแคบเสียเองจนโดนคุสแซ็คปัดออกไป ทั้งๆที่มีเพื่อนรออยู่หน้าปากประตูอยู่
 
เมื่อไม่ได้จังหวะนี้ก็เป็นทีของทีมเยือนที่กลับมาโหมเกมหนักในช่วง 15 นาทีสุดท้ายจนนักเตะเจ้าบ้านวิ่งไล่กันขาขวิด ไม่นับฟรีเดล ที่ต้องเซฟเป็นพัลวัน
 
ความตื่นเต้นเหมือนหนังทริลเลอร์เริ่มในนาทีที่ 79 เมื่อเตเวซ ได้สบโอกาสยิงจ่อๆจากระยะไม่กี่หลา ฟรีเดลเซฟได้จังหวะแรกแต่บอลทำท่าจะกลิ้งเข้าประตูอยู่แล้ว โชคดีที่บอลหมุนช้าทำให้นายทวารมะกันตามมาตะครุบได้จากบนเส้นแบบหวุดหวิดสุดๆ
 
ต่อมาคาร์ริค ก็โหม่งในจังหวะลูกเซ็ตเพลย์ไปโดนแขนของเอเมอร์ตันเต็มๆแต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้จุดโทษ ก่อนที่นานี่จะจ่ายให้รูนี่ย์หลุดแต่ฟรีเดลก็ยังเซฟได้อย่างเหลือเชื่อ
 
นายทวารชาวมะกันยังเซฟได้อย่างมหัศจรรย์ในจังหวะต่อมา เมื่อป้องปัดลูกยิงเผาขนของจอห์น โอเช ออกไปได้แบบที่แฟนปีศาจแดงแทบไม่อยากเชื่อสายตา
 
อย่างไรก็ดีเก่งแค่ไหนแต่ฟรีเดล ก็หมดสิทธิ์เซฟลูกตีเสมอของคาร์ลอส เตเวซ ที่ได้ลูกโขกชงต่อมาจากสโคลส์ ก่อนจะขวิดเข้าไปให้แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ตีเสมอได้สำเร็จ 1-1 ก่อนหมดเวลาแค่ 2 นาที
 
ช่วงที่เหลือปีศาจแดงโหมหนักจะเอาชนะให้ได้แต่ก็ทำไม่สำเร็จ จบเกมเลยเสมอกันไปแบบสุดระทึกทำให้ช่องว่างของแมนฯ ยูไนเต็ดกับเชลซีเหลือแค่ 3 คะแนน และทั้งสองทีมจะลงเล่นนัดตัดสินแชมป์กันที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในสัปดาห์หน้า


รายชื่อผู้เล่น
แบล็คเบิร์น : แบร๊ด ฟรีเดล, เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, คริสโตเฟอร์ แซมบ้า, ไรอัน เนลเซ่น, สตีเฟ่น วอร์น็อค, เดวิด เบนท์ลี่ย์, สตีเฟ่น รีด, โยฮัน โฟเกิ้ล (อารอน โมโคเอน่า น.85) , มอร์เท่น กัมสท์ พีเดอร์เซ่น, โรเก้ ซานตา ครูซ, เจสัน โรเบิร์ตส

แมนฯ ยูไนเต็ด : โทมัส คุสแซ็ค, เวส บราวน์ (จอห์น โอเช น.81) , ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมันย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ไมเคิล คาร์ริค, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์ (นานี่ น.46) , คาร์ลอส เตเวซ, เวย์น รูนี่ย์ (พาร์ค ชี ซอง น.90)

ผู้ตัดสิน : ร็อบ สไตล์ส 


ขอบคุณข้อมูลข่าวดีๆจาก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์